วิญญาณพลัดร่าง ตอน2
ตอนที่1 >> https://board.postjung.com/1005913.html
วันต่อมาผมไปเยี่ยมน้า ตัวน้าเหลืองซีดไปทั้งลำตัว ผอมเหลือแต่กระดูก
แต่ส่วนหัวของน้า บริเวณใบหน้าบวมช้ำไปทั้งหน้า ตรงแก้มเป็นสีม่วงช้ำ ตาของน้าแดง
ผมเห็นแล้วตกใจมาก ลูกของน้าบอกว่า คงเป็นเพราะผลที่ตกเตียงแล้วหน้าไปกระแทกพิ้น แต่ก็ไม่เห็นแม่บ่นว่าเจ็บอะไร
ผมวาดรูปใบหน้าผู้หญิงคนที่เห็นในนิมิตให้น้าดู ถามว่ารู้จักคนคนนี้ไหม
น้าเห็นแล้วก็มีน้ำตาไหลออกมา พยายามพยักหน้า แต่น้าขยับไม่ค่อยได้ พูดเสียงค่อยมาก แทบจะอ้าปากไม่ได้เลย
ผมพยายามตั้งใจฟัง พอจับใจความได้ว่า อี่ลัย อี่ลัย
ตอนนั้นในห้อง มีผม มีลูกน้าสองคนและสามีน้า ทุกคน งง กับสิ่งที่ผมทำและ คำพูดของน้า ที่มองรูปแล้วพูดชื่อนี้ขึ้นมา
ทุกคนนึกไม่ออกว่า คนชื่อลัยนี่คือใคร
แล้วลูกน้าก็โทรไปถามน้าผมอีกคน ว่ารู้จักคนชื่อลัยไหม
ตอนแรกน้าผมอีกคนบอกว่าคุ้นๆแต่นึกไม่ออก สักพักได้ยินเขาคุยกับญาติๆ ไปมา
แล้วก็กลับมาคุยในโทรศัพท์อีกทีว่า อ๋อ อี่ลัยใช่ไหม
น้าอีกคนเล่าให้ฟังว่า อี่ลัยมันชื่อวิลัย เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันตั้งแต่เล็กๆ
อี่ลัยมันมาเล่นกับน้าเองบ่อยๆจนคุ้นเคยกับคนในบ้าน แล้วน้าก็เล่าเรื่องวิลัยต่อพอจับใจความได้ดังนี้ครับ
ตอน ป.4 เพื่อนๆสามสี่คนชวนกันไปเล่นในป่า แล้วพากันเอาไม้กระดานขึ้นไปปูทำเป็นนั่งร้านพาดไปกับกิ่งไม้
พุ้มไม้บังแดด จนทำให้ดูเป็นห้องเล็กๆ ดูเหมือนบ้านบนต้นไม้ ขณะที่นั่งเล่นกันอยู่
อยู่ๆ วิลัยก็ไปนั่งตรงขอบไม้กระดานแผ่นหนึ่ง มันไม่มีตระปูยึด ทำให้ ไม้กระดานกระดกหงายขึ้น
ร่างของวิลัยร่วงหลนลงจากต้นไม้ หน้ากระแทกเข้ากับขอนไม้อย่างแรง สลบฟุบไป
เพื่อนๆเห็น ก็รีบปีนต้นไม้ลงไปดู พอพลิกร่างของวิลัยขึ้นมาดู ปรากกฏว่า
ฟันหน้าของวิลัย บานเหยินออกมา เลือดออกกลบปาก จมูกยุบลงไป
เพื่อนๆตอนนั้นเห็นแล้วก็วิ่งหนีกันหมดเพราะกลัว
ส่วนน้าผมตอนนั้นก็วิ่งไปบอกกับผู้ใหญ่แถวนั้นให้มาช่วย
แต่ปรากกฏว่า ช่วยไม่ทัน วิลัยก็ขาดใจตายเสียก่อนแล้ว
น้าคนที่เล่าก็ถามว่า ทำไมอยู่ๆถึงถามเรื่องอี่ลัยขึ้นมา
ผมก็บอกว่าพอดีเห็นน้าแกเพ้อ เรียกชื่อนี้ขึ้นมา ก็เลยถามดูว่ามีใครรู้จักไหม
น้าคนที่เล่าก็พูดว่า เออ ตั้งแต่อี่ลัยมันตายก็ไม่เคยมีใครไปเยี่ยมทางบ้านของมันเลย
