หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วัดประจำรัชกาลที่ 1 -9 แห่งราชวงศ์จักรี

โพสท์โดย Sushigaga

ดประจำรัชกาลที่ 1 -9 แห่งราชวงศ์จักรี


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๑
วัดอรุณราชวราราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๒

วัดราชโอรสาราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๓ วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๔

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๕, รัชกาลที่ ๗ วัดบวรนิเวศวิหาร


วัดประจำรัชกาลที่ ๖

วัดสุทัศนเทพวราราม
วัดประจำรัชกาลที่ ๘ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
วัดประจำรัชกาลที่ ๙

ประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติมาช้านาน โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนในการประกอบพิธีการทางศาสนา รวมถึงเป็นที่จำวัดของพระภิกษุ สามเณร การสร้างวัดถือเป็นศรัทธาของพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะการสร้างวัดของพระมหากษัตริย์เพื่อแสดงว่าทรงเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งธรรม......
โดยมักจะแสดงออกเป็น ๓ ลักษณะ คือ อุปถัมภ์ศาสนธรรม เช่นสังคายนาพระไตรปิฎก อุปถัมภ์ศาสนบุคคลโดยการให้การบำรุงพระภิกษุสามเณร และอุปถัมภ์ศาสนวัตถุโดยการสร้างบูรณะปฏิสังขรณ์วัด สำหรับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีไทย ได้มีการสร้างวัดประจำพระองค์ขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ เป็นต้นมา โดย

วัดประจำรัชกาลที่ ๑ คือ วัดพระเชตุพน

วิมลมังคลาราม มีหลักฐานปรากฏในศิลาจารึกไว้ว่า หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสถาปนาพระบรมมหาราชวังแล้ว ทรงพระราชดำริว่า มีวัดเก่าขนาบพระบรมมหาราชวัง ๒ วัด ด้านเหนือ คือ วัดสลัก (วัดมหาธาตุฯ) ด้านใต้คือ วัดโพธาราม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุนนางเจ้าทรงกรม ช่างสิบหมู่อำนวยการบูรณะปฏิสังขรณ์ เริ่มเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๓๑ ใช้เวลา ๗ ปี ๕ เดือน ๒๘ วัน จึงแล้วเสร็จ และโปรดฯ ให้มีการฉลองเมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๔ พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ” นอกจากนี้ที่ใต้พระแท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ท่านไว้ด้วย ต่อมา รัชกาลที่ ๔ ได้โปรดฯ ให้เปลี่ยนท้ายนามวัดเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม"

วัดประจำรัชกาลที่ ๒ คือ วัดอรุณราชวราราวรมหาวิหาร หรือวัดแจ้ง

ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งพระอาราม โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แต่สำเร็จเพียงกุฏิสงฆ์ ก็สิ้นรัชกาลที่ ๑ ใน พ.ศ. ๒๓๕๒ ครั้นเมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ จึงโปรดให้สร้างพระอุโบสถและพระวิหารต่อจนแล้วเสร็จ พร้อมทั้งทรงปั้นหุ่นพระพุทธรูป ด้วย ฝีพระหัตถ์ของพระองค์เอง และโปรดให้หล่อขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดอรุณราชธาราม ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ ได้มีการก่อสร้างพระปรางค์องค์ใหญ่ ซึ่งมีความสูง ๘๒ เมตร กว้าง ๒๓๔ เมตร แต่มาเสร็จสมบูรณ์ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดอรุณราชวราราม"

วัดประจำรัชกาลที่ ๓ คือ วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เดิมชื่อวัดจอมทอง

พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงสถาปนาวัดจอมทองขึ้นใหม่ทั้งพระอาราม เนื่องจากเมื่อครั้งที่ทรงยกทัพไปสกัดทัพพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ ใน พ.ศ. ๒๓๖๓ เมื่อกระบวนทัพเรือมาถึงวัดจอมทอง ฝั่งธนบุรีทรงหยุดพักและทำพิธีเบิกโขลนทวารตามตำราพิชัยสงครามพร้อมทรงอธิษฐานขอให้การไปราชการทัพครั้งนี้ได้ชัยชนะ แต่ปรากฏว่าไม่มีทัพพม่ายกเข้ามา เมื่อยกทัพกลับ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่และถวายเป็นพระอารามหลวงแด่รัชกาลที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดราชโอรส" ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกสั้นๆจากชื่อเต็มว่า วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชโอรสซึ่งเป็นผู้บูรณะ

วัดประจำรัชกาลที่ ๔ คือ วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม

เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ข้างสวนสราญรมย์ เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๐๗ เพื่อเป็นวัดธรรมยุตินิกาย เพื่อให้เจ้านายและข้าราชการทั้งฝ่ายนอกและฝ่ายใน ได้บำเพ็ญกุศลกันได้สะดวกขึ้น เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้พระบรมมหาราชวังและทรงพระราชทานนามว่าวัดราชประดิษฐ์สถิตธรรมยุติการาม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดราชประ-ดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม

วัดประจำรัชกาลที่ ๕ และรัชกาลที่ ๗ คือ วัดราชบพิธ หรือชื่อเต็มว่า วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร

คำว่า “ราชบพิธ” หมายถึง พระราชาทรงสร้าง ซึ่งก็คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับพระอัครมเหสีพระราชเทวีและเจ้าจอมพระสนมเอกของพระองค์ ส่วน “สถิตมหาสีมาราม” ก็คือเป็นวัดที่ประดิษฐานเสมาขนาดใหญ่ เพราะตามปกติแล้วเสมาของวัดโดยทั่วไปจะอยู่ตามมุมหรือติดอยู่กับตัวพระอุโบสถ แต่เสมาของวัดนี้ตั้งอยู่บนกำแพงรอบวัดถึง ๘ ด้าน จึงเป็นการขยายเขตทำสังฆกรรมของสงฆ์ให้กว้างขึ้น วัดนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ เท่านั้น แต่ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๗ ด้วย เพราะในรัชสมัยของ รัชกาลที่ ๗ มิได้มีการสร้างวัด แต่ท่านก็ได้รับพระราชภาระในการทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธนี้ด้วย ดังนั้นจึงถือเป็นวัดประจำพระองค์ด้วยเช่นกัน

วัดประจำรัชกาลที่ ๖ คือ วัดบวรนิเวศวิหาร

เดิมชื่อ “วัดใหม่” เป็นวัดโบราณ กรมพระราชวังบวรมหาศิกดิ์ดิพลเสพในรัชกาลที่ ๓ ทรงสถาปนาขึ้นใหม่ เมื่อรัชกาลที่ ๔ ทรงผนวชได้เสด็จมาประทับและทรงตั้งคณะสงฆ์ธรรมยุตติกนิกายขึ้นที่วัดนี้เป็นครั้งแรก ถือเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่ง เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ และรัชกาลปัจจุบันทรงผนวช ณ วัดนี้

วัดประจำรัชกาลที่ ๘ คือ วัดสุทัศนเทพวราราม

เป็นวัดที่รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. ๒๓๕๐ เดิมพระราชทานนามว่า “วัดมหาสุทธาวาส” และให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในสมัย รัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ แต่มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. ๒๓๙๐ และพระราชทานนามว่า “วัดสุทัศนเทพวราราม” ปรากฏในจดหมายเหตุว่า “วัดสุทัศนเทพธาราม” และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามพระประธานในพระวิหารว่า “พระศรีศากยมุนี” พระประธานในพระอุโบสถว่า “พระพุทธตรีโลกเชษฐ์” และพระราชทานนามพระประธานในศาลาการเปรียญว่า “พระพุทธเสรฏฐมุนี” ภายในวัดสุทัศนเทพวรารามเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และได้อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์มาบรรจุที่ผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนีเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ และมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลในวันที่ ๙ มิถุนายน ของทุกปี

