"เรื่องแบบนี้ คนทั่วไปเค้าไม่ชวนทะเลาะกันหรอก"......จริงหรือ????
ยาวหน่อยนะครับ
ผมแต่งงานมา 4ปีมีลูก 1 คน ผมและแฟนเป็นเซลล์(Area Sales) ด้วยกันทั้งคู่เจอกันก็เพราะทำงานที่เดียวกันแผนกเดียวกัน ความรักราบรื่นดี จนปีใหม่ที่ผ่านมาผมเริ่มสังเกตุว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม เริ่มด้วยช่วงปีใหม่แฟนผม กังวลเรื่องประจำเดือนยังไม่มา ซึ่งปกติควรจะมาได้แล้ว ผมก็ปลอบไปว่าอย่าไปเครียดมากยิ่งเครียดยิ่งไม่มา แฟนกะบอกว่าอาการเหมือนท้องแรกคือคัดที่นมมาก เหมือนจะท้อง ( ประจำเดือนแฟนผมมาไม่ค่อยตรงวันในแต่ละเดือนแค่จะมีอาการบอกล่วงหน้าว่าประจำเดือนจะมาแล้วเท่านั้่น และ เวลามีไรกันผมจะปล่อยข้างนอกตลอด ซึ่งไม่น่าพลาด แต่ถึงพลาดกะไม่ได้ติดปัญหาเรื่องจะมีลูก ) หลังจากนั้นพอประจำเดือนมาดูแฟนผมโล่งใจมากอย่างบอกไม่ถูก และนั่นเป็นอย่างแรกที่ทำให้ผมเริ่มสังเกตุ
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1เดือน แฟนต้องมีเดินทางไปต่างจังหวัดเพื่อทำงาน ซึ่งปกติถ้าจังหวัดใกล้ๆ ก็จะขับรถไปเองหรือไม่ถ้าผมว่างก็จะให้ผมขับรถไปส่ง แต่รอบนี้บอกผมว่าครั้งนี้อาจต้องค้างคืน เพราะตอนเย็นต้องพาลูกค้าไปทานข้าวเย็น รุ่งขึ้นจะกลับตอนเย็นๆ พอดีมีเซลล์ที่ต้องดูแลลูกค้าจังหวัดนั้นจะไปหาลูกค้าอยู่แล้วเลยว่าจะขอติดรถไปกับเซลล์ โดยให้ผมไปส่งแค่เจอเซลล์คนนั้น หรือถ้าผมไม่อยากให้ค้างก็จะขอไม่กินข้าวกับลูกค้าและให้เซลล์ขับรถมาส่งที่คิวรถตู้เพื่อนั่งกลับกรุงเทพฯเอง ซึ่งแฟนผมให้ผมตัดสินใจว่าจะเลือกแบบไหน ซึ่งผมกะบอกไปว่าให้ดูแลลูกค้า พาลูกค้าไปกินข้าวก่อนเสร็จแล้วเดี๋ยวผมขับรถไปรับกลับเองจะได้ไม่ต้องค้าง แฟนเหมือนจะอิดออดนิดหน่อยแล้วบอกแค่ว่าถ้าผมไม่เหนื่อยก็โอเค แล้วเหมือนโชคอำนวยวันนั้นผมไม่ต้องไปทำงาน ผมเลยขับรถไปทำงานกับแฟนผม แต่ตอนเย็นไม่ได้พาลูกค้าไปทานข้าว เพราะแฟนบอกลูกค้าติดธุระด่วนพอดี
และล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแฟนผมจะต้องเดินทางไป สุราษฎร์ ซึ่งเธอได้บอกผมตั้งแต่วันที่กลับจากไปต่างจังหวัดด้วยกันเมื่อ เดือนที่แล้วโดยรอบนี้ก็คล้ายๆกับรอบที่แล้ว คือ ต้องไปงานบวช ลูกของลูกค้า (ของเซลล์คนเดิม) เซลล์ขับรถไป เลยจะนั่งไปเป็นเพื่อนกับเซลล์ด้วย แต่ต้องเดินทางล่วงหน้า 1 วันเพราะค่อนข้างไกลและเป็นงานเช้า และตอนเย็นจะนั่งเครื่องกลับเอง ผมเลยบอกเธอว่าถ้าให้นั่งรถไกลๆ ไม่อยากให้นั่งรถคนอื่น ผมเป็นห่วง ผมจะลางานขับพาไปเองจะดีกว่า
แต่พอใกล้ถึงวันที่แฟนต้องเดินทาง ผมลางานไม่ได้ เลยบอกเธอว่านั่งรถทัวร์ได้ไหม ตีตั๋ว Vip นอนไปเลยออกค่ำๆ ถึงที่สุราษฯ ตอนเช้าๆ แล้วค่อยให้เซลล์มารับพาไปงาน แฟนผมกะบอกว่าไม่อยากนั่งรถทัวร์คนเดียวกลัว เธออ้างว่าตอนเรียนเคยนั่งไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แล้วเจอพวกโรคจิต นั่งข้างๆเธอกลัว อีกอย่างถ้าไปถึงเช้าเธอจะไปอยู่ไหน ให้นั่งรอที่ บ.