บ้านของอี่ลัยมันจนมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นยังกันบ้าง สงสัยน้าเองจะคิดถึงอี่ลัยมันอะมั่ง เล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ
ผมฟังเรื่องราวของคนชื่อวิลัยแล้ว ก็คิดในใจว่า มันน่าจะมีอะไรบ้างอย่างที่คนอื่นไม่รู้ ระหว่างตอนที่วิลัยกำลังจะตาย
ไม่งั้นวิญญาณคงไม่ตามมาติดตัวน้าผมแบบนี้
คืนนั้นผมนั่งสมาธิอีก แต่ไม่เห็นนิมิตอย่างที่ตั้งใจ ผมเลยจำลองเหตุการณ์เหมือนวันที่ผมเห็นวันแรก
โดยการจุดเทียนล้อมรอบตัวไว้เหมือนเดิม ปรากฏว่าคราวนี้ได้ผล
ผมนึกถึงหน้าคนชื่อวิลัยแล้วก็ เรียกชื่อ วิลัย วิลัยในใจไปเรื่อยๆจนกระทั้ง เห็นภาพขึ้นมา
ภาพเด็กหลายคนเล่นอยู่บนต้นไม้ แล้วก็เห็นภาพวิลัยตกจากต้นไม้ เห็นน้าวิ่งเข้าไปช่วย ร่างของวิลัยชักตาเหลือก
น้าผมจับมือวิลัยไว้แน่น พูดอะไรบางอย่างกับวิลัย ในนิมิตไม่ได้ยินเสียงน้า
แต่ดูจากปากเหมือนจะพูดว่า อย่าตายนะ กูจะไปตามคนมาช่วย
แล้วน้าผมก็ลุกขึ้นวิ่งไปตามคนมาช่วย วิ่งไปได้ สิบก้าว น้าผมหันมามองวิลัย
วิลัยเหมือนรู้สึกตัว ชูแขนกวักมือเรียกน้าผมให้กลับมา น้าผมยืนมองอยู่จนกระทั้ง วิลัยสลบไป
แล้วน้าก็รีบวิ่งไปตามคนมาช่วย ขณะที่ร่างวิลัยถูทิ้งไว้กลางป่าคนเดียว ร่างของวิลัยชักกระตุกไปมา
อยู่ๆวิลัยก็กรี๊ดออกมาด้วยความเจ็บปวด
ตระโกนออกมาเสียงดังว่า อย่าทิ้งกู จนกระทั้งขาดใจตาย
ต่อมา ชาวบ้านพากันมาช่วย มามุงดูศพของวิลัยกัน ผมมองเห็นมีควันสีขาวหลุดออกมาจากศพวิลัย
แล้วลอยไปมา ในบริเวณนั้น มีเงาสีดำโปรงแสง อยู่เต็มบริเวณนั้น พอๆกับคนที่มามุงดู
แต่แล้วผมก็เห็นควันสีขาวที่ออกมาจากร่างวิลัย หายวับเข้าไปในร่างน้าผม
ตั้งแต่ตอนนั้น น้าก็กลายเป็นคนขี้โรค ป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กเป็นต้นมาจนกระทั้งถึงตอนนี้
ขณะกำลังเห็นนิมิตอยู่นั้น อยู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนมีลมแรงปะทะเข้าที่ใบหน้า ผมพยายามลืมตา แต่ลืมตาไม่ขึ้น
ตัวผมเย็นเฉียบ ความรู้สึกเหมือน ตัวหนาวๆเหมือนตอนที่แช่ตัวลงไปในน้ำที่บ้านพ่อหมอ
แล้วอยู่ๆก็รู้สึกมีมือมากดไหล่สองข้างผมไว้
ผมขยับตัวไม่ได้ ผมพยายามรวบรวมสติ ทำสมาธิใหม่ แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งที่ผมเห็น ตรงหน้า เห็นเงาสีดำเหมือนร่างคน
