รู้ให้ลึกซึ้งก่อนใช้!! บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็มต่างกันยังไง ควรเลือกแบบไหนดี ?
โพสท์โดย SpiderMeaw
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกรรมการเงินต่างๆ คงจะมีข้อสงสัยไม่น้อยเลยทีเดียวว่าบัตรแต่ละประเภท อย่าง บัตรเดบิต, บัตรเครดิต หรือแม้แต่บัตรเอทีเอ็ม มันแตกต่างกันอย่างไร ? ในเมื่อทั้งสามบัตรนี้ก็สามารถกดเงินออกจากตู้เอทีเอ็มได้ทั้งนั้น!
แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้คงมีบางคนพลั้งพลาดกันมาแล้ว แถมเมื่อพลาดใช้ผิดวัตถุประสงค์ขึ้นมา แทนที่จะได้ประโยชน์ก็อาจได้หนี้สินพอกพูนไปเสียนี่
รู้แบบนี้แล้ว เราลองมาทำความรู้จักกับบัตรทั้งสามประเภทกันเถอะ ว่าแท้จริงแล้ว แตกต่างกันอย่างไร และใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
บัตรเครดิต คือ สินเชื่อบุคคลธรรมดา โดยธนาคารจะให้เงินจำนวนหนึ่งตามที่ธนาคารกำหนด และคุณก็สามารถใช้สินเชื่อนั้นได้ทุกๆ เดือน ภายในวงเงินดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้รูดซื้อสินค้า บริการต่างๆ แต่มีเงื่อนไขว่า คุณจะต้องทำการจ่ายเงินที่นำไปจับจ่ายซื้อของเหล่านั้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนดหรือพูดง่ายๆ ธนาคารจ่ายให้ก่อน พอครบ 30 วัน คุณก็ต้องไปจ่ายคืนธนาคาร เรียกได้ว่าเป็นการให้สินเชื่อ(กู้) ระยะสั้น (มากๆ) นั้นเอง
บัตรเดบิต คือ บัตรที่สามารถใช้จ่ายเงินผ่านบัตรได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด แต่บัตรดังกล่าวเป็นบัตรที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ดังนั้น จึงไม่ใช่เครดิตหรือการให้กู้เงิน และเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร บัตรเดบิตจะทำการตัดเงินเราจากบัญชีธนาคารทันทีด้วยการที่ตัดเงินเท่าที่มีในบัญชี ซึ่งถือว่าเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินของเจ้าของบัญชีโดยตรง จึงทำให้ไม่มีการคิดดอกเบี้ย เพราะไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน (สินเชื่อ) ส่วนมากบัตรเดบิตจะผูกกับบัญชีธนาคารโดยตรง ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่หลายครั้ง บัตรเดบิตนั้นเป็นบัตรเดียวกับบัตรเอทีเอ็ม แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการบริการเสริมนี้ ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ระหว่างทำบัตรเอทีเอ็มได้
บัตรเอทีเอ็ม คือ อีกหนึ่งรูปแบบบริการเบิกเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยเราสามารถนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเบิกเงินสดได้โดยตรงจากตัวตู้กดเอทีเอ็มและหากเงินในบัญชีหมด คุณก็จะไม่สามารถกดเบิกเงินสดได้นั้นเอง ในบางครั้งบัตรเอทีเอ็มก็สามารถเปิดใช้บริการบัตรเดบิตได้เช่นกัน จะเห็นว่าทั้งสามบัตรนี้ แม้จะกดใช้งานผ่านตู้เอทีเอ็มเช่นเดียวกัน แต่มีเงื่อนไขปลีกย่อยที่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่างบัตรเอทีเอ็มนั้น สามารถเป็นได้ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต เพียงแค่แจ้งความประสงค์กับสถาบันทางการเงินที่เปิดบัญชีไว้อยู่แล้วก็สามารถทำได้ง่ายๆ
