ย้อนรอย ปิดฉากโฮปเวล์ อนุเสาวรีย์แห่งความล้มเหลว
ย้อนรอย ปิดฉากตอม่อ 2 ทศวรรษ
ในที่สุดตอม่อโฮปเวลล์ที่ก่อสร้างมาร่วม 20 ปี กว่า 500 ต้น ตั้งเรียงรายคู่ขนานถนนโลคอลโรดและรางรถไฟสายเหนือ ยาวสุดลูกตาไปถึงรังสิตจะถูกทุบทิ้งแบบไม่เหลือ
ย้อนรอยโครงการพบว่าผ่านมาแล้ว 8 รัฐบาล เริ่มต้นเมื่อปี 2533 สมัย "รัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ" มี "มนตรี พงษ์พานิช" นั่ง รมว.คมนาคม เป็นผู้เปิดประมูลและอนุมัติก่อสร้างโครงการ มีชื่อเต็มว่า "โครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพฯ" เป็นทางยกระดับ มีทั้งทางด่วน รถไฟชานเมือง รถไฟฟ้า ระยะทางรวม 60.1 กิโลเมตร แต่เพราะได้ยักษ์รับเหมาจากฮ่องกงคือ "บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย)" ของ "กอร์ดอน วู" มาก่อสร้างทำให้คนเรียกขานโครงการนี้ว่า "โฮปเวลล์" จนติดปากเพราะสั้นและจำง่าย
ขณะนั้น "โฮปเวลล์" ได้รับสัมปทานเดินรถและเก็บค่าผ่านทาง พร้อมสิทธิ์ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใต้ทางรถไฟยกระดับและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สองข้างทางเนื้อที่กว่า 600 ไร่ ระยะยาว 30 ปี ตั้งแต่ 6 ธ.ค. 2534-5 ธ.ค. 2542 เสนอผลตอบแทนให้รัฐบาล 53,810 ล้านบาท
แต่เริ่มมาสะดุดเมื่อเกิดรัฐประหาร มีการตรวจสอบจนถูกล้มโครงการสมัย "รัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน" ต่อมา "รัฐบาลชวน 1" ได้ผลักดันต่อ โดยมี "พันเอกวินัย สมพงษ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้นเป็นหัวแรงใหญ่ ถึงปี 2540 สมัย "รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ" จำต้องประกาศยกเลิกสัญญากับโฮปเวลล์ หลังโครงการหยุดก่อสร้างเพราะวิกฤตเศรษฐกิจ มีผลงานแค่ 13.77% ตลอดเวลาที่ก่อสร้าง 7 ปี และมาบอกเลิกสัญญาอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2541 สมัย "ชวน 2" ซึ่งมี "สุเทพ เทือกสุบรรณ" นั่งเก้าอี้ รมว.คมนาคม
เกิดค่าโง่ 1.2 หมื่นล้าน ! จนกลายเป็นค่าโง่ เมื่อต่อมา "โฮปเวลล์" ฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายหลังถูกเลิกสัญญา ด้วยวงเงินกว่า 56,000 ล้านบาท ที่นำมาลงทุนในโครงการนี้ ด้าน "ร.ฟ.ท.-การรถไฟแห่งประเทศไทย" คู่สัญญาก็ฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายด้วยวงเงิน 200,000 ล้านบาท มีหลายรัฐบาลพยายามฟื้นตอม่อให้มีมูลค่าขึ้นมาจนกระทั่งมาถึง "รัฐบาลเพื่อไทย" กำลังจะยุติโครงการเก่าและสร้างภาพใหม่ ภายใต้โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) พ่วงด้วยรถไฟความเร็วสูง 3 สายที่ได้หาเสียงไว้
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2556 ได้อนุมัติกรอบวงเงินลงทุนโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต มีผลให้เพิ่มกรอบวงเงิน 2 สัญญาคือ สัญญาที่ 1 รับทราบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอเรื่องรายละเอียดการปรับเพิ่มวงเงิน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2555 ที่อนุมัติการปรับวงเงินในสัญญาที่ 1 จากเดิม 2.71 หมื่นล้านบาท
เป็น 2.98 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันอนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินสัญญาที่ 2 จากเดิม 1.93 หมื่นล้านบาท เป็น 2.12 หมื่นล้านบาท
ส่วนสัญญาที่ 3 ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขปัญหาการประกวดราคาโดยเร็ว
เพื่อแสดงให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนของการดำเนินการ และสร้างความเชื่อมั่นว่า ร.ฟ.ท.จะจัดหารถไฟฟ้ามาให้บริการประชาชนได้ทันทีที่การก่อสร้างแล้วเสร็จ
ท้ายที่สุดนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปว่า 'เสาตอม่อโฮปเวลล์' มรดกตกทอดจากบิ๊กโปรเจกต์ที่เหลืออยู่นี้ จะพัฒนาตามแผนของการรถไฟฯ ได้หรือไม่ หรือจะทิ้งไว้ต่อไป
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10209629455923505&set=pcb.378680969221087&type=3&theater&ifg=1
https://www.youtube.com/watch?v=kq_eDFcMQwQ
https://www.youtube.com/watch?v=CoDg1pg_sUs