มุมมองของคริสเตียนกรณี ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ไม่ยกมือไหว้พิธีบวงสรวงละคร
ชาวเน็ตจวกหนักเมื่อเห็นภาพข่าว นางเอกสาว ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ในพิธีบวงสรวงละคร นางทิพย์ ละครเรื่องใหม่ของค่ายพอดีคำ ในวันที่ 28 มิถุนายน 2560 แต่เธอไม่ยกมือไหว้ขณะร่วมพิธีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออนไลน์ ก่อนจะมีคนออกมาท้วงว่าคุณปุ๊กลุกเธอเป็นคริสเตียน แต่ก็ไม่วายถูกโพสต์โจมตีอีกระลอก “ไม่มีสัมมาคารวะ” บ้างล่ะ “ไม่เป็นแบบอย่างที่ดี” บ้างล่ะ “คริสเตียนคนอื่นก็ยังไหว้บ้างล่ะ”
ก่อนไปต่อ : ชูใจไม่ใช่เว็บบันเทิงดังนั้นเราจะพูดคุยกันในเรื่องของความเชื่อกันแบบสบายใจๆ โดยไม่ดราม่านะครับ ^^
เพราะว่า…คริสเตียนไทยอาจต้องข้องเกี่ยวกับพิธีกรรมทางความเชื่ออื่นอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นเราควรทำความเข้าใจและมีจุดยืนที่ชัดเจน
หลายครั้งเพราะความไม่ชัดเจนที่เคยเกิดขึ้น ภาพลักษณ์ของคริสเตียนในพิธีกรรมต่างๆ ที่ปรากฏต่อสาธารณชนจึงดูคลุมเครือ จะโทษคนภายนอกก็ไม่เต็มปากเพราะบางทีเราๆ เองนั่นแหละที่ทำให้เขาเข้าใจผิดแบบนั้น อาจจะด้วยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเพราะเราอะลุ่มอล่วยมากไปก็ตาม วันนี้เราจะมาคุยทำความเข้าใจกันแบบง่ายๆ นะครับ
สิ่งที่คุณปุ๊กลุ๊ก ทำนั้นเป็นสิ่งที่เราคริสเตียนก็ทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ดราม่าเล็กๆ นี้เกิดขึ้นเกิดจากคนที่เค้าไม่เข้าใจในหลักการของคริสเตียนมากกว่า ซึ่งคนไม่รู้ก็ไม่ผิดอะไรเพราะไม่ใช่ความเชื่อของเค้า เราก็ไม่ควรต่อว่ากัน แต่ควรให้ความเข้าใจที่ถูกต้องจะดีกว่านะครับ
“คนนั้นก็เป็นคริสต์ยังเห็นไหว้พระอยู่เลย”
“เพื่อนเราก็คริสเตียน ยังดูดวงเลย”
“คริสเตียนข้างบ้านฉัน ยังไหว้เจ้าที่บ้านเลย”
หลักการเป็นอย่างนี้ครับ ในบัญญัติ 10 ประการนั้นมีเขียนไว้ขัดเจน “ห้ามมีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา” (อพยพ 20:3)
คริสเตียนนั้นไม่สามารถกราบไหว้ บูชา จุดธูปเทียน หรือ ท่องบทสวดใดๆ ที่เป็นความหมายในเชิงการนมัสการ เทพเจ้าองค์ใดๆ ได้เลยไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบที่เป็นองค์ๆ หรือ ส่งใจไปถึง ซึ่งนั่นก็คนละประเด็นกับการแสดงความเคารพรักบุคคลในฐานะที่เป็นคนที่เรารักหมดใจอย่าง เช่น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือ พระมหากษัตริย์
“จงลุกขึ้นคำนับคนผมหงอกและเคารพผู้อาวุโส และจงยำเกรงพระเจ้าของเจ้า…” (เลวีนิติ 19:32)
คนไทยไปลามาไหว้ เหล่านี้เป็นการแสดงความเคารพนอบน้อมในวัฒนธรรมไทยซึ่งเป็นสิ่งดีและคริสเตียนสามารถไหว้บุคคลได้อยู่แล้วครับ แต่ในกรณีพิธีกรรมทางความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเทพเจ้าอื่นๆ นั้นไม่สามารถทำได้เพราะว่าขัดกับหลักความเชื่อในเรื่องการนมัสการพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวอย่างที่บอกไป
…
จุดยืนของคริสเตียน ยืนตรงไหนในพิธีต่างๆ ได้บ้าง?