โดยการเลือกใช้บัตรเหล่านี้ ขั้นต้นคุณควรพิจารณาเสียก่อนว่า ต้องการใช้งานในแบบไหนหากใช้เพียงเป็นบัตรเบิกถอนเงินสดธรรมดา แค่บัตรเอทีเอ็มทั่วไปก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากให้ความสะดวกสบายขึ้นมาอีกระดับ ลองเพิ่มให้บัตรเอทีเอ็มดังกล่าวเป็นบัตรเดบิตไปด้วยในตัวจะช่วยให้คุณใช้งานได้ง่ายดายมากขึ้น เช่น หากต้องการซื้อเงินสด แต่ลืมกดเงิน หากเป็นบัตรเดบิตก็จะสามารถรูดซื้อได้เลย โดยการหักเงินจะหักจากบัญชีของคุณโดยตรง
แต่ถ้าต้องการความสะดวกสบายใจการซื้อสินค้าที่มีราคาสูงมากๆ การเลือกใช้บัตรเครดิต ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณซื้อสินค้าที่มีราคาสูงๆ ได้ทันทีแล้ว (แตกต่างจากบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิต ที่เงินในบัญชีต้องมีเพียงพอต่อการซื้อของชิ้นนั้นๆ ถึงจะซื้อได้) ยังมีสิทธิพิเศษที่น่าสนใจอีกหลายๆ สิทธิ์ ขึ้นกับแต่ละประเภทของบัตรเครดิตอีกด้วย เช่น สะสมแต้มไมล์เมื่อใช้ซื้อบัตรเครื่องบิน หรือสามารถผ่อนดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลาค่างวดที่ทางธนาคารกำหนดมาให้ เป็นต้น
จะให้ดี แอบแนะนำว่าควรจะแยกบัตรเอทีเอ็มกับบัตรเดบิต ออกจากบัตรเครดิต จริงอยู่ทีสามารถรวมประเภทของบัตรทั้งสามไว้เพียงบัตรเดียวนั้นเป็นเรื่องที่สะดวก พกพาง่าย แต่ระวังให้ดีว่าระบบการเงินในบัตรของคุณนั้นจะยุ่งเหยิง เพราะไม่รู้ว่าอะไรรูดด้วยการหักเงินจากบัญชี อันไหนรูดเพื่อซื้อผ่อนสินค้า แถมถ้าเผลอกดเงินเยอะจนเกินไปก็อาจเผลอกดเงินสดจากบัตรเครดิต ซึ่งมีดอกเบี้ยสูงนั่นเอง
การที่แยกบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตใช้ประจำออกจากกันไว้ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผน จัดระเบียบการเงินของตัวเองได้เป็นอย่างดี!
รู้แบบนี้แล้ว เราลองมาทำความรู้จักกับบัตรทั้งสามประเภทกันเถอะ ว่าแท้จริงแล้ว แตกต่างกันอย่างไร และใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
ความแตกต่างระหว่างบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม
บัตรเครดิต คือ สินเชื่อบุคคลธรรมดา โดยธนาคารจะให้เงินจำนวนหนึ่งตามที่ธนาคารกำหนด และคุณก็สามารถใช้สินเชื่อนั้นได้ทุกๆ เดือน ภายในวงเงินดังกล่าว ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้รูดซื้อสินค้า บริการต่างๆ แต่มีเงื่อนไขว่า คุณจะต้องทำการจ่ายเงินที่นำไปจับจ่ายซื้อของเหล่านั้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารกำหนดหรือพูดง่ายๆ ธนาคารจ่ายให้ก่อน พอครบ 30 วัน คุณก็ต้องไปจ่ายคืนธนาคาร เรียกได้ว่าเป็นการให้สินเชื่อ(กู้) ระยะสั้น (มากๆ) นั้นเอง
บัตรเดบิต คือ บัตรที่สามารถใช้จ่ายเงินผ่านบัตรได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด แต่บัตรดังกล่าวเป็นบัตรที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ดังนั้น จึงไม่ใช่เครดิตหรือการให้กู้เงิน และเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตร บัตรเดบิตจะทำการตัดเงินเราจากบัญชีธนาคารทันทีด้วยการที่ตัดเงินเท่าที่มีในบัญชี ซึ่งถือว่าเป็นการใช้จ่ายด้วยเงินของเจ้าของบัญชีโดยตรง จึงทำให้ไม่มีการคิดดอกเบี้ย เพราะไม่ใช่การให้กู้ยืมเงิน (สินเชื่อ) ส่วนมากบัตรเดบิตจะผูกกับบัญชีธนาคารโดยตรง ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่หลายครั้ง บัตรเดบิตนั้นเป็นบัตรเดียวกับบัตรเอทีเอ็ม แต่ถ้าหากคุณไม่ต้องการบริการเสริมนี้ ก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ระหว่างทำบัตรเอทีเอ็มได้
