หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ถั่วลันเตา สรรพคุณมีอะไรบ้าง ทำอะไรกินได้บ้าง แคลอรีเยอะแค่ไหน

โพสท์โดย มารคัส

สมาชิกถั่วรายสุดท้ายที่อยากจะมาแนะนำวันนี้ หลายคนอาจจะรู้จักดีแล้วกับถั่วลันเตาซึ่งมักเป็นถั่วที่อยู่คู่เมนูอาหารสำคัญๆหลายรายการไม่ว่าจะเป็นซี่โครงหมูทอดราดน้ำถั่วลันเตา หรือนำไปผัดกับสี่สหายในรายการข้าวผัด ก่อนที่จะมาคุยกันว่ามีเมนูอะไรบ้าง มาทำความรู้จักกับสรรพคุณของถั่วชนิดนี้กันก่อนดีกว่า

ถั่วลันเตา (Pea/Green pea) เป็นพืชล้มลุกตระกูลถั่วที่นิยมนำส่วนต่างๆมาบริโภค อาทิ ฝักอ่อน ยอดอ่อน เมล็ดสด และเมล็ดแห้ง โดยเฉพาะฝักอ่อนที่นิยมปลูกเพื่อนำมาปรุงอาหาร และเมล็ดถั่วแห้งที่แปรรูปเป็นถั่วคั่ว และแป้งจากถั่ว

• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pisum sativum
• ชื่อสามัญ :
– Sugar bean
– Pea
– Sweet pea
– Garden pea
– Green pea

ถั่วลันเตา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา แพร่เข้ามาในแถบประเทศเมดิเตอร์เรเนียน และเอเชีย รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยเชื่อว่าถั่วลันเตาการผสมข้ามพันธุ์ของพืชตระกูลถั่ว 2 ชนิด คือ Pisum arvense และ Pisum elatius Steven

มีการบันทึกการเพาะปลูกถั่วลันเตา เริ่มแรกในแถบเอเชียตะวันตก และทวีปยุโรป และแพร่เข้าสู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน และเอเชีย ได้แก่ อินเดีย และจีน ผ่านทางธิเบตในศตวรรษที่ 7 และแพร่เข้าสู่แถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงต่อมา

คำว่า ถั่วลันเตา สันนิษฐานว่า เมื่อครั้งประเทศจีนที่มีการนำเข้าถั่วลันเตาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ คนจีนเรียกถั่วนี้ว่า “ฮอลแลนด์เตา” หรือ “ฮอลลันเตา” ซึ่งคำว่า “เตา”  ภาษาจีนแปลว่า “ถั่ว” และมีการใช้คำนี้มากในหมู่คนจีนที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย จนผสมคำ และเรียกว่า “ถั่วลันเตา” (เริงชัย, 2536)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
1. ลำต้น
ถั่วลันเตามีลำต้นเป็นเถาเลื้อย ที่มีลำต้นหลัก และแตกกิ่งสาขาตามข้อของลำต้น ลำต้นหลักสามารถยาวได้มากกว่า 2 เมตร

2. ใบ
ใบถั่วลันเตาเป็นใบประกอบ มีก้านใบหลักแทงออกบริเวณข้อของลำต้น ประกอบด้วยหูใบ 1 คู่ มีลักษณะเรียบหรือหยักลึก โดยมีใบย่อยออกเป็นคู่ๆ ตรงข้ามกัน ใบมีสีเขียว โคนใบสอบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ มีขนขนาดเล็ก มีเส้นใบชัดเจน

3. ดอก
ดอกถั่วลันเตาออกเป็นช่อ ช่อละ 1-3 ดอก แทงออกบริเวณระหว่างโคนใบของข้อในลำต้น พันธุ์ที่ออกดอกเร็วจะออกดอกแรกบริเวณข้อที่ 5-11 ส่วนพันธุ์ที่ออกดอกช้าจะออกบริเวณข้อที่ 13-15 ดอกที่พบมี 2 สี คือ สีขาว และสีม่วง ประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 3 กลีบ คือ
– กลีบดอก Standard เป็นกลีบที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่ด้านบนสุดของดอก ดอกตูมที่ยังไม่บานจะมีกลีบดอกชนิดนี้ห่อหุ้มดอกทั้งหมด แต่เมื่อดอกบาน กลีบหุ้มนี้จะคลี่ออก และปลายกลีบโค้งออกด้านหลัง
– กลีบดอก Wing เป็นกลีบดอกที่มีขนาดเล็กรองลงมา ประกอบด้วย 2 กลีบ อยู่ด้านข้างดอก
– กลีบดอก Keel เป็นกลีบดอกเรียวยาวคล้ายหลอด อยู่บริเวณด้านในสุด ทำหน้าที่ห่อหุ้มเกสร เกสรประกอบด้วยเกสรเพศผู้ 10 เส้น โดย 9 เส้น เรียงล้อมรอบรังไข่ ส่วนอีก 1 เส้น มีขนาดสั้นกว่า จะแยกตัวอยู่อิสระ ส่วนเกสรเพศเมียจะอยู่ตรงกลางสุดของดอกที่เป็นรังไข่แบนยาว สีเขียว ก้านชูเกสรโค้งยาว

