ก.พลังงาน เดินหน้าตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญ จ.ตราดและจันทบุรี
ก.พลังงาน เดินหน้าตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญ จ.ตราดและจันทบุรี ชูโครงการพลังน้ำ “คิรีธาร” และ“คลองทุ่งเพล” สร้างประโยชน์การผลิตไฟฟ้า เสริมระบบชลประทานให้แก่เกษตรกร ชี้พลังน้ำคิรีธาร ผลิตไฟฟ้ารวมแล้วกว่า 847 ล้านหน่วย จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบสร้างรายได้มากกว่า 1,600 ล้านบาท และพื้นที่เพาะปลูกกว่า 89,000 ไร่ได้ประโยชน์จากการบริหารจัดการน้ำ พร้อมเสริมพลังน้ำคลองทุ่งเพลเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบให้พื้นที่ ยันส่งเสริมพลังงานน้ำระดับชุมชนต่อเนื่อง สร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน (5 ก.พ.61) ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางตรวจเยี่ยมโครงการในจังหวัดตราดและจันทบุรี ซึ่งเป็นภารกิจก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มอบนโยบายในการดำเนินงานให้แก่พลังงานจังหวัด ในเขตพื้นที่ (ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรีและนครนายก) ก่อนเดินทางตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญ ๆ โดยเฉพาะโครงการพลังงานทดแทน ด้านพลังงานน้ำ ได้แก่ โครงการคิรีธาร โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเอนกประสงค์ขนาดกลาง ของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง และตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2529 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดโครงการฯ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2531 และพระราชทานชื่อว่า “เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร” โดยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา โครงการคิรีธาร ถือเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก ที่ให้ประโยชน์ทางด้านการผลิตไฟฟ้าเป็นสำคัญ มีส่วนเพิ่มปริมาณน้ำในลำน้ำจันทบุรีเป็นประโยชน์ต่อการเกษตร และเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับการประปาในอำเภอเมืองจันทบุรี ทั้งนี้ โครงการคิรีธาร สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ปีละ 27 ล้านหน่วย ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเกษตรกรรมในเขตจังหวัดจันทบุรีเป็นพื้นที่ประมาณ 89,000 ไร่ จากน้ำซึ่งใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วจะไหลลงสู่แม่น้ำจันทบุรี โดยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จำนวน 7 สถานี และฝายยางกั้นลำน้ำจันทบุรีในเขตอำเภอเมือง สูบน้ำส่งให้แก่เกษตรกรทั้งสองฝั่งลำน้ำในฤดูแล้ง ช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค และขับไล่น้ำเค็มในฤดูแล้งของลุ่มน้ำจันทบุรี ในเขตจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาการสูญเสียกำลังไฟฟ้าในระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของประเทศ โดยตั้งแต่เริ่มโครงการ ฯ จนถึงปัจจุบัน โครงการพลังน้ำคิรีธาร สามารถผลิตไฟฟ้ารวมได้ทั้งสิ้น 847 ล้านหน่วย มีการจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบ และสามารถสร้างรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 1,600 ล้านบาท โครงการไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพล ซึ่งจะเป็นโครงการที่จะแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรแก่เกษตรกรส่วนใหญ่ของจังหวัดจันทบุรี สามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรครอบคลุม 4 ตำบล คือ ตำบลพลวง ตำบลตะเคียนทอง(บางส่วน) ในเขตอำเภอเขาคิชฌกูฏ (ระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตรฝั่งตะวันตก) และตำบลวังแซ้ม ตำบลฉมัน ในเขตอำเภอมะขาม (ระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตรฝั่งตะวันออก) รวมประมาณ 25 หมู่บ้าน 2,580 ครัวเรือน ได้พื้นที่ประมาณ 108,000 ไร่ รวมทั้งสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังน้ำ ได้ประมาณปีละ28.16 ล้านหน่วย และช่วยลดการสูญเสียในระบบสายส่งไฟฟ้า และเสริมสร้างความมั่นคงในระบบสายส่งของประเทศ โดยโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำคลองทุ่งเพลได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2532 ได้ก่อแล้วเสร็จ ปี 2559 ซึ่งได้ยื่นขอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าร่วมกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำคิรีธาร 22 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทดสอบจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(COD) และจำหน่ายไฟฟ้าภายในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ แนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนระดับชุมชน โดยเฉพาะพลังงานน้ำขนาดเล็กระดับชุมชนดังกล่าว กระทรวงพลังงานได้บรรจุอยู่ในแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงาน หรือ AEDP เพื่อเสริมระบบความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว และที่สำคัญพลังงานน้ำไม่มีต้นทุนด้านเชื้อเพลิง และน้ำก็ยังสามารถกลับมาใช้ได้ต่อเนื่อง รวมทั้งการบริหารจัดการที่จะให้ประโยชน์ด้านการเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยขณะนี้กระทรวงพลังงาน ได้ส่งเสริมการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในระดับชุมชนดังกล่าวแล้ว 25 แห่ง รวมกำลังผลิต 2.97 เมกะวัตต์ และในอนาคตจะได้เพิ่มการส่งเสริมต่อไป ดร.ศิริ กล่าว ดร.ศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลากว่า 30 ปี ได้มีการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กเพื่อประโยชน์การชลประทานและการมีไฟฟ้าใช้ โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (ชื่อในอดีต สำนักงานพลังงานแห่งชาติ/กรมพัฒนาพลังงานและส่งเสริมพลังงาน) 118 โครงการกำลังการผลิตรวม 65 เมกกะวัตต์ ซึ่งกระทรวงพลังงานจะพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการให้สามารถนำรายได้จากการขายไฟฟ้าเพื่อนำมาพัฒนาชุมชนโดยรอบ ทั้งในเรื่องการร่วมกันบำรุงรักษาป่า การพัฒนาการชลประทาน การซ่อมบำรุงและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนเพราะหากประชาชนไม่ช่วยกันรักษาป่าก็จะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ และไม่เกิดการพัฒนา เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการโครงการที่ยั่งยืนตามแนวทางประชารัฐต่อไป .................................................
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out
ภาพ 3 มิติ คืออะไร? เทคนิคสร้างภาพเสมือนจริงสำหรับมือใหม่
Microsoft Fabric คืออะไร? แนะนำเครื่องมือใหม่จาก Microsoft สำหรับองค์กรยุคดิจิทัล
ทุกสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ ESG คืออะไร และทำไมถึงสำคัญต่อองค์กร
ดึงหน้า (Facelift) คืออะไร? มีกี่เทคนิค รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