เทคนิคการเก็บรูปภาพและวีดีโอจากโทรศัพท์ เปิดดูได้ทุกที่ทุกเวลา ย้ายเครื่องก็ไม่หาย

เก็บลงพื้นที่แบบไม่จำกัดด้วย Google Photos

Google Photos เรียกว่าเป็นเครื่องมือที่ดีงามดั่งพระเจ้าสร้างสรรค์มันขึ้นมา ความเจ๋งของมันคือสามารถเลือกที่จะเก็บภาพและวิดีโอได้ แบบไม่จำกัดพื้นที่

แต่ Google ก็ไม่ได้ใจดีขนาดนั้น เพราะถ้าไฟล์ที่เราอัปโหลดขึ้นไปมีขนาดใหญ่ Google จะย่อรูปให้เราโดยอัตโนมัติ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะรูปที่ถ่ายจากมือถือไม่ได้มีขนาดใหญ่พอที่ Google จะต้องย่อให้อยู่แล้ว

Google Photos นั้นสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือทั้ง Andoird และ iOS สามารถเข้าใช้งานได้ตามด้านล่าง
Website : https://photos.google.com
Android : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.google.android.apps.photos
iOS : https://itunes.apple.com/th/app/google-photos-photo-and-video-storage/id962194608?mt=8

โดยเราจะมาโฟกัสกันที่บนโทรศัพท์ เริ่มจากการตั้งค่าให้อัพโหลดได้ไม่จำกัดพื้นที่ ให้ไปที่ Settings > Backup & sync > Upload size จากนั้นเลือกเป็น High quality

จากนั้นให้มาดูที่ในเมนูหน้า Backup & sync ที่เดิม ในส่วนของการอัปโหลด ค่าเริ่มต้นของแอปจะตั้งค่าไว้ให้เราอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอก็ต่อเมื่อใช้ WiFi เท่านั้น แต่ถ้าใครเน็ตเหลือเยอะก็สามารถเลือกให้อัปโหลดเมื่อเราต่อกับเน็ตมือถือก็ได้

เพียงเท่านี้เราก็สามารถลบรูปได้เมื่อเครื่องเต็ม โดยที่ไม่ต้องกลัวว่ารูปจะหายอีกต่อไป ฮู่เร่

บันทึกรูปทันใจด้วย iCloud Photo Library

iCloud Photo Library เป็นฟีเจอร์ที่ใช้สำหรับ Sync รูปในเครื่องขึ้นไปบน iCloud ของ iOS (แน่นอนไม่มีบน Android T_T)

เมื่อเราเปิดใช้งานฟีเจอร์และต่อ WiFi เครื่อง iPhone ของเราจะอัปโหลดรูปและวิดีโอขึ้น iCloud โดยอัตโนมัติ และ iOS Device ที่ใช้งานด้วย Account เดียวกันจะใช้งานร่วมกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็น iPad, MacBook, iPhone หรืออื่นๆ

โดยเบื้องต้น iCloud จะมีพื้นที่ให้เรา 5GB แต่ถ้าอยากได้เพิ่มก็ต้องจ่ายตังเป็นรายเดือนเอาครับ

สามารถเปิดการใช้งานโดยไปที่ Settings > Photos & Camera แล้วติ๊กเปิด iCloud Photo Library รอจนมันอัปโหลดเสร็จ แล้วลองเช็กที่ https://www.icloud.com/#photos ว่าอัปโหลดขึ้นไปแล้ว

เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้เครื่องเราเก็บไฟล์ขนาดเดียวกันกับต้นฉบับ หรือให้ไฟล์ต้นฉบับไปอยู่บน iCloud แล้วให้ไฟล์เล็กๆ สำหรับใช้ Preview อยู่ในเครื่องแทนจะได้ไม่ต้องเปลืองพื้นที่

เก็บไฟล์เอกสารสำคัญลง Dropbox – Google Drive

สำหรับพื้นที่เก็บไฟล์ในรูปแบบ Cloud Service สามารถเก็บได้มากกว่ารูปภาพและวิดีโอ ซึ่งในส่วนนี้ ผู้เขียนเองก็ใช้มาหลายตัว แต่ตัวที่ใช้งานได้ดีในด้านของความเร็วและฟีเจอร์ที่ครบครัน ใช้งานง่าย จะเป็น Dropbox และ Google Drive สองตัวนี้เลยครับ

ถ้าพูดถึงการเก็บไฟล์ทุกรูปแบบ ผมแนะนำให้ใช้บริการของเจ้าใหญ่ๆ ที่เค้าทำในส่วนนี้โดยเฉพาะ เพราะเมื่อเราปักธงใช้ของเจ้าใดเจ้าหนึ่งแล้วเราจะใช้ไปอีกนาน การจะย้าย Service ไปมานี่ค่อนข้างลำบากเหมือนขนของย้ายบ้านเลย

ในส่วนของ Dropbox และ Google Drive เราก็จะสามารถใช้ได้ทุกอุปกรณ์ทั้งโทรศัพท์ (iOS และ Android) คอมพิวเตอร์, เว็บไซต์ เรียกว่าสามารถเปิดเรียกไฟล์ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาเลย

การใช้งานบน Desktop นี่ดีงามมากๆ เหมือนเราสร้างโฟลเดอร์พิเศษขึ้นมา เมื่อเราโยนไฟล์ใส่โฟลเดอร์นั้นๆ ก็จะ Sync ขึ้น Cloud ให้โดยอัตโนมัติ

• ดาวน์โหลด Dropbox : iOS, Android
• ดาวน์โหลด Google Photos : iOS, Android

Flash Drive ที่ใช้งานกับโทรศัพท์

สำหรับท่านที่ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือบ่อยๆ อาจจะไม่สะดวกอัปโหลดขึ้น Cloud เพราะไฟล์วิดีโอจะค่อนข้างใหญ่ ถ้าถ่ายคนเครื่องเต็มแล้วหา WiFi ไม่ได้นี่เรียกว่าจบชีวิตเลย

แต่โลกเราก็ยังไม่โหดร้ายขนาดนั้น บริษัทเจ้าที่ผลิต Flash Drive ดังๆ เค้าได้ออก Flash Drive สำหรับเสียบกับโทรศัพท์มือถือเพื่อโยนไฟล์ใส่เก็บเอาไว้ ซึ่งทำออกมาได้ดีมากๆ สะดวกโคตรๆ จะเป็นลักาณะหัวสองด้าน ด้านหนึ่งเสียบโทรศัพท์ อีกด้านเสียบ USB เข้าคอมพิวเตอร์ Copy & Paste ไฟล์งายๆ เลย

สำหรับใครที่ถ่ายไฟล์วิดีโอหนักๆ ก็สามารถโยนใส่ Flash Drive แล้วลบไฟล์ในเครื่องทิ้งได้ทันที

สำหรับ Flash Drive ก็มีหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อ ซึ่งมีทั้งการส่งไฟล์แบบเสียบเข้ากับตัวเครื่อง และแบบส่งผ่าน WiFi สำหรับใช้งานพร้อมกันหลายเครื่องได้ ชอบแบบไหนก็ไปลองดู ยี่ห้อที่ผู้เขียนใช้อยู่คือของ SanDisk ก็ใช้ได้ดีทีเดียว ราคาอยู่ที่ 1,500-3,500 บาท ขึ้นอยู่กับความจุและฟีเจอร์

เพียงเท่านี้พื้นที่มือถือเต็มเพราะรูปหรือวิดีโอเยอะก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปลองเลือกวิธีที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราดูจ้า