4. ฝัก และเมล็ด
ฝักถั่วลันเตาอ่อนมีลักษณะสีเขียว แบนเรียบ แต่จะนูนเฉพาะบริเวณของเมล็ด เมื่อฝักโตจะมีลักษณะอวบนูนทั้งฝัก มองไม่เห็นส่วนของเมล็ด ฝักจะโค้งคล้ายดาบ เมล็ดภายในฝักมีประมาณ 5-7 เมล็ด ขึ้นอยู่กับพันธุ์

 

ถั่วลันเตา มีสรรพคุณเพื่อดวงตาและผิวพรรณที่สดใส

ถั่วลันเตาจัดเป็นผักที่ให้แคลอรี่น้อยมาก โดยพบว่าเพียง 1 ขีดของถั่วลันเตาให้พลังงานเพียง 45-50 กิโลแคลอรี่เท่านั้น อีกทั้งเป็นแหล่งของวิตามินเอที่สำคัญและกลุ่มเบตาแคโรทีน ดังนั้นการบริโภคถั่วลันเตาจะมีส่วนช่วยให้ดวงตาของคุณสดใส ดังนั้นหากใครทำงานที่ต้องใช้สายตามากๆนอกจากจะบริโภคผักบุ้งแล้ว ผักชนิดนี้ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกด้วย นอกจากสรรพคุณในด้านบำรุงสายตาแล้ว ในด้านผิวพรรณ ยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย และส่งเสริมผิวพรรณอีกด้วย

ถั่วลันเตาช่วยบำรุงระบบประสาทและกระดูกของร่างกาย

นอกจากวิตามินเอแล้ว ยังเป็นแหล่งของวิตามิน B1 ซึ่งในถั่วลันเตา 100 กรัมจะมีไทอะมีนอยู่มากถึงร้อยละ 60 ของความต้องการร่างกาย ซึ่งวิตามิน B1 นี้มีส่วนช่วยการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย ดังนั้นใครที่ทำงานที่ต้องเผชิญกับความเครียดบ่อยๆ การรับประทานผักนี้จะช่วยบรรเทาภาวะความเครียดหรือระบบประสาทได้ นอกจากนี้ทราบหรือไม่ว่าในถั่วลันเตามีปริมาณแคลเซียมอยู่มาก ซึ่งจะมีผลสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟันในร่างกาย

ความสำคัญอีกประการคือ มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้เนื่องจากมีปริมาณไฟเบอร์อยู่มาก ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มกากใยอาหารและลดการสะสมของเสียในลำไส้จนนำไปสู่การลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในที่สุด นอกจากนี้ยังมีงานศึกษาที่ระบุว่าถั่วลันเตานั้นอุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินซี โฟเลต สิ่งสำคัญทั้งหมดนี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญและเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งในร่างกายอีกด้วย

คลิปจาก จินตนาการความรู้

ถั่วลันเตา สามารถทำเมนูอะไรอร่อยๆได้บ้าง

สำหรับเมนูอาหารคลีนจากถั่วลันเตาหลายคนอาจจะยังถึงไม่ออก แต่สำหรับเด็กๆแล้วเมนูข้าวผัดสามสี ที่มีส่วนผสมของแครอท ข้าวโพดอ่อน และถั่วลันเตาผัดกับข้าวร้อนๆน่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนพอคุ้นชินบ้าง หรือในบางคนที่เป็นคออาหารจีนอาจจะนึกออกว่าถั่วลันเตาเป็นอาหารที่เสริมรสชาติได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทอดซี่โครงหมูและราดน้ำเกรวี่ที่มีถั่วลันเตาผสมอยู่ในนั้นลงบนหมูทอดร้อนๆ เท่านี้ก็จะได้รสชาติหวานของถั่วลันเตาผสมกับความเข้มข้นของหมูทอดแล้ว เพียงแค่สองเมนูนี้ก็คงพอจินตนาการออกว่าอาหารที่ประกอบด้วยถั่วลันเตาจะอร่อยและหอมน่ารับประทานเพียงใด

ทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากการบริโภคถั่วลันเตาที่คอสุขภาพไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วลันเตา (100 กรัม)
– พลังงาน : 52 กิโลแคลอรี่
– ใยอาหาร : 3.3 กรัม
– โปรตีน : 4.3 กรัม
– ไขมัน : 0.1 กรัม
– คาร์โบไฮเดรต : 8.5 กรัม
– แคลเซียม : 171 มิลลิกรัม
– ฟอสฟอรัส : 115 มิลลิกรัม
– เหล็ก : 1.5 มิลลิกรัม
– วิตามินบี 1 : 0.11 มิลลิกรัม
– วิตามินบี 2 : 0.09 มิลลิกรัม
– ไนอาซีน : 1.4 มิลลิกรัม
– วิตามินซี : 23 มิลลิกรัม
– เบต้าแคโรทีน : 11.8 ไมโครกรัม

ที่มา : กองโภชนาการ กรมอนามัย, 2535

การปลูกถั่วลันเตา
ถั่วลันเตาสามารถเติบโต และทนต่อสภาพดินทุกชนิดได้ดี แต่ชอบดินร่วนปนดินเหนียว การระบายน้ำดี เป็นกรดเล็กน้อย ระดับ pH 5.5-6.8 ดินมีความชื้น ไม่ชอบดินแห้ง และแล้ง เพราะเป็นพืชที่ไม่ทนต่อสภาพขาดน้ำ แต่ไม่ชอบดินที่มีน้ำท่วมขังหรือแฉะเกินไป  ชอบอากาศเย็น จึงนิยมปลูกในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิระหว่าง 10-27 องศาเซลเซียส

การเตรียมดินแปลงปลูก
ถั่วลันเตามีระบบรากลึกในดินตื้น การเตรียมดินควรไถดินลึกประมาณ 30 เซนติเมตร แล้วตากดิน 5-7 วัน พร้อมกำจัดวัชพืช หลังจากนั้น ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 ตัน/ไร่ เพื่อปรับสภาพดิน และเพิ่มแร่ธาตุดิน แล้วไถพรวนดินอีกครั้ง พร้อมยกแปลงกว้าง 70-80 เซนติเมตร สำหรับแถวเดียว และกว้างประมาณ 140-150 เซนติเมตร สำหรับแถวคู่ ส่วนความยาวตามความเหมาะสม และให้เว้นร่องทางเดินประมาณ 50 เซนติเมตร ในระหว่างแถว หากดินเป็นกรดจัด โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกในภาคกลางตอนล่าง ควรใส่ปูนขาวร่วมกับการหว่านปุ๋ยคอก

การปลูก
เมล็ดพันธุ์ที่ใช้จะใช้ประมาณ 5-8 กิโลกรัม/ไร่ เมล็ดพันธุ์ก่อนปลูก ให้แช่น้ำ 1 คืน และคลุกด้วยยากันเชื้อรา สำหรับหลุมปลูกจะใช้วิธีการขุดหลุมหรือเป็นร่องยาวตื้นพอกลบเมล็ดได้ ลึกประมาณ 1-2.5 เซนติเมตร พร้อมโรยด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กก./ไร่ การหยอดเมล็ดจะใช้เมล็ดหลุมละ 3-4 เมล็ด ระยะห่างระหว่างหลุมประมาณ 30 เซนติเมตร กลบด้วยหน้าดิน และคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง แล้วรดน้ำให้ชุ่ม

หลังจากปลูก 3-5 วัน เมล็ดถั่วลันเตาจะเริ่มงอก เมื่อต้นอ่อนมีใบจริง 3-5 ใบ หรือสูงประมาณ 8-10 เซนติเมตร ให้ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้ง โดยให้เหลือเพียงหลุมละ 2 ต้น หรือหากเป็นการหยอดแบบไม่เป็นหลุมให้ถอนเหลือต้นเดียวตามระยะที่เหมาะสม

การทำค้าง
เมื่อต้นถั่วมีอายุ 15-20 วัน หรือสูง 15-20 เซนติเมตร ถั่วจะเริ่มมีมือเกาะ วึ่งระยะนี้ต้องทำค้างให้ถั่วเกาะ โดยใช้ไม่ไผ่ ขนาด 2 นิ้ว ยาว 1.5 – 2 เมตร ปักระหว่างหลุม ระยะห่าง 2-3 เมตร แล้วรัดโยงด้วยเชือกหรือลวดเป็นชั้นๆ 4-6 ชั้น และอาจรัดโยงในแนวดิ่งด้วยก็ได้

