นารีผล(กมลาสริสิตฺถิโย)พันธุ์ไม้พิสดารแห่งหิมพานต์
โพสท์โดย นาคเฝ้าคัมภีร์
นารีผล ถูกเข้าใจตามๆกันมาหลายสิบ(รึอาจร่วมร้อย)ปี ว่า เป็นพฤกษาพันธุ์ที่ออกผลเป็นรูปผู้หญิง(นารี)ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อนอย่างมโหฬาร เพราะเมื่อพิจารณาตามรูปทรงทางเรขาคณิตพื้นฐานของผลไม้ตามความเป็นจริงแล้ว จะทราบว่า ผลไม้มีรูปทรงพื้นฐาน คือ ทรงกลม แต่จะออกล่างรึออกข้างนี่แล้วแต่ชนิด แต่ทว่า นารีผลกลับประกอบด้วยองค์ประกอบ ๕ ส่วนหลักซึ่งตรงกับ ๕ องค์ของมนุษย์ คือ ศีรษะ๑ แขน๒ ขา๒ แล้วดูจะไม่สามารถเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และหากเทียบเคียงกับองค์ประกิบส่วนต่างๆของต้นไม้ตามธรรมชาติ จะพบว่าองค์ส่วนประกอบของพืชพันธุ์ต่างๆที่มีครบ องค์๕ เช่นเดียวกับลักษณะทางกายภาพของมนุษย์นั้น คือ ดอกไม้ ซึ่งกลีบของดอกไม้หลายชนิดมักจะประกอบด้วยกลีบ ๕ กลีบซึ่งตรงกับ๕องค์ของมนุษย์ คือ ศีรษะ๑ แขน๒ ขา๒ อย่างพอดี
จากข้อมูลในหลายแห่งระบุว่า นารีผลตอนออกใหม่ๆจะอยู่ในท่าคล้ายนั่งกอดเข่าซึ่งตรงกับดอกไม้เวลาตูม(กลีบซ้อนกัน) ที่สำคัญมีข้อมูลระบุว่า นารีผลออกได้ ๗ วันก็จะร่วงแต่กลับไม่ได้บอกว่าผลนั้นใช้เวลากี่วันจึงสุก และไม่ได้บอกด้วยว่าดอกของต้นนารีผลมีลักษณะสีสันเช่นไร ในขณะที่มีบางข้อมูลระบุว่า นารีผลมีกลิ่นหอมมากด้วย ซึ่งตรงกับหลักในธรรมชาติที่กล้วยไม้บางชนิดมีดอกและกลิ่นคล้ายฟีโรโมนของแมลงตัวเมียเพื่อล่อแมลงเพศผู้ที่อยู่ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ให้มาช่วยผสมเกสรให้ แต่พวกคนธรรพ์และวิทยาธรฉลาดกว่านั้น จึงตัดดอกไปเลย ไม่ผสมเกสรให้ต้นนารีผลจึงไม่ไปงอกที่อื่นนอกเขต กลิ่นนารีผลน่าจะออกฤทธิ์คล้ายฟีโรโมนที่ใช้ล่อแมลงแต่ปรับค่าความเข้มข้นซะใหม่เพื่อเข้ากับลักษณะเหยื่อล่อมนุษย์(ป่านารีวันเกิดจากการกลายพันธุ์เพราะตบะฤๅษีเป็นเหตุซึ่งจะขออธิบายในบทต่อๆไป) นารีผลจึงควรเป็นดอกไม้มากกว่าผลไม้(อนึ่ง คำว่าผล อาจย่อมาจากคำว่า ผลลัพธ์ คือ ต้นนารีผลเป็นต้นไม้ที่ให้ผลลัพธ์[คือดอก]เป็นนารี)
ลักษณะของต้นนารีนั้น จะมีลักษณะเป็น ไม้เลื้อยกึ่งยืนต้น เพราะในประเทศศรีลังกา เรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า Narilatha หรือ Nari latha wela ซึ่งเรียกทับศัพท์ได้ว่า นารีลดา และ นารีลดาวัลย์ ซึ่ง คำว่า ลดา หมายถึง เครือเถา เครือวัลย์ ส่วนคำว่า วัลย์ แปลว่า เถาวัลย์,ไม้เถา,เครือเขา(ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน) ความหมายจึงค่อนข้างชัดเจนว่า ต้นนารีลดาวัลย์(นารีผล)เป็นไม้เลื้อยกึ่งยืนต้นนั่นเอง(ในทางอาหรับจัดพืชชนิดนี้ไว้ในกลุ่ม waq waq tree)
หลักฐานสำคัญซึ่งช่วยสนับสนุนยืนยันว่า ดอกของต้นนารีลดานี้เป็นดอกไม้แน่นอน ปรากฏอยู่ใน อลัมพุสาชาดก ในวรรคที่ว่า
ต่อมา แม่เนื้อคลอดบุตรเป็นมนุษย์. พระมหาสัตว์จึงเลี้ยงทารกนั้นไว้ ด้วยความรักใคร่ว่าเป็นบุตร ตั้งชื่อให้ว่า อิสิสิงคกุมาร. ในเวลาต่อมา พระมหาสัตว์จึงให้อิสิสิงคกุมารผู้รู้เดียงสาแล้วบวช ในเวลาตนชราลง ได้พาดาบสกุมารนั้นไปสู่นารีวัน กล่าวสอนว่า ลูกรัก ขึ้นชื่อว่าสตรีเช่นกับดอกไม้เหล่านี้ มีอยู่ในป่าหิมพานต์นี้ สตรีเหล่านั้นย่อมยังชนผู้ตกอยู่ในอำนาจตน ให้ถึงความพินาศอย่างใหญ่หลวงได้ ไม่ควรที่เจ้าจะไปสู่อำนาจของสตรีเหล่านั้น ดังนี้แล้ว
ตามข้อมูลระบุว่า ต้นนารีลดานี้อยู่รวมกันเป็นป่า เรียกว่า นารีวัน(วัน/วนา - ป่า) และ ข้อความ ขึ้นชื่อว่าสตรีเช่นกับดอกไม้เหล่านี้ ถึงจะสั้นแต่ชัดเจนมากว่าสิ่งที่มีรูปร่างเป็นสตรีนั้น คือ ดอกของต้นนารีลดาไม่ใช่ผลแต่อย่างใด