ยืนลายล้อมอยู่นอกวงเทียนเต็มไปหมด ผมตกใจมาก รีบลุกขึ้นยืน มองไปรอบๆ ผมยังตั้งสติถามตัวเองว่านี่ไม่ใช่ฝันใช่ไหม
พยายามเพ้งไปที่เงาดำเหล่านั้น ว่าเป็นคนหรืออะไรกันแน่ ผมมองเห็นชัดมาก มันเป็นเงาดำโปรงแสงจริงๆ
เหมือนมันพยายามจะเข้ามาในวงเทียนของผม แต่เข้ามาไม่ได้
อยู่ๆผมก็พูดออกมาเองว่า ออกไป ไม่นานเงาดำเหล่านั้นก็หายวับไป
ผมค่อยๆ ก้าวเท้าออกมาจากวงเทียน รีบวิ่งไปเปิดไฟในห้อง คืนนั้นไม่กล้านอนเลย เปิดไฟไว้ทั้งคืน
เช้าวันต่อมา มีคนมายืนคุยกันอยู่หน้าบ้าน สองสามคน ผมออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
พอออกมาเจอคนกลุ่มนั้น เขาก็รีบแยกย้ายกันไป
ผมเลยนึกว่า เขาคงแค่บังเอิญผ่านมาเจอกันเลยแวะคุยกันตรงหน้าบ้านผมพอดีอะมั่ง
หลังจากแต่งตัวเสร็จจะออกไปทำงาน เดินออกมาหน้าบ้าน ยายแก่ๆข้างบ้านก็มาถามผมว่า เมื่อคืนที่บ้านมีเรื่องอะไรกัน
ได้ยินเสียงคนร้องโหยหวนดังมาก นึกว่าทะเลาะกัน
ผมงงเลย เมื่อคืนบ้านก็เงียบดีนะ ไม่มีใครร้องโหยหวนอะไร
ผมก็ตอบไปว่า ไม่มีนะครับยาย เป็นเสียงจากบ้านอื่นหรือเปล่า
ยายแกทำหน้า งง ๆแล้วก็พูดว่า หลายๆคนก็ได้ยิน เขามาเล่าให้ฟังเมื่อเช้า ว่าได้ยินเสียงร้องโหยหวนทั้งคืนเลย
ผมนี่ ขนลุกไปทั้งตัวเลย ไม่กล้าพูดอะไรต่อ แต่คิดในใจว่าไม่กล้านอนคนเดียวแน่คืนนี้
ถึงที่ทำงาน ช่วงสายๆ มี ลุงที่เป็น รปภ เอาจดหมายที่เขามาส่งที่หน้าอ๊อฟฟิตขึ้นมาให้ฝ่ายธุระการข้างบน
ลุงแกเป็นคนอัธยาศัยดี เจอใครก็ทักทายกันไปทั่วบริษัท ลุงหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ทักทายเหมือนเคย
มีช่วงที่ลุงแกหันหลังจะกลับลงไปชั้นล่าง ผมมองเห็นที่ท้ายทอยลุงมีเลือดเต็มไปหมด เลอะลงมาที่คอเสื้อ
มีเศษเนื้อเป็นชิ้นๆ ติดอยุ่ตามผมของลุง
ผมตกใจมาก รีบทักลุงไปว่าลุงๆทำไมมีเลือดที่หัวลุง ลุงหันมาหาผมเอามือลูปไปที่หัว เอามือมาดู
ปรากฏว่าไม่เห็นมีอะไร ลุงแกก็ขำแล้วก็ว่าผมอำแก
ผมงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เห็น
มันทำให้ผมรู้สึกจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะพูดจะบอกใครก็ไม่ได้
และอีกวันต่อมา ผมไปถึงที่ทำงานในตอนเช้า เจอพนักงานยืนจับกลุ่มคุยอะไรกันอยู่ ผมเข้าไปสอบถามว่าเป็นอะไรกัน
มีป้าแม่บ้านรีบมารายงานข่าวทันทีว่า เมื่อคืนมีโขมยเข้ามางัดที่ทำงานแล้วลุง รปภ ก็มาเจอ
