ไปดูมาแล้ว!! The Great Wall และ LaLaLand (รีวิวหนังสำหรับคนหาหนังดูวันหยุด) [ไม่สปอยส์]

เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสตีตั๋วดูหนัง 2 เรื่องด้วยกัน
เป็นหนังที่เพิ่งประเดิมเข้าโรงทั้งคู่ เรื่องนึงเข้าฉายเลยแบบปกติ(The Great Wall) ส่วนอีกเรื่อง ฉายรอบพิเศษหลังสองทุ่ม เพราะรอบจริงต้องรอถึง 12 มกรา (LaLaLand) แต่อดใจไม่ไหว จากที่เห็นกระแสชื่นชมในรอบสื่อ เลยต้องรีบไปดูก่อนโดนสปอยส์ ผลปรากฏว่าความรู้สึกหลังชมหนังของผมเป็นดังนี้
_____________________________________________________
The Great Wall
ข้อดี
- เป็นหนังฟอร์มใหญ่ อลังการ เซ็ตฉากกำแพงเมืองจีนดูตระการตา แม้ว่าหลายอย่างอาจดูเป็นซีจี แต่ก็ยังทำได้อลังการงานสร้างอยู่ดี
- นี่ไม่ใช่หนังประวัติศาสตร์ แต่เป็นหนังแฟนตาซีล้วนๆ เราจะได้เห็นอสุรกายปีศาจที่น่ากลัวราวๆกับซอมบี้ในWorld War Z มาบุกและฝ่าทลายกำแพงเมืองจีน ซึ่งในพาร์ทของแอ๊คชั่นช่วงหลัง ถือว่าทำได้สนุก บันเทิง ยิ่งใหญ่ไม่แพ้หนังแบบ ID4 เลยทีเดียว
- วิชวลมุมมองของจางอี้โหมวที่หยอดไว้ในหนัง ยังทำได้ดีพอตัว สามารถเพลิดเพลินไปกับมุมมองสุดล้ำของผู้กำกับรุ่นใหญ่ได้
- นางเอกในเรื่องสายตาดูมีพลังและทรงเสน่ห์มาก
- เผื่อใครยังไม่ทราบ เรื่องนี้เป็นหนังฟอร์มใหญ่เรื่องแรกที่ออกทุนสร้างโดยฮอลลีวู้ด ค่ายยูนิเวอร์แซล แต่เป็นฝีมือการกำกับของผู้กำกับมากฝีมือจากจีนแผ่นดินใหญ่อย่าง จางอี้ โหมว ผู้เคยฝากผลงานไว้มากมายบนจอรวมถึงได้เคยกำกับพิธีโอลิมปิกที่จีนเมื่อปี 2008 ด้วย
ข้อเสีย
- ปัญหาของหนังคือเราดูแล้วไม่เชื่อเลย กับความสัมพันธ์ของทุกตัวละคร ยังค่อนข้างขาดมิติพอสมควร จากบทหนังที่เบาโหวง จนมีพี่ท่านนึงไปตั้งกระทู้นำร่องแล้วว่า นี่คือหนัง “โปรดักชั่นเกรดเอ พล๊อตเรื่องเกรดบี” ซึ่งผมก็ว่าจริง เห็นด้วยกับพี่ท่านนั้นมากๆ
- การดำเนินเรื่องยังไม่สมู้ธนัก มีจังหวะที่หนังดูยืดและเรื่องเดินช้าเกินไป จนผมแอบหลับไปวูบนึงเลยทีเดียว
- การเอาดาราฝรั่งอย่างแมท เดมอนต์ รวมถึงคนอื่นๆมาเข้าในฉากจีนจ๋าแบบนี้ ดูยังไงก็ขัดตา รวมถึงสีสันในเรื่อง จริงๆไม่ใช่ว่ามู้ดโทนหนังจัดไม่ดี แต่ด้วยบริบทแบบนี้ มันทำให้ยิ่งดรอปความน่าเชื่อลงไปอีก มันเลยเหมือนกับหนังพยายามผลักดันให้เกิดเหตุการณ์จังหวะอะไรต่างๆแบบนี้ขึ้น (แต่เรายังดูแล้วไม่ขัดสายตาเท่าเรื่อง Passengers ที่บทโคตรจะพยายามยัดเยียดคนดูเลย แต่หนังก็บันเทิงใช้ได้อยู่)
ดังนั้นก็เลยให้เกรดเดียวกับ Passengers ละกันนะครับสำหรับ The Great War นั่นคือ C+
หรือประมาณ 7/10 นะฮะ 
****หมายเหตุสำหรับใครที่อยากดู ก็แนะนำให้ไปดูเพื่อความบันเทิง เพลิดเพลิน ก็น่าจะสนุกกับมันได้ไม่ยาก
ถ้าชอบฉากจีนๆหน่อย ภาพอลังๆ สู้กันมันส์ๆ(ช่วงท้าย) ก็ลองไปจัดกันดูได้ครับ ถ้าดูImaxก็จะยิ่งได้อารมณ์นะ
_____________________________________________________
ผมดูเรื่องแรกตอนสองทุ่ม เสร็จสี่ทุ่มกว่าๆ ยังรู้สึกไม่หนำใจ ก็เลยตีตั๋วดูหนังอีกเรื่องซะเลย
นั่นคือหนังที่คนเขากล่าวขานมากมาย บ้างก็ว่าจะไปถึงออสการ์บ้าง บ้างก็อวยกันชนิดไม่ลืมหูลืมตา
และพอผมเข้าไปดู เมื่อเวลา 22.45 น. จนถึงตีหนึ่งกว่าๆ