(รัชการที่ ๙) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้สร้างวัดพระรามเก้ากาญจนาภิเษก

ขึ้นโดยก่อสร้างเป็นวัดเล็กๆ เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของชุมชนที่ตั้งอยู่ บริเวณใกล้เคียงและเพื่อให้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนาและกิจกรรมต่างๆ ในการเผยแพร่ศีลธรรมและจริยธรรมเพื่อการพัฒนาชุมชน สำหรับ พระประทานที่ประดิษฐาน ณ อุโบสถวัดพระรามเก้าฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยเลือกแบบพระพุทธรูปปางมารวิชัย (ปางชนะมาร) จากการออกแบบเสนอโดยเรืออากาศเอกอาวุธ เงินชูกลิ่น อดีตอธิบดีและสถาปนิกของกรมศิลปากรทั้งหมด ๗ แบบ โดยพระองค์ทรงแก้ไขแบบด้วยพระองค์เอง โดยพระพุทธรูปปางมารวิชัยนี้มีลักษณะแบบรัตนโกสินทร์ ความสูงจักทับเกษตร (หน้ากระดาน) ถึงปลายรัศมี ๑๘๐ เซนติเมตร ขนาดหน้าพระเพลา ๑๒๐ เซนติเมตร โดยมีพระพุทธสาวกเบื้องซ้าย และเบื้องขวาของ พระประธาน ฐานชุกชีทำด้วยหินอ่อน ส่วนองค์พระพุทธรูปทำด้วยทองเหลือผสมทองที่มีลักษณะ ผสมผสานระหว่างอุดมคติ และเหมือนจริงด้วยการห่มจีวรแบบพระสงฆ์ แต่มีพระเกศาแบบอุดมคติ สวยงาม กลมกลืนและปราณีตยิ่งนัก และทรงพระราชทานนามว่าพระพุทธ-กาญจนธรรมสถิต จะเห็นได้ว่า การก่อสร้างหรือบูรณะปฏิสังขรณ์วัดของพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะในยุคใดสมัยใด ได้มีการกระทำกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรัชสมัยของราชวงศ์จักรีไทย ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จนถึงรัชกาลที่ ๙ (รัชกาลปัจจุบัน) ก็ได้มีการกระทำเรื่อยมา จึงแสดงได้ว่าพระมหากษัตริย์ของไทยทรงเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งธรรมและเป็นองค์อัครราชูปถัมภกทางด้านพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และเนื่องในศุภวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ ที่จะถึงนี้ ถือได้ว่าเป็นปีมหามงคลสมัยพิเศษของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติให้ตรวจสอบ ข้อมูลเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ วัดและศาสนสถานทั่วประเทศให้ครอบคลุมทุกศาสนา ที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ ๖๐ ปีขึ้นไป และสมควรได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ให้สวยงาม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี พร้อมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนา ที่พระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกของศาสนิกชนไทยทุกศาสนา ทรงเป็นมิ่งขวัญและศูนย์รวมความสามัคคีของปวงชนชาวไทย ทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นและประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก:กระทรวงวัฒนธรรม

โพสท์โดย: vview
แหล่งที่มา: http://google.co.th
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Sushigaga's profile


