'กรณ์ มีดี' เถียงคอเป็นเอ็น!!! แค่สวมบัตรผีไม่ได้ฆ่าคนตาย คอนเฟิร์ม ยิ่งสืบยิ่งฉาว!! ยันไม่ผิด
รายการโหนกระแส ช่อง 3 กรณีพระราชรัชมุนี (เจ้าคุณนิมิต)
1.สวมบัตรประชาชน 2.ท่านหนีเข้าเมืองหรือไม่ 3.ท่านเป็นคนพม่าหรือไม่ 4.เรื่องของกฎหมาย 5.เรื่องของพระวินัย 6.ทางออก
สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้ผม นายกรณ์ มีดี ไปออกทีวีช่อง 3 ในรายการ โหนกระแส ซึ่งออกอากาศเมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 19 ต.ค.60
ผู้มาร่วมรายการประกอบด้วย
1.พระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ วัดสร้อยทอง นักวิชการด้านศาสนา
2.นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
3.นายชาญชัย ศรีวชิรพันธ์ น้องชายแท้ๆ ของพระราชรัชมุนี (เจ้าคุณนิมิต)
4.คุณหนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการ
เบื้องต้น ผู้ดำเนินรายการได้เปิดโอกาสให้นายชาญชัย ศรีวชิรพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าเป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้าคุณ มาแสดงตัว โดยคุณชาญชัย ได้ยืนยันว่า มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ตายไปเหลือ 5 โดยระบุว่า ทั้งหมดนี้เกิดที่ท่าตอนในพื้นที่ประเทศไทยกันทุกคน แต่เดิมนั้นเป็นชนเผ่าไทยใหญ่ ไม่ได้เป็นพม่า ตามที่มีคนกล่าวถึง พร้อมชี้แจ้งเรื่องการดำเนินการขอสิทธิบัตรประชาชนมานาน จนกว่าจะพิสูจน์ได้สำเร็จ ก็ใช้เวลาไป 20 ปี
ส่วนท่านเจ้าคุณ ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่ที่ท่าตอนเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่เคยทำบัตรใดๆ และเมื่อเรียนจบ ป.6 ก็เข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ พร้อมยืนยันว่า ท่านเจ้าคุณเกิดที่ไทย ย่อมได้รับสิทธิในการเป็นคนไทยอยู่แล้ว (แต่การดำเนินการต้องใช้เวลายาวนานมาก) ส่วนเรื่องการสวมบัตรนั้น ก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด
กรณีหนีเข้าเมืองหรือไม่ ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า ท่านเกิดที่ท่าตอน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จึงไม่ใช่การหนีเข้าเมืองแต่ประการใด
กรณีท่านเป็นคนพม่าหรือไม่ ก็ได้รับการยืนยันว่า ท่านเป็นเชื้อสายเผ่าไทยใหญ่ ไม่เป็นพม่าแต่ประการใด และเกิดบนดินแดนของประเทศไทย
กรณีกฎหมาย
1.เรื่องสวมบัตร ก็เป็นการผิดกฎหมายอย่างแน่ชัด แต่ก็ต้องดูว่าท่านทราบมากน้อยแค่ไหนว่าผิดกฎหมาย แต่กระบวนการทำผิด ต้องมีมากกว่าคนเดียว
2.เรื่องสิทธิในการเป็นคนไทย ท่านสามารถพิสูจน์ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ โดยการนำเอาญาติพี่น้องที่พิสูจน์สัญชาติและได้บัตรประชาชนคนไทยแล้ว ไปพิสูจน์ DNA เพื่อยืนยัน หากยืนยันว่าท่านเกิดที่ไทยจริง และเป็นญาติพี่น้องกับคุณชาญชัย จริง ก็สามารถดำเนินการขอมีบัตรประชาชนคนไทย