เชื่อไหมครับ
ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากจบ
ผมรู้สึกว่าหนังมันพาเราไปถึงจุดหมายชนิดที่ว่า
ไม่มีซีนไหนที่จะละสายตาออกจากหนังได้เลย
และที่สำคัญ หนังมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนมนต์สะกด เหมือนโดนพี้ยาเลยทีเดียว
เพราะออกมาจากโรง เรารู้สึกว่าหนังมันจี๊ดใจ รู้สึกได้ถึงพลังจากหนังที่หลั่งไหลเข้ามาในตัวได้อย่างมหาศาล
ผมไม่พูดถึงข้อดีข้อเสียแล้วกัน
เพราะคงหาข้อเสียไม่เจอ ส่วนข้อดี ผมขอแชร์เป็น “ความรู้สึก” จากการชมแทนนะครับ
_____________________________________________________
ความรู้สึกจากการดูหนังLaLaLand รวมถึงเกร็ดหนังเล็กน้อย
- นี่คือหนัง Musical ที่ชวนนึกถึงหนังเพลงระดับคลาสลิคหลายเรื่อง และเป็นหนังเพลงที่โดนใจผมมากที่สุดอีกเรื่องในรอบหลายๆปี
- ผู้กำกับบอกว่า เรื่องที่แล้วอย่าง Whiplash เขาเอาด้านมืดของวงการเพลงมาตีแผ่ จนซิวไป 3 ออสการ์ แต่สำหรับเรื่องนี้ เขาตั้งโจทย์ว่า อยากเอาความสนุกของคำว่าดนตรี มาตีแผ่ในรูปแบบของหนังบ้าง
- ผู้กำกับอยากเล่าเรื่องนี้มานานมาก จริงๆแล้วคิดไว้ตั้งแต่ก่อนทำหนังเรื่องแรกเสียอีก แต่ว่ายังไม่มีสตูดิโอไหนให้ทำ จนกระทั่งหนังเรื่อง Whiplash ของผู้กำกับคนนี้ไปคว้าออสการ์ได้ เลยได้รับไฟเขียวให้ทำโปรเจคในฝันนี้
- หนังพูดถึงตัวละครที่มาตามหาความฝันและได้พบรักกัน ระหว่างทางที่เดินทางไปตามหาดวงดาว ทว่าเมื่อเรายิ่งเดินไป ดาวที่เราทั้งสองจะเข้าไปไขว่คว้า มันยังเป็นดาวดวงเดียวกันหรือเปล่า เรายังคงไปในเส้นทางที่วาดฝันไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ หรือว่า ความฝันของเราได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา? ผมว่าคำถามเหล่านี้ที่ประดังเข้ามาในตัวละคร ถือว่าเป็นการตั้งโจทย์ที่น่าสนใจมาก ที่จพทำให้สองตัวละครถูกพัฒนาไปตั้งแต่ต้นจนจบ และเรียนรู้กับคำว่า ความฝัน ความรัก รวมถึง Passion ในชีวิตอย่างแท้จริง
- ด้วยเหตุนี้ ผู้กำกับจึงเลือกนำเสนอด้วยการเอามาทำเป็นหนังเพลง ที่สามารถส่งอวัจนภาษาอย่างการแสดงท่าทาง การเต้น รวมถึงมีการร้องเพลงขับขานไปด้วยในระหว่างทาง พร้อมๆกับเล่าเรื่องให้รู้สึกล่องลอยไปกับมันแบบ Surreal และทำได้ถึงใจคนดูเอามากๆด้วย 
- โชคดีว่านอกจากผู้กำกับเก่ง บทดี และเพลงเพราะแล้ว หนังยังได้นักแสดงมากฝีมือสองคนอย่าง ไรอัน กอสลิ่ง และ เอ็มม่า สโตน ซึ่งเมื่อทั้งสองมาอยู่ในจอ ผมรู้สึกว่าเคมีของคู่นี้เข้ากันได้ดีจนทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ และทุกซีนที่มาเข้าฉากด้วยกัน มันรู้สึกเหมือนมีมนต์สะกดและเปี่ยมด้วยพลัง Energy มากมายอย่างบอกไม่ถูก และในซีนเดี่ยวๆของแต่ละคน ก็ถือว่าแสดงออกมาได้ดีมากไม่แพ้กัน จนเรารู้สึกเลยว่า พระนางเรื่องนี้โคตรมีเสน่ห์เลยจริงๆ ตัวพระเอกก็โคตรเท่ ตัวนางเอกก็น่ารัก โดยที่บริบทของหนังก็ได้จัดวางให้ทั้งสองตัวละครนี้ ดึงนำคุณสมบัติที่ตัวเองมี ถ่ายทอดผ่านงานแสดงที่สุดแสนจะลงตัว (คือเขียนจนรู้สึกเองเลยว่าอวยมากๆ หน้าม้าสุดๆ แต่อยากให้ทุกคนไปพิสูจน์ด้วยตัวเองจริงๆนะ) 