โพสท์โดย: Sushigaga
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
32 VOTES (4/5 จาก 8 คน)
VOTED: Tabebuia, ซาอิ, iLay, zerotype, vho, เฟนรีส, igolf
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
พ่อแม่ต้องใจแข็ง! 2 เรื่องที่ลูก ‘ขอแล้วห้ามให้’ ไม่อย่างนั้นน้ำตาอาจเช็ดหัวเข่าตอนบั้นปลายชีวิต6 อาหารเพิ่มความ "ฟิตปั๋ง" สำหรับคุณผู้ชาย สู้มือ เลือดไหลเวียนสูบฉีดเขมร ดัดแปลงปราสาทพระวิหาร ให้กลายเป็นสนามรบเต็มตัว มีทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ทางทหาร กล้องตรวจการณ์ ระบบแอนตี้โดรน รวมถึงโครงสร้างต่าง ๆ ที่ดูไม่เหมาะสมกับสถานที่ซึ่งควรได้รับการอนุรักษ์ของเก่าดีอยู่แล้ว? พรบ.เหล้าใหม่ทำสังคมสับสน ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าปล่อยนายทุนกำหนดทิศทางประเทศ!ผักดอง ผักกระป๋อง ของรักสายเฮลตี้ ที่ทำไตพังแบบเงียบๆจากปลาคนจน สู่ ‘โสมแห่งสายน้ำ’ เนื้อหวานเหมือนใส่ชูรส ราคาพุ่งแรงจนต้องอึ้งแถลงขออภัยครั้งที่สอง: Index Creative Village น้อมรับผิดพลาดระบบเสียงพิธีเปิดซีเกมส์ 2025 กระทบ 3 ศิลปินดังAI วิเคราะห์เลขท้าย 2 ตัว งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68..โดยใช้สถิติย้อนหลัง 20 ปีวงการหนัง A\/ ญี่ปุ่น คึกคัก ค่ายชั้นนำในวงการ เปิดตัวนางเองหน้าใหม่ สวยสะกดทุกสายตา เหล่าแฟนคลับนำไปเปรียบเทียบเป็น มิยาบิ คนใหม่ในวงการมติ "สั่งด่วน" จาก กสทช. : ซีเกมส์ต้องฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม ยุติการผูกขาดเพื่อสิทธิการเข้าถึงของประชาชนแฟนๆ เศร้า "นานา" ประกาศงานนี้ไร้ "นนท์ ธนนท์" และ "ไทยเทเนี่ยม""นุ่น วรนุช" เปิดใจฟ้องหมอดูดัง 20 ล้านบาท ยันชีวิตก้าวหน้าด้วยความพยายาม ไม่ได้พึ่งพาดวงเพียงอย่างเดียว
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ซีเกมส์ไทยจัดเงียบ..มีแต่ดราม่านักวิจัยต่างประเทศฟันธง! ผู้นำไทย–กัมพูชาเล่นการเมืองบน ‘กลิ่นควันปืน’ ชี้เป็นสงครามที่โง่ที่สุด—ประชาชนสองฝั่งเจ็บตัวฟรีเขมรส่งทหารรับจ้างต่างชาติ เข้าสู่พื้นที่ชายแดน ทำหน้าที่ช่วยบินโดรนพลีชีพร่วมกับทหารเขมร เหมือนเหตุการณ์ปะทะครั้งแรกมติ "สั่งด่วน" จาก กสทช. : ซีเกมส์ต้องฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม ยุติการผูกขาดเพื่อสิทธิการเข้าถึงของประชาชนแถลงขออภัยครั้งที่สอง: Index Creative Village น้อมรับผิดพลาดระบบเสียงพิธีเปิดซีเกมส์ 2025 กระทบ 3 ศิลปินดังแม่อเมริกันคลอดลูกในแท็กซี่ไร้คนขับอย่างปลอดภัยกลางเทคโนโลยี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ความคารวะและความอ่อนน้อมถ่อมต่นในฐานะ "สุขทิฏฐวิหารธรรม" (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)สามชั่วโมงแห่งความหวัง… และอ้อมกอดที่ช่วยชีวิตม้าได้ทั้งตัวและหัวใจความเชื่อที่ว่า ถ้าคุณไม่ขยับตัวใต้น้ำ ฉลามจะไม่เล่นงานคุณ มันอาจจะไม่ใช่เสมอไปน๊า.....ทึ่งทั่วโลก : "Factory Butte" ภูเขาที่มีรูปร่างแปลกตา และมีเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ใน Wayne County รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตั้งกระทู้ใหม่