นี่คือ ระเบิดไฮโดรเจน AN602 ของสหภาพโซเวียต อาวุธที่มีพลังทำลายล้างที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ"
ซาร์บอมบา (Царь-бомба) เป็นชื่อเล่นที่ใช้เรียกระเบิดไฮโดรเจน AN602 ของสหภาพโซเวียต เป็นอาวุธนิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และมีพลังทำลายล้างรุนแรงที่สุด เท่าที่เคยมีการใช้งานมา จัดว่าเป็น "อาวุธที่มีพลังทำลายล้างที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ" ชื่อนี้เป็นชื่อที่สื่อในโลกตะวันตกตั้งให้ แต่ต่อมาในรัสเซียก็ยอมรับชื่อนี้มาใช้
ระเบิดนี้พัฒนาขึ้นโดยสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น ตามแบบแผนที่ออกแบบไว้เดิมจะมีขนาดเทียบเท่ากับการระเบิดของ TNT 100 เมกะตัน เทียบเท่ากับ 420 เพตะจูล แต่ได้ลดลงเหลือ 50 เมกะตัน เพื่อลดขนาดของระเบิดลงให้สามารถบรรทุกด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด รุ่น Tupolev Tu-95 ที่ได้รับการดัดแปลงเป็นพิเศษ พลังทำลายล้างของซาร์ บอมบา คิดเป็น 1,400 เท่าของระเบิดลิตเติลบอย 13-18 กิโลตัน รวมกับแฟตแมน 21 กิโลตัน
ซาร์บอมบา มีความยาว 8 เมตร ผ่าศูนย์กลาง 2.1 เมตร น้ำหนัก 27,000 กิโลกรัม ถูกสร้างขึ้นจำนวน 1 ลูก และลูกโมเดลตัวอย่างอีก 1 ลูก ที่สร้างขึ้นเฉพาะโครงสร้างภายนอก ลูกระเบิดถูกนำไปทดสอบเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 1961 บริเวณเกาะ โนวายาเซมลยา ทางตอนเหนือของขั้วโลกเหนือ ระเบิดถูกทิ้งลงจากเครื่องบินทิ้งระเบิด รุ่น Tupolev Tu-95
ที่ระดับความสูง 10.5 กิโลเมตร เมื่อเวลา 11.32 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น ระเบิดได้รับการออกแบบให้จุดระเบิดด้วยเซ็นเซอร์บารอมิเตอร์ ที่ความสูง 4 กิโลเมตรเหนือพื้นดิน ระเบิดต้องหน่วงเวลาเพื่อให้เครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินสังเกตการณ์บินห่างออกไปเป็นระยะทาง 47 กิโลเมตร เพื่อไม่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด การทดสอบนี้ออกแบบให้เกิดลูกไฟกลางอากาศและให้สลายตัวไปก่อนลูกไฟจะตกลงกระทบพื้นผิวโลก
ซาร์บอมบา เป็นอาวุธนิวเคลียร์แบบความร้อน มีการทำงานเป็น 3 ขั้นตอนแบบ Teller–Ulam คือ ขั้นแรกเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิซชันทำให้เกิดแรงอัด จากนั้นจึงเกิดปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ให้ความร้อน และใช้พลังงานจากการระเบิดนำพาความร้อนให้มีประสิทธิภาพในการทำลายล้างมากขึ้น
จากการทดสอบ ซาร์บอมบา ทำให้เกิดลูกไฟขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 กิโลเมตร ในอากาศ สามารถมองเห็นและรู้สึกถึงคลื่นความร้อนได้ที่ระยะ 1,000 กิโลเมตร จากจุดศูนย์กลางการระเบิด มีรัศมีการทำลายในระยะ 100 กิโลเมตร จากศูนย์กลาง โดยทุกอย่างในรัศมี 40 กิโลเมตร ได้ระเหยกลายเป็นไอทั้งหมด เมื่อก๊าซที่เกิดขึ้นปะทะกับเมฆ ทำให้เกิดเมฆรูปเห็ดมีความสูงประมาณ 64 กิโลเมตร ความกว้างของฐานเมฆประมาณ 40 กิโลเมตร
พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาระหว่างการระเบิด 2.1 x 10 จูล หรือ 1% พลังงานเฉลี่ยที่ดวงอาทิตย์ที่ส่งมายังโลก การระเบิดยังได้ส่งแรงอัดมหาศาลสู่ห้วงอวกาศ ทำให้การสื่อสารทุกประเทศทั่วโลกเป็นอัมพาตไป 1 ชั่วโมง