ขึ้นภาษีสำหรับ 'คนบาป' ...จ่ายแล้วไปไหน?
นับแต่วันที่ 16 ก.ย. เป็นต้นมา รัฐบาลได้ประกาศอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ ใน 15 สินค้า 4 บริการ ซึ่งรวมถึง ‘เหล้า’ ‘เบียร์’ และ ‘บุหรี่’ ทำให้ราคาขายสินค้าเหล่านี้ที่ใครหลายคนมองว่า เป็นสินค้าทำลายสุขภาพ (แถมยังทำบาป-ผิดศีล) เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
.
#เบียร์ จะขึ้นกระป๋องละ 50 สตางค์ ขวดละ 2 บาท
.
#เหล้า หรือสุรา มีทั้งราคาขึ้นและลง ขึ้นอยู่กับประเภทและดีกรี เช่น เหล้าขาวขึ้นขวดละ 80 สตางค์-3 บาท 50 สตางค์ เหล้ากลั่นในประเทศ ขึ้น 2-30 บาท สวนทางกับเหล้ากลั่นนอกประเทศ ที่ลดลง 2-20 บาท แต่ที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือไวน์นำเข้า ที่ขึ้นถึงขวดละ 110 บาท
.
#บุหรี่ เพิ่มขึ้นซองละ 2-15 บาท (วันเดียวกันนี้ โรงงานยาสูบเพิ่งประกาศราคาขายบุหรี่ใหม่ ปรากฎว่า กรองทิพย์และสายฝน ขึ้นเป็นซองละ 95 บาท วันเดอร์ เอสเอ็มเอส โกล์ และไลน์ ซองละ 60 บาท ส่วนแอลเอ็มยังคงราคาเดิม ซองละ 72-87 บาท)
.
นอกจากนี้ ยังมีการจัดเก็บภาษีใหม่ จากเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาล หรือที่เรียกกันว่า ‘ภาษีน้ำหวาน’ โดยจะแบ่งเก็บใน 5 อัตรา ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลต่อ 100 มิลลิลิตร มีตั้งแต่ไม่เก็บสักบาท ไปจนถึงสูงสุด 5 บาท
.
ฝ่ายรัฐอ้างว่า การจัดเก็บภาษีเหล่านี้ จะช่วยลดปริมาณการบริโภค ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพของประชาชน แต่งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า การขึ้นภาษีมีผลไม่มากนัก
.
เป้าหมายที่แท้จริง น่าจะอยู่ที่ ‘รายได้’ ซึ่งอธิบดีกรมสรรพามิต คาดว่าน่าจะเก็บได้เพิ่มขึ้นปีละราว 12,000 ล้านบาท มากกว่า
.
ปัจจุบัน ภาครัฐจัดเก็บภาษีเหล้า เบียร์ และบุหรี่ ได้ปีละกว่า 2 แสนล้านบาท โดยในปี 2559 เก็บภาษีเหล้าได้ 61,953 ล้านบาท ภาษีเบียร์ 86,143 ล้านบาท และภาษีบุหรี่ 65,438 ล้านบาท ซึ่งเงินทั้งหมดจะถูกแปรไปเป็น 'รายได้' ของรัฐบาล (คิดเป็นราว 7% ของรายได้ทั้งหมด) เพื่อใช้จ่ายในการพัฒนาประเทศต่อไป
.
แต่นอกจากภาษีสรรพสามิต สินค้าเหล่านี้ยังต้องเสีย ‘ภาษีบาป’ เพิ่มเติม (เก็บเพิ่ม ไม่ใช่หักจากภาษีสรรพสามิต) อีก 7.5% เพื่อนำไปอุดหนุนองค์กรต่างๆ ที่มีภารกิจด้านสาธารณะประโยชน์
2% ไม่กำหนดเพดาน ให้กับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
2% แต่ไม่เกิน 4 พันล้านบาท ให้กับกองทุนผู้สูงอายุ
2% แต่ไม่เกิน 2 พันล้านบาท ให้กับกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ
1.5% แต่ไม่เกิน 2 พันล้านบาท ให้กับไทยพีบีเอส
.
ทุกมวนที่สูบ ทุกแก้วที่ดื่ม จึงไม่ได้มีแต่ภาษีสรรพสามิตเท่านั้น ยังรวมถึงภาษีบาปอีกด้วย นี่เป็น 'ราคาที่ต้องจ่าย' สำหรับคนบาป ..ที่ยังบริโภคสินค้าเหล่านี้
.