เปิดหลังม่าน บาร์โฮสต์ สวรรค์สำหรับผู้หญิง แค่คลายเหงา หรือมีอะไรมากกว่านั้น
เปิดหลังม่าน บาร์โฮสต์ สวรรค์สำหรับผู้หญิง การแสวงหาความสุขที่สังคมกังขา แท้จริงแล้วมีสิ่งใดซ่อนอยู่เบื้องหลัง แค่บริการคลายเหงา หรือมีสิ่งใดมากกว่านั้น
ในขณะที่สังคมไทยมีค่านิยมให้ผู้หญิงนั้นต้องมีความรักนวลสงวนตัว ไม่ควรใกล้ชิดกับผู้ชายที่ไม่ใช่คู่ชีวิต แต่ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจ “บาร์โฮสต์” สถานบันเทิงซึ่งเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับผู้หญิง ได้กลายมาเป็นธุรกิจที่ได้รับเสียงตอบรับจากผู้หญิงจำนวนไม่น้อยให้เข้าไปแสวงหาความสุข ท่ามกลางกระแสวิพากษ์ในแง่ลบ ว่าเหตุใดพวกเธอจึงเลือกที่จะแหวกค่านิยมเข้าไปใช้บริการจากชายหนุ่ม รวมถึงเนื้อแท้ของธุรกิจดังกล่าว คืออะไรกันแน่ และจะมีการซื้อบริการทางเพศดังที่สังคมปรามาสหรือไม่
ล่าสุดในวันที่ 11 ตุลาคม 2559 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง AMARIN TV ได้นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดหลังม่านบาร์โฮสต์ ประตูสวรรค์ของสตรีขี้เหงา พาทุกคนเข้าไปเจาะลึกถึงสภาพที่แท้จริงด้านหลังประตูของสถานท่องราตรีที่ให้บริการเฉพาะผู้หญิง โดยนำทีมงานไปร่วมพิสูจน์กันยันบาร์โฮสต์แห่งหนึ่งย่านพระราม 9 แต่ที่น่าสนใจคือในวันดังกล่าวบาร์โฮสต์แห่งนี้ได้ปิดให้บริการ เนื่องจากทางร้านทราบว่าจะมีฝ่ายปกครองเข้าตรวจ จึงเลือกปิดร้านและเชิญลูกค้ากลับ พร้อมขอให้มาใหม่ในวันรุ่งขึ้น
เมื่อทีมข่าวกลับมาที่บาร์โฮสต์แห่งเดิมในวันรุ่งขึ้น ก็ได้พบว่าบาร์โฮสต์เปิดให้บริการตามปกติ โดยจะมีพีอาร์ของทางร้านเข้ามาต้อนรับ เชียร์ให้เปิดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นขวดในราคาหลายพันบาท รวมค่ามิกเซอร์ แต่ไม่รวมค่าอาหารและค่าดริงก์ จากนั้นพีอาร์จะใช้มือถือส่องไปที่ใบหน้าของเด็กโฮสต์เพื่อให้ลูกค้าเลือก หากถูกใจก็จะมีการเรียกมานั่ง โดยตามกติกาลูกค้าจะต้องเหมาจ่าย 3 ดริงก์ ราคาดริงก์ละ 350 บาท ไม่จำกัดเวลานั่ง
ฉะนั้นเมื่อคิดโดยเฉลี่ย หากเรียกเด็กโฮสต์ 1 คน จะมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ไม่รวมค่าทิปเด็กหรือค่าดริงก์ที่เด็กอาจขอเพิ่มเป็นสินน้ำใจ หากมาเที่ยวกัน 3 คน จะต้องเสียค่าเด็กโฮสต์และเครื่องดื่มในราคาไม่ต่ำกว่า 5,000 บาทในการเที่ยวแต่ละครั้ง
สำหรับบรรยากาศภายในร้าน จะเต็มไปด้วยหนุ่มหล่อระดับนายแบบที่ให้ลูกค้าเลือกมานั่งเอาอกเอาใจ คอยเอนเตอร์เทนพวกเธอได้ นอกจากนี้ยังมีเวทีให้หนุ่ม ๆ กล้ามล่ำขึ้นมาโพสท่าโชว์ซิกแพกเรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ท่ามกลางแสงสีและเสียงเพลงเร้าอารมณ์
ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายปัญญา หลวงเอ้ย พนักงานร้าน FIN CLUB BANGKOK หนุ่มหน้าตาดีวัย 20 กว่าปี ซึ่งทำงานคอยบริการสาวขี้เหงายามราตรี โดยเจ้าตัวยอมรับว่างานโฮสต์นั้นไม่ต้องใช้แรง เพียงพูดคุยเอาใจลูกค้าแบบสุภาพ หากใครเหงามาก็คอยเอาใจ โอบกอด ให้ความอบอุ่น ทำให้ลูกค้ามีความสุขทั้งคืน แต่จะไม่ถึงกับกอดจูบลูบคลำ หรือลวนลามลูกค้าดังที่หลายคนมอง
สำหรับเรื่องที่คุยกันก็จะไม่ล้วงลึกหรือซักถามถึงชีวิตส่วนตัวจนทำให้ลูกค้าไม่สบายใจ นอกจากนี้การโชว์บนเวทีก็ไม่ได้โป๊เปลือยแต่อย่างใด เพียงแค่ถอดเสื้อโชว์กล้าม สวมกางเกงเดินบนฟลอร์เท่านั้น หากลูกค้าชอบก็จะถูกเรียกไปนั่งด้วย แต่สิ่งที่สำคัญคือทางร้านมีกฎเหล็ก ห้ามพนักงานมีอะไรกับลูกค้าเด็ดขาด หากจับได้จะถูกไล่ออกทันที แม้จะเป็นงานที่สังคมมองในแง่ลบ แต่เขาก็ไม่เคยขายตัว
ขณะที่ นายราชเพชรยางกูล จักรแก้ว พนักงานร้าน FIN CLUB BANGKOK อีกรายหนึ่ง ยอมรับว่าส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนจึงเลือกทำงานนี้ เพราะทั้งได้เที่ยวและได้เงินเข้ากระเป๋า แลกกับการเอาใจลูกค้า ใครทุกข์มาก็คอยปลอบ สร้างรอยยิ้มให้ลูกค้ามีความสุขกลับไป
โดยเมื่อลูกค้าเข้ามาในร้านก็จะมีเด็กโฮสต์ยืนให้เลือก 5 คน หากยังไม่ใช่ก็จะผ่านไปเรื่อย ๆ ถ้าถูกใจก็เรียกไปนั่งด้วยกันและเริ่มคิดราคา เด็กโฮสต์จะให้บริการเกือบทุกอย่างรวมถึงการชงเหล้า ชงเครื่องดื่ม คอยดูและเอนเตอร์เทนลูกค้า คอยพูดให้กำลังใจ เป็นเพื่อนดื่มและเป็นที่ปรึกษาให้แก่คนที่เศร้าใจ พยายามทำให้เขาลืมความทุกข์ที่เผชิญมา
ขอบคุณที่มา: https://www.greannews.com/9082