เก็บความบริสุทธิ์ไว้ทำไม? สาวเล่าผลของการรักษาความบริสุทธิ์ไว้จนวันแต่งงาน ด้านชาวเน็ตเห็นแย้ง
สาวเล่าประสบการณ์ชีวิต ที่ตนเองนั้นเก็บความบริสุทธิ์ไว้จนถึงวันแต่งงาน และนั่นกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ ว่าชีวิตหลังแต่งงานของเธอจะเป็นเช่นไร....
เราเป็นคนหนึ่งที่ถูกสั่งสอนมาว่า พรหมจรรย์ ความบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่มีค่าของลูกผู้หญิง ควรรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ สำหรับสามีในอนาคตเพียงคนเดียว
เราเคยมีแฟนมา 3 คน ก่อนแต่งงานกับสามี ตั้งแต่ชั้น ม.ปลาย มหาวิทยาลัย และวัยทำงาน แต่เราก็รอดมาได้ รักษาไว้ได้ แม้ใจจริงเราจะยอมรับ ว่าเราเป็นคนมีความต้องการในเรื่องนี้ไม่น้อย แต่ก็พยายามข่ม พยายามห้ามใจ ไว้เพื่อรักษาสิ่งที่เรียกว่า พรหมจรรย์ ความบริสุทธิ์ ความซิง เพื่อเอาไว้มอบให้แก่คนที่เราแต่งงานด้วย
ในที่สุด เราก็ได้เจอคนที่จะมาเป็นสามี เราคบกัน และแต่งงานกัน ตอนที่เราอายุ 30 เราเสียความบริสุทธิ์ในคืนวันแต่งงาน ตามที่เราตั้งใจ และตามค่านิยมของสังคม
เราอยู่ด่วยกัน จนมีลูก 1 คน และกระทั่งเมื่อราวปีที่แล้ว เขาก็เริ่มมีความต้องการลดลง จากเดินสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเดือนละ 2-3 ครั้ง และล่าสุด เราไม่ได้มีเรื่องนั้นกับสามี มาตั้งแต่ปลายเดือนมกรา เกือบหนึ่งเดือนแล้ว
เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามหาสาเหตุทุกทางแล้วก็ไม่เห็น คุยกับหลายคน ให้พยายามแก้ปัญหาแล้ว ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปว่า สามีน่าจะเบื่อ sex หรือไม่ก็เบื่อเรา อย่างใดอย่างหนึ่ง
ถ้าเป็นอย่างนี้ เท่ากับว่า ในชีวิตเรา ที่จะยืนยาวไปเท่าไรก็ไม่รู้ ได้มีช่วงที่เราได้มี sex เพียงแค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น
ถ้าเราตายตอนอายุ 60 ก็เท่ากับว่า เรามีความสุขกับเรื่องนี้ แค่ 1 ใน 10 ของอายุขัยเท่านั้น
มันเศร้าเกินไปหรือเปล่า...
เราพยายามทุกอย่างแล้ว แต่เขาก็มีข้ออ้าง ขอผลัดผ่อน เหมือนกับเรื่องนี้เป็นการทำหน้าที่ เหมือนเราขอให้เขาซักผ้า ถูกบ้าน ทำงานบ้านให้
เราไม่มีทางไปมีคนอื่น ไม่มีทางมีกิ๊ก หรือหาคนมาบำบัดชั่วคราว (มีคนเสนอตัวมาเยอะมากค่ะ จากการตั้งกระทู้ที่ผ่านมา) เราทำไม่ได้จริงๆ เราเห็นแก่ลูก เรามองหน้าลูกแล้วทำไม่ลง เราไม่อยากให้ลูก มีแม่ที่ไปให้คนอื่นที่ไม่ใช่พ่อมีอะไรๆด้วย
หรือถึงทำลง เราก็คงบ้านแตก ลูกก็คงเป็นเด็กบ้านแตก โดยไม่ใช่ความผิดของแกเลย
จะให้เราหย่ากับสามีเพื่อไปแต่งงานใหม่ เราก็ทำไม่ได้ เราไม่อยากให้ลูกมีพ่อเลี้ยง และเหตุผลในการหย่า ถ้าใครรู้ เขาก็คงมองว่าเราเป็นคนมักมาก สามีเป็นคนดีทุกอย่าง ขยันขันแข็ง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ตั้งใจทำงานสร้างครอบครัว มีฐานะดีใช้ได้ การงานมั่นคง แล้วเราจะต้องการอะไรอีก แค่ความสุขทางกายภายนอกอย่างนั้นหรือ ?