การให้น้ำ
การให้น้ำจะให้เพียงวันละ 1 ครั้ง ในระยะ 1-2 เดือนแรก และค่อยลดเป็น 2-3/ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และความชื้นในดิน แต่ละครั้งที่ให้น้ำควรให้เพียงหน้าดินชุ่ม ไม่ควรให้น้ำมากจนดินแฉะ อาจให้โดยวิธีปล่อยน้ำไหลตามร่อง แต่จะเปลืองน้ำหรือแบบสปริงเกอร์

การใส่ปุ๋ย
ปุ๋ยที่ใส่ คือ สูตร 15-15-15  ในอัตรา 30 กก./ไร่ ใส่ในที่ถั่วลันเตาเริ่มออกดอก โดยโรย
ปุ๋ยตามแนวยาวของแถวทั้ง 2 ข้าง ระยะห่างจากโคนต้น 8-10 เซนติเมตร พร้อมพรวน
ดินกลบปุ๋ย และรดน้ำตาม

การพรวนดิน และกำจัดวัชพืช
การพรวนดิน และกำจัดวัชพืช ควรทำทุกๆ 2 อาทิตย์ จนต้นถั่วสูงได้ 30-50 ซม. แล้วจึงหยุด วึ่งช่วงนี้ต้นถั่วจะสามารถแข่งเติบโตกับวัชพืชอื่นได้ดีแล้ว

การเก็บเกี่ยว
อายุการเก็บเกี่ยวของถั่วลันเตามีความแตกต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ โดยทั่วไปจะใช้เกณ์ ดังนี้
– อายุการเก็บเกี่ยวตั้งแต่ 60-90 วัน หลังปลูก
– อายุการเก็บเกี่ยวจากจำนวนวันหลังดอกบาน  5-7 วัน
– ระยะการเก็บเกี่ยวจากความหนาของฝัก พันธุ์ฝักเล็ก หนา 0.44-0.68 เซนติเมตร พันธุ์ฝักใหญ่ หนา 0.53-0.64 เซนติเมตร
– ลักษณะฝักอวบ สีเขียวอ่อน เปราะกรอบ ไม่เหนียว

การเก็บฝักอ่อนถั่วลันเตา ควรเก็บเกี่ยวฝักสดวันเว้นวัน โดยทั่วไปมีระยะเวลาการเก็บเกี่ยวนาน 30-60 วัน ซึ่งต้องเก็บในระยะฝักอ่อนที่เต็มไปด้วยน้ำตาล หากฝักแก่ น้ำตาลจะถูกเปลี่ยนเป็นแป้งทำให้ความหวานลดลง และมีเส้นใย และความเหนียวมากขึ้น (ชำนาญ, 2548)(3)

โรคและแมลง
1. โรคราแป้ง
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา Uromyces fabae Pers เกิดได้ในทุกระยะ และเกิดกับทุกส่วนของพืช พบมากบริเวณใบ มีอาการที่พบ คือ มีจุดสีขาวกระจายทั่วในส่วนต่างๆ ต่อมามีการสร้างเส้นใย และสปอร์สีขาว มองเห็นคล้ายแป้งฝุ่นขึ้นมากมาย หากเกิดที่ใบ ใบจะเหลืองซีดมีสีน้ำตาลทำให้สังเคราะห์แสงไม่ได้ ทำให้ลำต้นถั่วแคระแกร็น ออกดอก และติดฝักน้อย  หรือหากเกิดมากลำต้นจะเหี่ยวตาย

• การป้องกันกำจัด
– แช่เมล็ดก่อนปลูก ด้วยไตรโฟลีนละลายน้ำที่ 20 มก./20 ลิตร หรือ เบนโนมิล 10 กรัม/20 ลิตร นาน 12 ชั่วโมง

– การฉีดพ่นในระยะเติบโต ด้วยสารซัลเฟอร์ ( 80% WP) ละลายน้ำที่ 5-15 กรัม/20 ลิตร และฉีดพ่นซ้ำในระยะ 5-7 วัน

2. โรคเหี่ยว
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา มีอาการ คือ พบใบเหลืองบริเวณใบล่าง แล้วลามขึ้นใบด้านบน ทำให้ใบเหลือง และแห้งตายทั้งต้น ลำต้นบริเวณเหนือดินมักเกิดสีแดงหรือสีคล้ำกว่าส่วนอื่น มักเิกิดเมื่อต้นถั่วอายุประมาณ 1 เดือน และมักพบในดินที่มีสภาพเป็นกรดจัด และความชื้นสูง