บัตรเอทีเอ็ม คือ อีกหนึ่งรูปแบบบริการเบิกเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยเราสามารถนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเบิกเงินสดได้โดยตรงจากตัวตู้กดเอทีเอ็มและหากเงินในบัญชีหมด คุณก็จะไม่สามารถกดเบิกเงินสดได้นั้นเอง ในบางครั้งบัตรเอทีเอ็มก็สามารถเปิดใช้บริการบัตรเดบิตได้เช่นกัน จะเห็นว่าทั้งสามบัตรนี้ แม้จะกดใช้งานผ่านตู้เอทีเอ็มเช่นเดียวกัน แต่มีเงื่อนไขปลีกย่อยที่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่างบัตรเอทีเอ็มนั้น สามารถเป็นได้ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต เพียงแค่แจ้งความประสงค์กับสถาบันทางการเงินที่เปิดบัญชีไว้อยู่แล้วก็สามารถทำได้ง่ายๆ
สรุป เลือกใช้แบบไหนดี ?
หลายคนก็อาจจะยังสงสัยกันไม่หาย ถึงแม้จะรู้ถึงหนทาง ประโยชน์ ของบัตรต่างๆ เหล่านี้แล้ว ก็อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า แบบนี้เราจะเลือกใช้บัตรยังไงดี เพื่อตอบโจทย์ได้อย่างแม่นย่ำมากยิ่งขึ้นโดยการเลือกใช้บัตรเหล่านี้ ขั้นต้นคุณควรพิจารณาเสียก่อนว่า ต้องการใช้งานในแบบไหนหากใช้เพียงเป็นบัตรเบิกถอนเงินสดธรรมดา แค่บัตรเอทีเอ็มทั่วไปก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอยากให้ความสะดวกสบายขึ้นมาอีกระดับ ลองเพิ่มให้บัตรเอทีเอ็มดังกล่าวเป็นบัตรเดบิตไปด้วยในตัวจะช่วยให้คุณใช้งานได้ง่ายดายมากขึ้น เช่น หากต้องการซื้อเงินสด แต่ลืมกดเงิน หากเป็นบัตรเดบิตก็จะสามารถรูดซื้อได้เลย โดยการหักเงินจะหักจากบัญชีของคุณโดยตรง
แต่ถ้าต้องการความสะดวกสบายใจการซื้อสินค้าที่มีราคาสูงมากๆ การเลือกใช้บัตรเครดิต ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณซื้อสินค้าที่มีราคาสูงๆ ได้ทันทีแล้ว (แตกต่างจากบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิต ที่เงินในบัญชีต้องมีเพียงพอต่อการซื้อของชิ้นนั้นๆ ถึงจะซื้อได้) ยังมีสิทธิพิเศษที่น่าสนใจอีกหลายๆ สิทธิ์ ขึ้นกับแต่ละประเภทของบัตรเครดิตอีกด้วย เช่น สะสมแต้มไมล์เมื่อใช้ซื้อบัตรเครื่องบิน หรือสามารถผ่อนดอกเบี้ย 0% ในระยะเวลาค่างวดที่ทางธนาคารกำหนดมาให้ เป็นต้น
จะให้ดี แอบแนะนำว่าควรจะแยกบัตรเอทีเอ็มกับบัตรเดบิต ออกจากบัตรเครดิต จริงอยู่ทีสามารถรวมประเภทของบัตรทั้งสามไว้เพียงบัตรเดียวนั้นเป็นเรื่องที่สะดวก พกพาง่าย แต่ระวังให้ดีว่าระบบการเงินในบัตรของคุณนั้นจะยุ่งเหยิง เพราะไม่รู้ว่าอะไรรูดด้วยการหักเงินจากบัญชี อันไหนรูดเพื่อซื้อผ่อนสินค้า แถมถ้าเผลอกดเงินเยอะจนเกินไปก็อาจเผลอกดเงินสดจากบัตรเครดิต ซึ่งมีดอกเบี้ยสูงนั่นเอง
การที่แยกบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตใช้ประจำออกจากกันไว้ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผน จัดระเบียบการเงินของตัวเองได้เป็นอย่างดี!