*** อธิบายเพิ่มเติม สำหรับบัตรต่างๆ บนพื้นที่ตะเข็บชายแดน ตั้งแต่ รอการพิสูจน์สัญชาติ จนกระทั่งได้สัญชาติ มีดังนี้
บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 0 (เรียกบัตรหัวศูนย์) คือบุคคลผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (รอการพิสูจน์สัญชาติ)
บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 6 (เรียกบัตรสีชมพู) คือบุคคลที่ได้รับการพิสูจน์ระดับหนึ่งแล้วโดยอาจพัฒนามาจากบัตรหัวศูนย์ ซึ่งเมื่อได้รับการพิสูจน์แล้ว ก็อาจจะได้รับบัตรประชาชน หรือถูกระบุว่าเป็นต่างด้าว
บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 5 (เรียกบัตรคนไทยตกหล่น) คือบุคคลที่ได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัดแล้วว่า เกิดในพื้นที่ประเทศไทยมานาน ทางการจึงได้มอบบัตรประชาชน โดยเป็นบุคคลที่ตกหล่นจากการสำรวจ
บัตรขึ้นต้นด้วยเลข 8 (เรียกบัตรคนโอนสัญชาติ) คือบุคคลที่ได้รับอนุญาติให้โอนมาเป็นสัญชาติไทยได้
กรณีพระวินัย
หากจะโจทย์ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิกนั้น ต้องให้คณะสงฆ์พิสูจน์ว่า ท่านต้องอาบัติปาราชิกจริงหรือ
โดยผู้ต้องอาบัติปาราชิกมีองค์ประกอบครบ 5 ประการ คือ
1.ทรัพย์นั้นอันคนอื่น(เจ้าของ)หวงแหน
2.รู้ว่าเขาหวงแหน
3.มีค่ามากกว่า 5 มาสก (มีผู้เทียบว่า เท่ากับน้ำหนักเมล็ดข้าวสาร 20 เมล็ด กับน้ำหนักของทองคำ)
4.มีจิตคิดจะลัก
5.ทำให้วัตถุนั้นเคลื่อน
ดังนั้นการโจทย์ว่าท่านต้องปาราชิกหรือไม่ จึงต้องมีองค์ประกอบครบ 5 ประการ ดังนั้นหากมีการพิสูจน์ได้ว่า มีการยินยอมให้ หรือซื้อขายกันจริง ก็ทำให้องค์ประกอบไม่ครบเพราะท่านไม่ได้คิดจะลัก
กรณีทางออก
ด้านกฎหมาย ทำ 2 อย่าง คือ
1.ท่านต้องสละการสวมสิทธิ์ ซึ่งอาจต้องไปเข้าสู่กระบวนการทางศาล(หากมีการฟ้องร้อง)
2.ท่านสามารถยื่นพิสูจน์สถานะผู้ที่เกิดในไทย/ผู้ที่ได้สิทธิบัตรประชาชนคนไทย โดยพิสูจน์การเกิดในพื้นที่ พิสูจน์ DNA ญาติและท่าน
ด้านวินัย
หากโจทย์ว่าท่านต้องอาบัติปาราชิก ต้องให้คณะสงฆ์สอบสวน และสรุป
หากโจทย์เป็นอาบัติอื่น ก็สามารถปลงอาบัติได้ทันที
ประเด็นอื่นๆ
แม้
ท่านไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคง
ท่านสร้างคุณความดีอย่างมากมาย อาทิ
พัฒนาวัด ให้โอกาสผู้ด้อยโอกาสให้เข้ามาศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมจนถึงปริญญา พร้อมหาทุนการศึกษาให้แก่คนอย่างมากมาย และสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมให้คนมาใช้อย่างต่อเนื่อง
แต่ความดีและความผิด ก็เป็นคนละเรื่องกัน ไม่สามารถมาหักล้างกันได้ อย่างไรก็ขอให้คนไทยค่อยๆ พิสูจน์ รอดูความคืบหน้าและความกระจ่างต่อไป
ประเด็นอื่นๆ (ถ้ามี)จะขอนำมา Update ในภายหลัง
ผนึกกำลังชาวพุทธ หยุดภัยคุกคาม
We are Buddhists
พวกเรา คือชาวพุทธ
นายกรณ์ มีดี
เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
19 ต.ค.60