หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

จุดเริ่มต้นของโคมลอยในงานลอยกระทงเชียงใหม่ เพิ่งมีเมื่อปี พ.ศ.2541 นี่เอง จนกลายเป็นประเพณี

โพสท์โดย warrior B

เฟซบุ๊ก Sornsak Ott Ekkarattana ชาวเชียงใหม่ได้โพสท์เล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นของโคมลอย ในงานลอยกระทง เมื่อเชียงใหม่ ระบุว่า

เรื่องที่ผมเสียใจมากๆและเพื่อนๆที่ร้านด่าผมมากคือเรื่องลอยโคมไฟนี้ครับ เป็นเรื่องจริงที่ต้องเล่าเพื่อแก้ไข เพื่อทำความจริงให้กระจ่าง..แม้บางคนอาจซ้ำเติม ก็ใครจะไปรู้ว่ามันจะบานปลายไปกันใหญ่ขนาดนี้ล่ะครับ

คือตัวผมเองนั้นก็นับใด้ว่าเป็นคนสูงอายุคนเมืองเชียงใหม่แท้ โตมากับประเพณียี่เป็ง เห็นมาตั้งแต่รอบนอกเมืองเชียงใหม่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ก็เห็นมีแต่แห่ขบวนประกวดกระทงและมีนางนพมาศนั่ง แล้วริมน้ำทุกแห่งโดยเฉพาะริมแม่น้ำปิงจะมีคนมาลอยกระทงกันเนืองแน่นเช่นเชิงสะพานนวรัฐและหน้าที่ทำการเทศบาล..ท่าน้ำหลังวัดต่างๆ ในน้ำจะเต็มไปด้วยกระทงจุดเทียนไขไหลรวมๆกัน ลอยล่องส่องสว่างมองดูเหมือนแม่น้ำไฟ สวยงามติดตาครับท้องฟ้าว่างเปล่ามีเพียงพระจันทร์สวยเด่นเต็มดวง..

แล้วคืนหนึ่งในปี'98 หรือ

..ยุคนั้นถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพยังปล่อยให้คนขับรถขึ้นไปชมวิวแสงไฟของตัวเมืองยามราตรีมองลงมาสวยงามดีครับ หนุ่มสาวต่างพากันขับรถขึ้นไปเป็นกลุ่มๆ บ้างไปดึ่มเหล้าร้องเพลงเล่นดนตรี.. บ้างพลอดรักกันตามสุมทุมพุ่มไม้ สนุกกันบนนั้นยันสว่าง..


เช้าขึ้นมาถุงยางอนามัยและขยะจากขี้เมากลาดเกลื่อนดอย สมควรแล้วที่ต่อมาทางการเขาห้ามขึ้นดอยกลางคืนไปเลย..
คืนนั้นผมขึ้นไปนั่งดูดดึ่มกับเพื่อนๆ แล้วเหลือบมองบนท้องฟ้าด้านวัดพระธาตุดอยสุเทพ ผมเห็นดวงไฟประหลาดลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นระลอก สวยงามมากมีฉากหลังเป็นพระจันทร์เต็มดวง  ผมกำลังมึนๆ ใด้แต่อุทานว่า โอสวยแฮะ...

อยากรู้ขึ้นมาทันใด จึงรีบขับรถขึ้นไปวัดพระธาตุฯ แล้วเดินขึ้นบันไดนาคแทบตายแต่ก็สมหวังเพราะเจอคนแก่สองสามคนกำลังจุดไฟปล่อยเจ้าโคมไฟนี้ขึ้นสู่ฟ้า ตรงลานชมวิวของวัด ผมถามเขาว่านี่เรียกว่าอะไรครับ แกบอกว่า "ว่าวไฟ"
ผมบอกว่าไม่เคยเห็นเลย จุดทำไม?


ดูเหมือนเขาจะตอบว่าจุดไปไหว้พระจุฬามณีอะไรนี่แหละ ก็ไม่แน่ใจครับและผมไม่ใด้สนใจตรงนั้นหรอกจึงไม่อยากจำ แต่ผมสนใจเพราะว่าผมทำร้านอาหารริมน้ำ


ปิงและมองว่าอันนี้จะเป็น gimmick ไว้ให้ลูกค้าตื่นตาคืนลอยกระทงที่กำลังจะมาถึง.. จึงถามว่าเอามาจากไหน ก็ใด้ความว่าที่บ้านบ่อสร้างมีสะหล่า (ช่าง) ทำว่าวและทำดอกไม้ไฟโคมไฟต่างๆเขารับทำ รุ่งขึ้นผมจึงรีบไปตามหาแล้วสั่งทำห้าสิบลูก รู้มั้ยครับ คุณลุงคนทำแกไม่เชื่อว่าจะสั่งเยอะขนาดนั้นผมต้องชำระเงินล่วงหน้า (เดี๋ยวนี้แกร่ำรวยมากเพราะมีคนสั่งทำมากมายเป็นพันๆลูกมั้ง)


เมื่อใด้มาแล้วคืนลอยกระทงของปีนั้นผมก็มาจุดปล่อยขึ้นสู่ฟ้าที่ท่าน้ำหลังร้านทุกๆครึ่งชั่วโมง ผลคือใด้รับความสนใจจากคนทั้งในร้านและรอบคุ้งน้ำ มาขอช่วยปล่อยและถ่ายรูปกันครับ.. จำใด้ว่ามันลอยโดดเดี่ยวขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีแต่พระจันทร์..

