“เวียงเชียงแสน” ท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกภาคเหนือ เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งเมืองเชียงราย
บริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ ททท. เทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน คณะกรรมการบริหารท่าเรือเวียงเชียงแสน หน่วยงานภาครัฐและเอกชน เปิดท่าเรือท่องเที่ยวแห่งแรกของภาคเหนือ ณ ท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน (เชียงแสนแห่งที่ 1) จ.เชียงราย โดย มี นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเป็นประธานในพิธี ซึ่งมีแขกคนสำคัญร่วมงาน อาทิ นาย ชัยกฤษ นิสัยสุข นายกเทศมนตรี, นายพินิช แก้วจิตกรทอง นายอำเภอเชียงแสน, นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารนิวเชียงแสนกรุ๊ป, นายพันณรงค์ ขุนพิทักษ์ รองประธานบริหาร ฯ นายชัชวาล สุขสมจิต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นางสาวกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ททท.เชียงราย และผู้แทน ฝั่ง สปป.ลาว,นายอิ่นคำ แก้วนารี หัวหน้าห้องว่าการปกครองเมืองต้นผึ้ง,นายอู่ลา เพิงสวัสดิ์ หัวหน้ากรมขนส่งเมืองต้นผึ้ง,นายแสงเงิน อำพรไธ รองหัวหน้าห้องการแถลงข่าว
นายคงเก่ง ประชากริช ประธานบริหารบริษัท นิวเชียงแสนกรุ๊ป จำกัด เผยว่า ท่าเรือเชียงแสนก่อสร้างขึ้นตามนโยบายในการปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมขนส่งระหว่างประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางหรือประตูการพัฒนาภูมิภาคอินโดจีน รวมทั้งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือ 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สภาพพม่า กัมพูชาและเวียดนาม ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2546 ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นผู้บริหารและประกอบการ โดยได้เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2546 และเมื่อมีการเปิดท่าเรือแห่งใหม่ ท่าเรือนี้จึงไม่ได้รับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
ทางบริษัท นิว เชียงแสน กรุ๊ป จำกัด ได้รับอนุมัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 12 เดือนธันวาคม ปี 2560 ให้เข้ามาบริหารจัดการ จึงได้มีการปรับปรุง ทั้งด้านการก่อสร้าง ภูมิทัศน์ ระบบความปลอดภัยและด้านต่างๆ และได้เปิดตัวท่าเรือเทศบาลเวียงเชียงแสน ที่ท่าเรือเชียงแสนตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตพื้นที่ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ด้านหน้าติดแม่น้ำโขงฝั่งตรงข้ามเป็นประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้านหลังติดถนนซึ่งเชื่อมระหว่างอำเภอเชียงแสนและอำเภอเชียงของ
นายภาสกร บุญญลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในส่วนของท่าเรือเชียงแสน มีเรื่องค้างคากันมาตั้งแต่ปี 2554 ช่วงนั้นกรมเจ้าท่าดำเนินการก่อสร้างไว้ ในส่วนของเราเมื่อก่อนเป็นท่าเรือพาณิชย์ มอบหมายกันตั้งแต่ปี 2556 อยากให้ทางพื้นที่เดิมทีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับเทศบาลแต่ก็ยังมอบหมายกันไม่ชัดเจน จนปี 2560 ครม.มีมติชัดเจนมอบพื้นที่ท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 ให้อยู่ในความดูแลของเทศบาลเวียงเชียงแสน ก็ต้องเรียนว่าจริงๆ เป็นเรื่องพื้นที่จะรู้เห็นถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะทางเทศบาลจะดูได้ชัดเจนมากกว่า
จริงๆ แล้ว จังหวัดและอำเภอให้การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด เชียงรายเป็นจังหวัดที่มีป่าเขา ลำเนาไพร และภูมิประเทศที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่อำเภอแม่จันมาเลย ติดกับเมียนมาร์ 153 กิโล และ ติดกับฝั่งลาว 155 กิโล มีพื้นที่ที่สวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการจราจรมีขนส่งทั้งทางเรือ ทางบกและทางอากาศ โดยทางอากาศเรามีเที่ยวบินกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน ทางเรือก็มีท่าเรือเชียงแสนแห่งนี้ อีกหน่อยจะเป็นท่าเรือท่องเที่ยวนานาชาติ ปัจจุบันมีศุลกากร ตม. คณะกรรมการบริหารท่าเรือก็จะบริหารท่าเรือแห่งนี้ให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
“อนาคตข้างหน้าจะมีการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ท่าเรือแห่งนี้เป็นความภาคภูมิใจไม่ใช่เพียงชาวเชียงแสนเท่านั้น แต่เป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งจังหวัดเชียงราย รวมทั้งจังหวัดข้างเคียง อยากเชิญชวน ให้มาเที่ยวกัน เรามีสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งสามารถไปได้ถึงเมืองจีน ล่องเรือไปท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ซึ่งลำน้ำโขงสวยงามมาก อยากให้ทุกท่านเห็นถึงความสำคัญและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายด้วย”
นางสาวกรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวไทยแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีแผน เรียกว่า เชียงรายยั่งยืน เชียงรายแต้ๆ ความหลากหลายของเชียงราย มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงแสนมีประวัติศาสตร์ ที่สำคัญนับจากนี้เป็นต้นไปจะมีท่าเรือ จังหวัดเชียงรายมีท่าเรือ มีด่านสำหรับเข้าออกของนักท่องเที่ยวหลายด่าน เป็นจังหวัดเดียว มีทั้งที่มีเชียงของที่แม่สาย การมีท่าเรือเพิ่มขึ้นทำให้เป็นประตูสู่จังหวัดเชียงรายและเข้าสู่ประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น และอย่างที่ทราบกันเป็นท่าเรือแห่งแรกของภาคเหนือ เชียงรายจะมีการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวมากช่องทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเชียงแสนถือว่ามีความหลากหลายในเรื่องของวัฒนธรรม ยังมีเรื่องของชุมชนท่องเที่ยวด้วย