หุบเขาแสงจันทร์ ตอนที่ 11
ซายอก้าวเท้าออกมาข้างหน้าอีกก้าว
เริ่มต้นเป็นผู้นำจิตวิญญาณในการพิธีช่วงสำคัญ ตามด้วยพ่อเฒ่าหมอผี เรือก่าบางจำลองลำน้อยถูกชาวบ้านผู้ทำหน้าที่ยกขึ้นมาจากพื้นทราย มีชาวบ้านอีกคนเดินเข้ามาช่วยแบกเรือจำลองน้อยๆนั้น แล้วทั้งสองก็ก้าวเดินตามหลังร่างของซายอและพ่อเฒ่าปอซอ เพื่อไปยังหน้าชายหาดที่เรือลำใหญ่จอดรอท่า ชาวบ้านอีกหลายคนรวมทั้งครอบครัวของมาแล และครอบครัวของฮารี ทยอยเดินตามหลังกันเป็นแถวขบวน เสียงร้องเรียกดวงวิญญาณบรรพชนที่เร่ร่อน เสียงร้องเรียกสัมภเวสี ให้เข้าร่วมในการเดินทาง ดังระงมไปทั่ว
เมื่อซายอและชาวบ้านทั้งหมดที่ร่วมขบวนเดินมาถึงหน้าชายหาด จุดที่เรือก่าบางลำใหญ่จอดรอท่า ทั้งซายอ พ่อเฒ่าหมอผี คนแบกเรือ และชาวบ้านต่างเริ่มทยอยขึ้นบนเรือเรื่อยๆกันจนครบ
เรือก่าบางลำใหญ่ เคลื่อนตัวออกจากชายหาดด้วยไม้แจวตามวิถีแบบดังเดิม ผิดกับเรือของซายอและของชาวบ้านมอแกนทั่วไปที่เริ่มติดเครื่องยนต์ เรือก่าบางที่ใช้ในพิธีกรรมยังคงบอกเล่าความเป็นมาในอดีตของชาติพันธุ์ได้ไม่เสื่อมคลาย
แสงแดดยามบ่าย ฉายแสงกระจ่างฟ้า
เรือก่าบางลำใหญ่ยังคงค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากฝั่ง ด้วยแรงพลังงานกลอันเกิดจากพลังกล้ามเนื้อของมนุษย์หลายชีวิต ที่ช่วยพายไม้แจวไปตามจังหวะอย่างพร้อมเพรียง ชาวบ้านที่ร่วมพิธีอยู่ในตัวเรือต่างส่งเสียงร้องเรียกดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ให้ร่วมเดินทางไปกับเรือลำนั้น ด้วยความเชื่อที่ว่าหากมีดวงวิญญาณตกค้าง หากยังมีดวงวิญญาณเร่ร่อน อดอยาก เหล่านี้..มันจะส่งผลร้ายต่อชีวิตชนเผ่าของพวกเขาในทุกๆด้าน
เรือก่าบางเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จนเมื่อมาถึงจุดที่กำหนดกลางทะเลลึกสีน้ำเงินใส ซายอและชาวบ้านผู้ทำหน้าที่สองคนเดิมช่วยกันยกเรือก่าบางขึ้นมา และค่อยๆวางเรือจำลองลำน้อยๆลำนั้นลงทะเล ปล่อยให้มันค่อยๆลอยละล่องไปตามคลื่นน้ำ คลื่นลม เป็นอันจบสิ้นการพิธี
เรือก่าบางลำใหญ่ถูกขับเคลื่อนกลับสู่ฝั่ง ด้วยแรงพลังแห่งกล้ามเนื้อมนุษย์ดังเดิม และเมื่อมาถึงริมหาด เรือจอดนิ่งเทียบฝั่งทุกคนต่างค่อยๆทยอยลงจากเรือกันจนครบ ชาวบ้านต่างเริ่มกระจัดกระจายกลับไปยังที่พักของตน เหลือชาวบ้านเพียงบางส่วน รวมถึงครอบครัวของซายอ และมาแลที่ต้องเตรียมงานต่อที่ริมหาด เพราะเมื่อเสร็จสิ้นพิธีกรรมก็เข้าสู่ช่วงการฉลองสังสรรค์เหมือนการเข้าสู่ปีใหม่ ชีวิตใหม่ของพวกเขา..
“ตกเย็นนี้ บอกพวกเราทั้งหมดว่าให้มาฉลองกันที่นี่” ซายอบอกย้ำกับมาแลอีกหน
มาแลเป็นอีกคนที่สามารถติดต่อและสร้างสัมพันธ์กับทุกคนในหมู่บ้านได้ดี เพราะด้วยตัวตนและการพูดจาที่ดูเป็นมิตร ไม่มีพิษภัย
“อีนีลอ -ึงกลับไปที่เรือนดูแลแม่เถอะ ให้ละมอมันอยู่ช่วยชาวบ้านจัดที่ตรงนี้คนเดียวก็พอ แม่อยู่บนเรือนคนเดียว น่าห่วงอยู่นะ” ซายอหันไปบอกกล่าวน้องสาวคนเล็กต่อ
นีลอ หันมาจ้องมองพี่ชายอย่างนึกเคือง
แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้
นอกจากทำตามคำสั่งนั้นอย่างไม่พอใจ
หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดเดินตัดหายเข้าไปในดงมะพร้าวใหญ่ เพื่อไปยังเรือนของตน
ฮารีจ้องมองเหตุการณ์อย่างเห็นใจเพื่อน หลายทีหลายหนฮารีรู้สึกว่าซายอจะรักจะชอบและให้ความสำคัญต่อนีลอน้อยกว่าละมอผู้เป็นพี่
สักพักฮารีตัดสินใจแยกตัวออกมา
และก้าวเท้าเดินไปตามทางของนีลอเมื่อครู่.. ..
อ่านต่อในครั้งหน้า
หุบเขาแสงจันทร์ / ตรีวิทย์ นฤดม
สำนักพิมพ์บ้านทะเลล้อม 2008