 

ปีนั้นโน๊ตอุดมมาแวะเที่ยวและช่วยปล่อยขึ้นฟ้า โน๊ตถามผมว่าเขาเรียกอะไรครับ...ผมยังบอกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็มั่วว่าปล่อยลอยทุกข์ลอยเคราะห์..แหะๆ ก็พึ่งเคยเห็นเหมือนกันนี่นา.


แล้วผมก็ทำแบบนี้ในคืนลอยกระทงปีต่อๆมาครับ แต่เพียงสองสามปีผ่านไป ตามแผงขายกระทงริมถนนจะมีเจ้าโคมไฟนี้วางขายกันพรึบทุกแผง..ท้องฟ้าเริ่มเต็มไปด้วยโคมไฟ เกิดเรื่องไฟไหม้ร้านค้าในกาดหลวง และบ้านเรือนเพราะโคมไฟหล่นใส่...
ซ้ำธุดงค์สถานของธรรมกายที่แม่โจ้ปล่อยสู่ฟ้าเป็นหมึ่นๆลูกอีก..

บ้าจริงๆไฟก็ไหม้บ้านชาวบ้านมากขึ้น...ในร้านผมเองก็มีโคมไฟนี้ลอยมาติดยอดต้นฉำฉาริมร้าน กิ่งก้านติดติดไฟอยู่สูงกว่าจะดับใด้ก็โกลาหลมากครับ..เราจึงห้ามนำมาจุดในร้านและไม่ส่งเสริมอีกเลย..

ผลที่ตามมาในด้านธุรกิจนั้นแย่มากครับ เพราะก่อนจะมีโคมไฟลอยฟ้านี้ จุดศูนย์กลางของเทศกาลลอยกระทงเคยอยู่ที่ริมแม่น้ำกลับคลายความสำคัญลง..โต๊ะริมน้ำของร้านที่เคยมีคนมานั่งจับจองตั้งแต่แดดยังไม่ลับฟ้า กลับไม่เป็นเช่นนั้นแม้โต๊ะริมน้ำจะยังเต็ม แต่ความกระตือรือร้นของลูกค้าที่จะมาลอยและชมกระทงริมน้ำนั้นลดลงไปพร้อมๆกับกระทงในน้ำที่บางตาไปเรื่อยๆทุกปี หากเทียบกับบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยโคมไฟ..เพราะมันลอยขึ้นใด้จากทุกๆที่ของเมือง มันไม่ต้องการแม่น้ำ!!!..

ที่แย่อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผมใด้ยินวิทยุเขาสัมภาษณ์ท่านผู้รู้ชาวล้านนาคนหนึ่ง แกบอกว่านี่เป็นประเพณีลอยกระทงดั้งเดิมของเชียงใหม่!!@!!..
แล้วทุกภาคส่วนล้วนช่วยกันประชาสัมพันธ์เผยแพร่กันไปทั่วเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว...
ผมและคุณโน๊ต อุดม แต้พานิช คงยืนยันใด้เลยว่ามันไม่เคยมีโคมไฟบ้านี้บนท้องฟ้าเมืองพิงค์ในคืนลอยกระทงก่อนปี'98 หรือ พ.ศ.2541เลยครับ

ที่เล่ามานี้เพียงอยากจะบอกเพื่อนๆว่าโคมไฟลอยนี้มันมีอยู่แล้วจริงแต่เพื่อใช้ในการอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับงานยี่เป็งหรือลอยกระทงเลย อย่ามั่ว.. ผมและคนเชียงใหม่ทั่วไปก็ไม่เคยรู้จักมันมาก่อนครับ

 

ขอบคุณแหล่งที่มา: เฟซบุคคุณ Sornsak Ott Ekkarattana https://www.facebook.com/ekarattanaodd
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
warrior B's profile


โพสท์โดย: warrior B
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: zerotype, พ่อดอกไม้, ฮึบๆ
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
3 ราศีที่มีความร้ายกาจ อย่างคาดไม่ถึง!AI หลุดบอกเลข งวด 16 เมษายน 2567หลานโฉด เข็นศwลุงไปกู้เงินธนาคาร
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
complex: ซับซ้อนแคสตรงปก เจมส์จิ(คุณชายพุฒิภัทร) และไมกี้(คุณฉัตรเกล้า)ใครเจอรับไปเลย ครึ่งแสน"เสรีพิศุทธ์" เปิดข้อเขียนปี 2521 ชี้ จะได้ครบถ้วนวิ่งเต้นเสียเงินเรื่องใช้เงินซื้อตำแหน่งไม่ใช่เพิ่งมี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทำไมมนุษย์ถึงตื่นเช้า?HubSpot คืออะไร ทำไมทำธุรกิจจะต้องมีฟังก์ชันทางการตลาดนี้นักพฤฒาวิทยาด้านชีวโมเลกุล อ้างว่ามนุษย์นั้นอายุยืนได้ถึง 20,000ปี!!!กาแฟไม่เพียงแต่ทำให้คุณหายง่วง แต่ยังสามารถใช้กาแฟเพื่อเสริมคอนกรีตให้แกร่งขึ้น 30%
ตั้งกระทู้ใหม่