• การป้องกันกำจัด
– การเตรียมดินควรโรยด้วยปูนขาว อัตรา 200-400 กิโลกรัม/ไร่ ร่วมด้วยกับปุ๋ยอินทรีย์ 2-3 ตัน/ไร่
– การเกิดโรคในระยะเติบโต ให้รดโคนต้นและบริเวณรอบต้นด้วยน้ำปูนใสรด

3. แมลงวันเจาะ
เป็นแมลงวันขนาดเล็ก ลำตัวมีสีดำ ชอบวางไข่บนใบถั่ว เมื่อไข่ฝัก ตัวอ่อนจะดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ใบเป็นรอยแผล หากระบาดมากใบจะเหี่ยวเหลือง ทำให้ลำต้นแห้งตายได้

• การป้องกันกำจัด
– ระยะเตรียมแปลงควรโรยหรือฉีดพ่นด้วยพอสซ์ (25%ST) หรือฉีดพ่นด้วยฟิโปรนิล (5%SC) หลังเมล็ดงอก 3-5 วัน (ชำนาญ, 2548)

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
4 VOTES (4/5 จาก 1 คน)
VOTED: namech
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปี"เต๋า ทีวีพูล" ลั่น สินค้า "แอน จักรพงษ์" ขายหมดเกลี้ยง Miss Universe 2024 กระแสเกินต้านเผยโฉมภาพชายกราบเท้าทนายตั้ม ที่แท้คือเล็ก คนขับรถคู่ใจ อดีตทหารอากาศ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนเงิน 20 ล้านเลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.6" งวดวันที่ 1 ธันวาคม 2567"สภาพพังยับ! ยูทูบเบอร์สาวทำเล็บที่อินเดีย รู้ราคาแล้วอยากร้องไห้"ช่างภาพชาวไต้หวันใช้เวลา 17 ปีถ่ายทอดการเติบโตของลูกชายผ่านเลนส์เปิดตัวตำรวจสาว นางฟ้าผู้พิสูจน์หลักฐาน สวยและเก่ง ช่วยคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์มะกันค้านหมายจับผู้นำอิสราเอลบทเรียนจากอดีตของบริษัทผลิตบุหรี่ : เมื่อความต้องการ "ปกป้องผู้บริโภค" กลายเป็นภัยร้ายที่ซ่อนอยู่...สรุปไอ้สิ่งที่ทำให้ "อันตราย" กว่าเดิมไปอี๊กกก พ่อเอ๊ยย....คอนเฟิร์มแล้ว! Miss Grand International 2025 จัดที่ประเทศไทยสารพิษและยา สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตับมีปัญหาเฉินหลงเผยถึงค่าตัว สามารถซื้อบ้านได้ทั้งหลัง! ย้อนเล่าช่วงชีวิตที่เสียดายที่สุด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ช่างภาพชาวไต้หวันใช้เวลา 17 ปีถ่ายทอดการเติบโตของลูกชายผ่านเลนส์สาวจีนเจอเนื้องอกส่วนเกินบนเล็บเท้า แพทย์ชี้เกิดจากการทำเล็บที่ไม่เหมาะสมและบ่อยเกินไป 🙁ครูเต้ย ตัดพ้อแรง เหลือติดตัวแค่นี้ รถ 1 คัน น้ำมันครึ่งขีด"เต๋า ทีวีพูล" ลั่น สินค้า "แอน จักรพงษ์" ขายหมดเกลี้ยง Miss Universe 2024 กระแสเกินต้านพบเส้นทางการเงินแม่นาย ส.เสือ กว่า 100 ล้านบาท เชื่อมโยงดิไอคอนเตรียมออกหมายเรียก ฟิล์ม รัฐภูมิ ในคดีที่อ้างชื่อ หนุ่ม กรรชัย เรียกร้องค่าเสียหาย 20 ล้านบาท
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
สารพิษและยา สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตับมีปัญหาผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ตัวช่วยลดค่าตับและบำรุงตับให้แข็งแร"พาลี" สอน "สุครีพ" ว่าอย่างไร และ "พาลี" ตายด้วยสาเหตุใดบทเรียนจากอดีตของบริษัทผลิตบุหรี่ : เมื่อความต้องการ "ปกป้องผู้บริโภค" กลายเป็นภัยร้ายที่ซ่อนอยู่...สรุปไอ้สิ่งที่ทำให้ "อันตราย" กว่าเดิมไปอี๊กกก พ่อเอ๊ยย....
ตั้งกระทู้ใหม่