และที่สำคัญ บันทึกเรื่อง อลัมพุสาชาดก ในฉบับภาษาบาลี-สันสกฤต เรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า กมลาสริสิตฺถิโย ซึ่งสามารถแยกเป็นคำได้ดังนี้
กมล + สร + อิส(อิศ) + อิตถี
เมื่อนำคำทั้งหมดมารวมกันจึงถอดความได้อย่างคร่าวๆว่า
นางอันเป็นเลิศและเป็นทิพย์เปรียบได้กับดอกบัวนี้
จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ความผิดพลาดด้านข้อมูลของดอกไม้ชนิดนี้ น่าจะเริ่มตั้งแต่มีการถอดความหมายในชั้นต้น ซึ่งแทนที่จะถอดความว่าตามรากศัพท์เดิม กลับถอดความเป็น ผลไม้ที่มีรูปเหมือนหญิงสาว รึที่ปัจจุบันรู้จักกันดีในชื่อ "นารีผล" นั่นเอง
ดังนั้นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของดอกไม้นี้ จึงควรกล่าวว่า มีดอกไม้ชนิดนี้กลีบเลี้ยงภายนอกคล้ายกับดอกบัว ในเวลาดอกตูม กลีบเลี้ยงจะหุ้มตัวดอกทั้งหมดไว้จนดูคล้ายกับดอกบัวตูมนั่นเอง
กลิ่นของดอกนารีลดานี้ น่าจะออกฤทธิ์คล้ายฟีโรโมนที่ใช้ล่อแมลงแต่ปรับค่าความเข้มข้นซะใหม่เพื่อเข้ากับลักษณะเหยื่อล่อมนุษย์(ป่านารีวันเกิดจากการกลายพันธุ์เพราะตบะฤๅษีเป็นเหตุ) และเมื่อดอกนารีร่วง ด้วยความสูงของต้นและความที่ดอกไม้ชนิดนี้มีส่วนประกอบเป็นน้ำสูง เมื่อตกลงถึงพื้นจึงแหลกละเอียดจนไม่อาจหาซากไม่ว่าจะดอกสดรึดอกแห้งนำมาแสดงเป็นหลักฐานได้(ในยุคสมัยนี้)เพราะเมื่อตกกระทบพื้น ดอกไม้นี้จะแหลกระเอียดดุจคนตกตึกนับร้อยๆชั้นลงมากระแทกดิน(เละจนจำสภาพเดิมไม่ได้!)
จากข้อมูลเหล่านี้ก็มากพอให้สามารถพิพากษาลงไปได้เลยว่า นารีผลที่มันเอาออกมาโชว์ในยุคสมัยนี้ ล้วนเป็นของทำปลอมทั้งสิ้น!
หลังจากค้นหาอย่างมีตามเกิดตามหน้าเว็บไซด์ต่างๆ ทางเราก็พบตัวอย่างดอกไม้ที่มีรูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์ที่มีอยู่จริงในโลกนี้จนได้ แต่ตัวอย่างพืชจำพวกนี้มีขนาดเล็กมาก ดอกของพืชชนิดนี้จึงมีขนาดเล็กประมาณหัวแม่มือเท่านั้น(ไซส์เดียวกับทัมเบอริน่าได้มั้ง)
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: Ployza, ชายมิกซ์, Yang TianLiang
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ในวันที่ไม่มีพ่อแม่คอยถามไถ่ อย่างน้อยๆ น้องก็ยังมี เพื่อนพ่อที่คอยถามไถ่น้องแทนเรือนจำที่น่ากลัวที่สุดในโลกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ชายคนหนึ่งเข้าพักโรงแรม เกิดเหงาเรียกสาวบริการ พบเป็นเมียของตนเองสาวขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทัน ประตูหนีบมือ ก่อนโดนลากไปกับรถนักท่องเที่ยวถูกขโมยกระเป๋าในห้างไทย ต้องตามคนร้ายจากสัญญาณไอพอด ก่อนตำรวจจะจับตัวได้ พบเป็นชาวอินโดฯ ที่มาทำงานในไทย 😏เพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้งสกินชิพ Skinship ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ 5 ประโยชน์ของการสกินชิพมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายที่มากับเมนูอร่อยเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการขับรถเลนซ้าย!!ทำไมเราถึงทะเลาะกับแฟนบ่อยสุดยอดสายรุ้ง 360 องศา มหัศจรรย์จากธรรมชาติที่คุณอาจไม่เคยเห็นHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้ง50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025พนักงานสตาร์บัคส์[อเมริกา] ประท้วงหยุดงานจนถึงคริสต์มาสอีฟ เพื่อต่อรองค่าจ้างและเวลาทำงานซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิต“มนุษย์เกิดมาทำไม?” คำถามที่ปลดล็อกความหมายของการมีชีวิต