“เจ้าอย่านมัสการพระอื่นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระนามว่าหวงแหน เป็นพระเจ้าผู้ทรงหวงแหน” (อพยพ 34:14)
ทฤษฎีทางจิตวิทยาสังคมบอกว่า เรามีแนวโน้มที่จะ “คล้อยตามกลุ่ม” เพราะทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง มั่นคงและปลอดภัย หลายครั้งเราจึงเลือกทำตัว “เนียนๆ” นั่นเป็นสาเหตุให้คนทั่วไปเกิดความสับสนว่า อ้าวเหยยยยย คริสเตียนก็ทำนั่นนี่ได้นี่
ดังนั้นเพื่อลดแรงกดดันจากสังคมที่มักทำให้เราหวั่นไหว เราควรทบทวนจุดยืนตามพระคำของพระเจ้าบ่อยๆ และอธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้า เพราะงานพิธีเหล่านี้เรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องไปเข้าร่วม และในพิธีเราควรหลีกเลี่ยงที่จะยืนในจุดที่มีแรงกดดันทางสังคมมาก เช่น แถวหน้าของพิธีกรรม แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเข้าร่วมด้วยความสำรวม แต่ก็ไม่สามารถพนมยกมือในขณะที่มีพิธีกรรม หรือการบวงสรวงได้อยู่ดีนะครับ ในขณะเดียวกันการมีเพื่อนในความเชื่อเดียวกัน ก็จะช่วยให้เรายืนหยัดได้ดีขึ้น
“พวกข้าพระบาทจะไม่ปรนนิบัติพระของฝ่าพระบาท หรือนมัสการปฏิมากรทองคำซึ่งฝ่าพระบาทได้ทรงตั้งขึ้น” – (อ่านเพิ่มเติมใน ดาเนียล 3:16-18)
นอกจากการเข้าร่วมด้วยความสำรวม สงบนิ่ง ซึ่งเป็นการให้เกียรติอย่างสุภาพชน หลายคนก็อาจจะเลี่ยงการออกหน้าออกตาได้ด้วยการนั่งยืนอยู่หลังๆ หรือช่วยงานสนับสนุนแทน เช่น เสริฟ์น้ำ ทำครัว ถ่ายรูป จัดเก้าอี้ แต่งดอกไม้ แต่ถ้าเราเป็นคนสำคัญในงานนั้นต้องออกมาอยู่ข้างหน้า (เช่น เป็นนักแสดงนำ) บางครั้งก็วางตัวลำบากนิดนึง เพราะคริสเตียนไม่ได้มีป้ายแปะหน้าผาก หรือมีลักษณะการแต่งตัวที่ใส่แล้วรู้เลยว่าเราเป็นคริสเตียน ก็อาจจะต้องบอกเพื่อนบอกฝูง หรือเจ้าภาพไว้ก่อนว่า “เราเป็นคริสเตียนนะ” แล้วก็อยู่ในอาการสำรวม เพราะว่าถ้าเราไม่ทำเหมือนเขาบางทีมันก็จะเป็นจุดสนใจ เรื่องความเชื่อบอกกันได้ครับ
คนภายนอกหลายคนเค้าก็จะเข้าใจดี เพราะว่าในสังคมไทยก็เป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ถ้าเขามีเพื่อนฝูงที่เป็นคริสเตียน หรือเคยเรียนโรงเรียนคริสเตียนก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่บางคนเค้าก็ไม่รู้จริงๆ เพราะไม่รู้จักคริสเตียน หรือเพื่อนคริสเตียนของเขาอาจจะชิวๆ เนียนๆ อันนี้ก็ไม่ว่าไม่เคืองกัน ถ้ามีโอกาสบอกได้ก็บอก ถ้าบอกไม่ได้ก็ให้เวลาเยียวยาทุกสิ่ง สักวันเค้าก็คงได้รู้แหละ… สักวันคงได้พบกัน สักวันคงได้เจอ
ชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่มีผลกระทบ
ผู้คนมักจะพูดถึงเราไปต่าง ๆ นานา … แต่สำคัญกว่าว่า “พระเจ้าพูดถึงเรายังไง?”