- นี่ไม่ใช่หนังมิวสิคัลธรรมดา เพราะนอกจากทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว มันยังได้สอดแทรกวัฒนธรรมความเป็นGenrerationเก่าที่กำลังจะดับสูญอย่าง เพลงแจ๊ส หรือรสนิยมต่างๆที่ซ๋อนอยู่ในเรื่อง กับ Generationใหม่ ที่เอาสองพระนางสุดฮอตในยุคนี้มาเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงตัวหนังเองก็ยังมีการตั้งคำถามด้วยว่า “ถ้าเราทำสิ่งที่เรารัก โดยไม่ปรับตัวไปตามความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ไม่เปลี่ยนตัวเราเองไปตามความชอบของคนดู เราจะยังยืนอยู่และเรียกตัวเองว่าศิลปินที่ประสบความสำเร็จได้อยู่หรือไม่ หรือถ้าเราเลือกที่จะเปลี่ยนแปลง แล้วไอสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันยังถือว่าเป็นการทำตามความฝันของตัวเองอยู่หรือเปล่า?” นี่คือหนังที่มาแบบลูกกวาด แต่ลึกล้ำไปด้วยประเด็นคมคาย จนดูถึงตอนจบ ก็จี๊ดจนคนในโรงพร้อมใจกันปรบมืออย่างไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใคร
- ผมคิดว่านี่คือหนังอีกหนึ่งเรื่องที่คุณภาพดีที่สุดในปี 2016 และควรค่าแก่การชมในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผมยังวาดฝันให้หนังเรื่อง ได้ไปถึงเวทีออสการ์ในแบบที่หลายคนส่งแรงใจเชียร์ และลึกๆผมก็หวังว่ามันจะได้ใจกรรมการจริงๆ
- ไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังที่ถูกกำกับโดยผู้กำกับอายุน้อยเพียงแค่ 31 ปีเท่านั้น “ดาเมี่ยน ซาเซลล์” คือดวงดวงใหม่ของฮอลลีวู้ด ที่จะเป็นผู้กำกับเซเลปและไอดอลของใครหลายคน ในแบบที่ “คริสโตเฟอร์ โนแลนด์” เคยทำไว้จนมีสาวกมากมายได้แน่นอน
**** หมายเหตุ สำหรับคนที่ชั่งใจว่าจะไปดูดีไหม? รีบไปดูเถอะครับ ถ้ารอไม่ไหวก็จัดรอบพิเศษไปเลย เหมาะกับช่วงปีใหม่นี้มากๆ ยิ่งถ้าใครชอบหนังเพลงนะ ยิ่งพลาดไม่ได้เลยจริงๆ
สำหรับผม ยกให้เรื่อง LaLaLand เอาไป 10 / 10 เกรด A+++++++++
______________________________________________________________________________
ใครไม่อยากอ่านก็ฟังเอานะ
รีวิวหนัง The Great Wall และ Lalaland ครับ
สามารถกดติดตามรับข้อมูลเรื่องหนังและอื่นๆได้ที่ Subscribe ที่ช่อง : NapatSL นะครับ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
ทหารเขมรใช้สไนเปอร์ลอบยิง "ผบ.ทร." รอดหวุดหวิด กระสุนพลาดถูกรถยนต์
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไป
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
เด็กพลัดตกท่อลึก ผ่านไปเป็นชม. กว่าจะมีคนมาช่วย
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
Wall push up ท่าวิดพื้นกำแพง ตัวช่วยในการออกกำลังกายง่าย ๆ
สมอง สามารถทำนายอนาคตได้
ดร.เขมร หาว่าไทยจะบุกลาวกับเมียนมาเป็นรายต่อไป
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
"เบียร์ เดอะวอยซ์" แหวกอกใส่ชุดหนัง แต่พอหันหลังทำเอาหนุ่มๆ ตาโต
เปิดความลับ “เจสซี่” นางเอกหนังผู้ใหญ่ดาวรุ่ง ผู้ศัลยกรรม ‘สองลิ้น’ สร้างเสน่ห์สุดแปลกตา
เปิดวาร์ป "คินโจ ซาโอริ" แม่บ้าน F-Cup ที่มีหน้าตาคล้ายดารา สวยจนถูกสงสัยว่าเป็น "คนหรือ AI กันแน่
นางแบบลูกครึ่งหน้าใหม่ ผันตัวไปเป็นนางเอก A\/..งานนี้เทียบชั้นระดับตำนาน