ต่อให้สามีจากไป ไม่ว่าด้วยเหตุใด เราก็คงไม่สามารถแต่งงานใหม่ได้ ในตอนที่ลูกยังเด็ก แค่ถ้ารอจนลูกโต ตอนนั้นเราก็หมดวัยที่จะมีความสุขกับเรื่องนั้นแล้ว
เราคงต้องทนอยู่ไปในสภาพนี้ อย่างกล้ำกลืนฝืนทน เพราะการรักษาสิ่งที่เราเรียกว่า "ความบริสุทธิ์" ตามต่านิยมของสังคม
เราก็คงเป็นคุณแม่ คุณภรรยา ที่น่ารัก ใจดี เป็นแม่บ้านแม่เรือน ไปออกงานกับสามี ให้สามีได้ภูมิใจ แต่ในใจเราอึดอัดกรีดร้อง งุ่นง่าน พลุ่งพล่าน ตลอดค่ำคืนที่เกิดความรู้สึกต้องการ
เราอยากให้คนที่อ่านเรื่องของเรา ลองชั่งน้ำหนักดูว่า ถ้าคุณจะรักษาสิ่งนี้ไว้ ตามค่านิยมสังคม ตามความเชื่อของคุณ ตามอะไรก็ตามแต่ แต่คุณก็ต้องยอมรับว่า คุณอาจจะโชคดี ถูกหวยอย่างเราก็ได้ เราไม่ได้สนับสนุนให้ใครมี sex ก่อนแต่งงาน แต่เราอยากให้เอาเรืองเราไปชั่งน้ำหนักดู
ขอบคุณนะที่อดทนอ่านกันจนจบ
อ้อ ใครที่อ่านแล้ว ไม่ต้องเสนอตัวมาขอแก้ไขด้วยการหว่านล้อมว่าเป็นความสุขใม่ผูกมัด ได้กันแล้วก็ไป เราทำไม่ได้ เราทำไม่ลง และไม่คิดจะทำคะ
ด้านชาวเน็ตมีความเห็นแย้งในทันที โดย top comment ในกระทู้ที่พันทิพ กว่าว่า
ความคิดเห็นที่ 36
คุณคิดว่า ถ้าไม่ได้รักษาความบริสุทธิ์ไว้ก่อนแต่งงาน ก็จะทำให้โดยรวมแล้วสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้มากกว่านี้
ที่จริงถ้า เพศสัมพันธ์สำคัญมาก ปัญหาคุณก็ไม่ได้อยู่ที่บริสุทธิ์ หรือ ไม่บริสุทธิ์ก่อนแต่ง
แต่อยู่ที่นับแต่นี้ไป คุณไม่มีเพศสัมพันธ์ คุณจะอยู่ได้อย่างไร เพราะคุณเห็นว่า เรื่องเพศสำคัญมาก
เวลาอีก 30 ปี นับแต่นี้ จะเป็นเวลาแห่งความทุกข์ของคุณ
ส่วน 30 ปีก่อนแต่งงาน ไม่ว่าคุณจะบริสุทธิ์ หรือมั่วมาขนาดไหน ก็ไม่ทำให้เวลาต่อจากนี้ไป คุณจะสุขสงบได้
เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ สะสมกันได้ว่า สาว ๆ มีมาก ๆ แล้ว หลังแต่งานมีน้อย ๆ ก็ได้ ไม่เป็นไร
คุณโยงผิดเรื่องแล้ว ปัญหาของคุณ คือ ปัจจุบันนี้ ระดับความต้องการทางเพศของคุณ กับของสามีไม่สมดุลกัน
ค.ห. โดยคุณ Cafe_member