เกิดต่อสู้กัน ลุงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ป้าแม่บ้านเล่าว่า ศพลุงโดนตีหัวจนเละ แผลเหวอะหวะ นอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบริษัท
ตอนนั้นนี่ผมนึกถึงภาพเมื่อวานที่เห็นเลือดอยู่ที่ท้ายทอยลุงเลย แล้วก็นึกในใจว่ามันเรื่องจริง มันไม่ใช่แค่ตาฝาด
ทำให้ผมยิ่งเริ่มสงสัยกับเหตุการณ์ประหลาดประหลาดเหล่านี้
ที่สุดวันนั้นผมไม่เป็นอันทำงาน ผมพยายามติดต่อไปหาคนที่เขาแนะนำให้ผมไปหาพ่อหมอ
จนช่วงเย็นๆผมติดต่อเขาได้ บอกเขาว่าผมไปหาหมอที่แนะนำมาแล้ว
แล้วผมก็ถามเขาว่า ญาติเขาที่ไปรักษาตัวกับพ่อหมอ ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่ไหม
คนรู้จักคนนั้นตอบผมว่าเป็นญาติห่างๆเขาไม่ค่อยได้ติดต่อนานแล้ว ไม่ทราบข่าวทางโน้นเหมือนกัน
เดี๋ยวเขาจะพยายามหาเบอร์ติดต่อญาติเขามาให้ผม
หลังจากนั้นผมก็เลยลองพยายามติดต่อไปที่ไกด์คนนั้นอีกครั้ง คราวนี้เขารับสาย แต่มีเวลาคุยไม่นานเพราะว่ากำลังจะไปทำธุระ
ผมรีบเล่าเรื่องทุกอย่าง อย่างกระชับที่สุด ถามเขาว่า ผมมีเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ ผมกลับมาจากมาเล
ไม่รุ้ว่ามันเป็นเพราะการไปทำพิธีอะไรนั่นหรือเปล่า
ไกด์ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาจะพยายามติดต่อไปที่พ่อหมอ แล้วจะถามให้
คืนนั้นกลางดึกไกด์โทรมาหาผม เขาบอกว่า ผมต้องกลับไปทำการถอนพิธีกรรมให้เสร็จ
เพราะผมทำพิธีกรรมไปแล้วครึ่งทางแล้วมันยังไม่จบ อาจจะมีผลอะไรบ้างอย่าง ซึ่งทางพ่อหมอเองก็ตอบไม่ได้
ถ้าจะให้ดีต้องไปให้เขาทำพิธีให้จบ
หลังจากวางสาย ผมเองคิดหนักเลย จะเอาไงดี ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า น้าผมป่วยเพราะอะไร และตัวผมเองโดนพิธีกรรมประหลาดเล่นงานชีวิตผม
ผมรู้เหตุปัจจัย แต่ผมไม่รู้ว่าจะรักษาน้าให้หายยังไง และตัวผมเองจะทำยังไงให้หายจากมโนจิต ที่เป็นอยู่
วันต่อมา ช่วงหัวค่ำ ขณะที่ผมพักผ่อนอยู่ในบ้าน
มีญาติคนหนึ่งโทรมาหาผม เขาบอกว่ามาเยี่ยมน้าผมแล้วก็เลยแวะเอาของฝากมาฝากผมด้วย
แต่พอดีเห็นคนเต็มบ้านผม ญาติผมก็เลยไม่กล้าเข้ามา นึกว่าจัดงานอะไรกัน เกรงใจ เลยเอาของฝากห้อยไว้ที่ประตูหน้าบ้าน
ผมตกใจมาก เฮ้ย เราอยู่คนเดียวไม่มีใครนี่นา ผมรีบถามกลับไปทันทีว่า จริงหรือ เห็นคนเต็มบ้านจริงๆหรือ