รถทัวร์คนเดียวหรือไง ซึ่งผมกะได้อธิบายว่า ช่วงที่ไปถึงจะมีรอบรถทัวร์ขึ้นมา กทม. ที่บริษัทรถทัวร์มีคนเยอะอยู่แล้วที่ สำคัญมีห้องให้รถอย่างดีด้วย เธอก็เหมือนจะเถียงต่อ ผมเลยบอกว่า งั้นผมซื้อตั๋วให้นั่งเครื่องไปเช้าวันงานเลย ตอนเย็นกะนั่งเครื่องกลับ แฟนผมกะยังอ้างเรื่องงานอีก ประมาณว่าถ้าไปกับเซลล์ก็เหมือนได้หยุด 2 วัน เหมือนได้พักผ่อนด้วย ตอนนั้่นผมเริ่มเอะใจละ ทำไมเหมือนมีปัญหาเยอะจังกับการที่ผมจะไม่ให้ไปกับเซลล์ ผมเลยพูดขึ้นว่าถ้าไม่นั่งรถทัวร์ ก็นั่งเครื่องไป หรือไม่ต้องไปเลย แฟนผมก็เลยเงียบ แล้วก็ไม่ได้คุยเรื่องนี้กันต่อ สรุป นั่งเครื่องไปกลับ ครับ
วันเกิดเหตุแห่งคำถามแล้วครับ วันเดินทางผมก็ไปส่งแฟนผมขึ้นเครื่อง แล้วบอกเธอว่าถึงแล้วเจอเซลล์ให้โทรบอกด้วยและถ่ายรูปงานมาให้ดูบ้าง ซึ่งแฟนผมก็ทำตามที่ผมบอกแต่ช่วงแรกคือช่วงที่เจอเซลล์เท่านั้น ซึ่งพอผ่านไปครึ่งวันผมก็ไลน์หาแฟนผมถามเรื่องทั่วๆไป ( คนเยอะไหม ฝนตกหรือป่าว กินอะไรไปบ้างอร่อยไหม บ้านงานกับสนามบินไกลกันมากไหม) จนถึง ประมาณ บ่าย 2 โมง ผมเห็นว่าแฟนผมยังไม่อ่านไลน์ที่ส่งไปตั้งแต่ตอนเที่ยงคิดว่าน่าจะยุ่ง และจะเตือนเรื่องเวลาที่ต้องเผื่อไว้มาสนามบิน ( มีไฟท์กลับตอน 1 ทุ่ม ) เลยไลน์ไปเตือน จนบ่าย 3 แฟนผมก็ยังไม่อ่านไลน์ผมเริ่มเป็นห่วงเลยโทรหา โทร 2 รอบ แต่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ผมเลยคิดจะกด facetime แต่ไปเห็นเฟสที่เด้งขึ้นมา เป็นรูปที่เธออัพในเฟส รวมทั้งเล่นเกมส์สอบถามต่างๆในเฟส ตลอด ระหว่างที่นั่งกดดูอยู่ประมาณ 1 นาทีแฟนผมกะโทรกลับมาบอกว่าเข้าห้องน้ำอยู่ ตอนนี้อยู่ในรถกำลังจะไปสนามบิน ซึ่งตอนนั้นผมเหมือนโดนตบหน้า โดนหลอก จากคนที่ผมไว้ใจมากๆ
ผมเลยถามแฟนผมว่า
ข้อแรก ในรถมีห้องน้ำรึไง ตอนที่ไม่รับสายบอกอยู่ห้องน้ำ ตอนนี้บอกอยู่ในรถ
ข้อสอง ไลน์หา ไม่อ่านไม่ตอบ แต่อัพเฟสได้ เล่นเกมส์ได้ จะบอกว่ายุ่งมาก มันใช่ มันจะให้เชื่อได้จริงๆหรือไง
ข้อสาม เราบอกให้ถ่ายรูปตอนถึงงานให้ดูหน่อย บอกเราไม่สะดวก แต่มีถ่ายรูปไปอัพเฟส อัพในไลน์อีกกลุ่มได้นี่คืออะไร
ข้อสี่ รูปในงานไม่มีเลยมีแต่รูป อาหาร กับที่เที่ยว มันคืออะไร
ข้อห้า ไอ้เหตุผลที่ว่า ต้องพาลูกค้ากินข้าว นั่งรถทัวร์ไม่ได้ นั่งเครื่องเดินทางต่อไม่สะดวก นี่เป็นข้ออ้างที่จะไปกับ เซลล์ใช่ ไหม
ข้อหก ไอ้ที่กังวลว่าประจำเดือนไม่มา นี่ต้องให้ถามต่อไหมว่าเพราะอะไร
แฟนผมได้แต่ฟังเงียบตอบแค่เพียง ว่าขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด มันไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด อีกอย่าง "เรื่องแบบนี้ คนทั่วไปเค้าไม่ชวนทะเลาะกันหรอก" แล้วจะมารับที่สนามบินไหม ผมพูดไม่ออกเลย ได้แต่กดวางสาย
สรุปเลย ครับ คือ คนทั่วไปเค้าไม่โกรธกัน ไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้จริงๆหรือครับ หรือว่าโลกมันเปลี่ยนไปจนผมตามไม่ทัน
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบ-คำแนะนำ และที่นั่นอ่านจนจบนะครับ