ไม่เพียงแต่ดาราเท่านั้น ไม่ว่าเราแต่ละคนจะทำอาชีพอะไรและยืนอยู่ในจุดไหนในสังคม เราล้วนมีหน้าที่ในการเป็นแสงสว่างของพระเจ้าในที่ๆ เราอยู่ และนั่นอาจจะหมายถึงการต้องเจอกับคำต่อว่า ครหา นินทาจากผู้คนมากมายด้วย แต่ความรักที่มีต่อพระเจ้าจะส่องแสงได้มากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เหล่านั้น ในขณะที่ผู้เขียนกำลังเขียนบทความนี้ เพื่อนคนหนึ่งได้ส่งวีดีโอคำพยานของคุณปุ๊กลุกที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการได้เข้าวงการ และได้รู้จักพระเจ้าผ่านพี่ผู้จัดการของเธอ นั่นยิ่งทำให้เห็นความรักในพระเจ้าที่เป็นกำลังให้เธอมีจุดยืนในพระองค์ครับ ^^
ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ในรายการ Forward Hope ของ CBN Siam
พระเจ้าทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง
หลายคนลำบากใจว่าถ้าไม่ทำพิธีตามสูตร งานจะไม่ราบรื่นบ้างล่ะ จะเรียนไม่จบบ้างล่ะ อะไรเหล่านี้และรู้สึกกดดันเพราะว่าเป็นความเชื่อของคนกลุ่มใหญ่ในสังคม ยิ่งถ้าเราคลุกคลีอยู่กับแวดวงศิลปะและการแสดงเขาก็จะมีครูและเทพของเขา อย่างเช่นในพิธีบวงสรวง
ภาพพิธีบวงสรวงละคร เพื่อนแพง [ค่าย พอดีคำ] ปี 2016
จริงๆ คุณปุ๊กลุกเขาก็มีจุดยืนชัดเจนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ อย่างเช่นในงานบวงสรวงละคร เพื่อน-แพง ซึ่งออกอากาศทางช่อง 7 ของค่ายพอดีคำเมื่อปี 2016 เธอก็ใช้วิธีเข้าร่วมอย่างสำรวม อ่อนสุภาพ และละครเรื่องนี้เธอก็ยังแสดงออกมาได้ดีสมบทบาทมากจนคนดูน้ำตาไหลเป็นรอบๆ ในที่สุดเธอก็ได้รับการเสนอชื่อ ให้เข้าชิงรางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ด 2016 ซึ่งก็แน่นอนว่าเธอได้รับรางวัลนี้ และในตอนท้ายของการกล่าวขอบคุณเธอยังได้เปิดใจและพูดขอบคุณพระเจ้าอีกด้วย ซึ้งงงงงมากกกกก ^^
“นอกจากการที่เราทำอย่างสุดกำลังของเรา สิ่งที่ทำทุกๆ ฉากในละครเรื่องนี้คือ การอธิษฐาน…ขอฝากทุกๆ ฉากไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า”– (ปุ๊กลุก ในงานรับรางวัล Nine Entertain Awards 2016)
ชูใจขอชื่นชมเป็นเป็นกำลังใจในสปิริตของคุณปุ๊กลุกที่มีจุดยืนในความเชื่อ และขอเป็นกำลังใจให้ทำผลงานดีๆ ต่อไป เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงวางแต่ละคนไว้ในตำแหน่งและบทบาทที่แตกต่างกันเพื่อที่เราทุกคนจะสามารถเป็นแสงสว่างของพระคริสต์ในทุกตำแหน่งแห่งที่เราแต่ละคนยืนอยู่