ญาติผมคนนั้นก็บอกว่า จริงซิ ใครจะมาล้อเล่นหละ
ผมนี่เสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันทีเลย อยู่ๆก็รู้สึกว่า เหมือนมีคนมองเราอยุ่ตลอดเวลาทันที
หลังจากวางสายไป ผมรีบเก็บข้าวของ จัดกระเป๋าเสื้อผ้า รีบขับรถไปอยู่บ้านน้าคนที่ป่วยทันที
พอถึงบ้านน้า ลูกๆน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมมาหากลางดึก ปกติมาเยี่ยมน้า เสาร์อาทิตย์ก็ค้างคืนด้วยอยู่แล้ว
แต่คราวนี้ทุกคนคงแปลกใจว่า ยังไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ไหงมาค้างที่บ้าน แล้วจะไม่ไปทำงานสายหรือ
ผมบอกทุกคนว่า ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งไปสายได้ ก็เลยมานอนเป็นเพื่อนน้า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยกัน
และก็เหมือนดังตาเห็น อยู่บ้านน้าไม่กี่ชั่วโมง น้ามีอาการหายใจติดขัด อาการทรุดหนัก จนที่สุดต้องพาน้าไปโรงพยาบาล
ที่โรงพยาบาลน้าผมนอนหายใจระทวยไม่รู้สึกตัว หมอให้ออกซิเจน และเครื่องปั้มการหายใจอัตโนมัติ มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด
ผมรู้ดีว่าวิญญาณวิลัย ไม่ปล่อยน้าผมแน่ๆ ยังไงน้าก็คงไม่รอด เลยไม่อยากยื้อน้าไว้ให้ทรมาน
ผมบอกให้ลูกน้าถอดปลั๊กออกเพราะน้าคงไม่รู้สึกตัวแล้ว ที่หายใจได้เพราะเครื่องช่วย รั้งไว้ก็ทรมานแม่เองเปล่าๆ
แต่ลูกน้าขอตัดสินใจกับทางครอบครัวเขาก่อน
คืนนั้นที่พักที่โรงพยาบาลคับแคบ ผมจึงขอตัวออกมานอนที่รถ ไม่นานผมก็งีบหลับไป แล้วก็ฝัน
ฝันเห็นน้าวิลัย เขามาบอกผมว่าเขาไม่ยอมให้น้าผมตาย เพราะเขาอยู่ดีกินดีกับน้าผม
น้าผมอิ่มเขาก็อิ่ม น้าผมได้บุญเขาก็ได้บุญด้วย เขาไม่ยอมให้น้าตายเด็จขาด
แล้วก็ตระคอกใส่ผมว่าอย่ามายุ่งเรื่องของกู
วิญญาณวิลัยพูดกับผมว่า ถ้ามันไม่มีกู มันก็ตายไปแล้วตั้งแต่เด็ก เพราะมันกับกูดวงถึงฆาตพร้อมกัน
พูดถึงตรงนี้ ผมนึกถึงเวลาที่ลูกๆน้าเอาดวงน้าไปให้หมอดู ดูดวงให้
หมอดูหลายๆคนมักจะบอกว่า มองไม่เห็นดวงน้าเลย เหมือนไม่มีตัวตนในโลกนี้แล้ว
อ้อผมพึ่งเข้าใจวันนี้นี่เอง ว่าจริงๆแล้วดวงน้าผมตายไปตั้งแต่เด็กแล้ว
ผมเริ่มสับสน ตกลงใครกันแน่ที่อยากให้น้าผมตาย
ผมสะดุ้งตื่น รีบขับรถกลับมาที่บ้าน ทางเดียวที่ผมจะรู้ได้ว่าคำตอบคืออะไร ผมต้องเข้าไปในนิมิตอีกครั้ง