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: Dont sweat it, makhamdong, zerotype, นางเบิร์ด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
8 ผลไม้ต้านมะเร็ง กินได้ทุกวัน ผลไม้ที่มะเร็งกลัวแจ้งโอนเงิน 10,000 เข้าบัญชี 19 ธ.ค.นี้ เช็คผู้มีสิทธิ์ได้แอลกอฮอล์เป็นพิษ คิดสักนิดก่อนจะดื่ม อย่าสนุกจนลืมระวัง และ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดปริมาณกี่มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ?กรี๊ดคอแทบแตก! URBOYTJ ฟิตหุ่นลดน้ำหนักได้ถึง10 กก. ร่างทองหล่อมากกกกโค้งสุดท้าย! ส่องเลขประทัดพิธี "อธิฐานจิตส่งกำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม"ผ้าอนามัยเป็นเหตุ ทำสาวจีนเดือดลุกขึ้นมาทวงถามความเป็นธรรมจากบริษัทผู้ผลิต เหตุเพราะสินค้าไม่ตรงปกหนุ่มอังกฤษสุดปลื้ม ย้ายหนีบ้านเกิดมาไทย เจอชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในทุกมุมรีวิวความสนุก ซึ้ง และมันส์ของ 4 หนุ่ม ทำฮอลล์แทบลุกเป็นไฟ!ชาวเยอรมันต้องการให้รัฐบาลแบนสื่อโซเชียลกับเด็กเหมือนออสซี่พุฒ จุ๋ย ต้อนรับสมาชิกคนใหม่ น้องเจเพิร์ล สาวน้อยแก้มยุ้ยประจำบ้านต้มยำกุ้ง – เคบายา เตรียมขึ้นทะเบียนยูเนสโก มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้พบร่างของน้องปลื้ม เด็กพิเศษวัย 5 ขวบ เสียชีวิตจากการจมน้ำในคลองข้างโรงเรียนHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผ้าอนามัยเป็นเหตุ ทำสาวจีนเดือดลุกขึ้นมาทวงถามความเป็นธรรมจากบริษัทผู้ผลิต เหตุเพราะสินค้าไม่ตรงปกโค้งสุดท้าย! ส่องเลขประทัดพิธี "อธิฐานจิตส่งกำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม"แอลกอฮอล์เป็นพิษ คิดสักนิดก่อนจะดื่ม อย่าสนุกจนลืมระวัง และ ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดปริมาณกี่มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ที่จะส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ?กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
หนุ่มอังกฤษสุดปลื้ม ย้ายหนีบ้านเกิดมาไทย เจอชีวิตใหม่ที่ดีกว่าในทุกมุมไทยพร้อมโกยทรัพย์ กฎหมายสมรสเท่าเทียมดึงนักท่องเที่ยวสายรุ้ง 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้สะท้านอาเซียนต้มยำกุ้ง – เคบายา เตรียมขึ้นทะเบียนยูเนสโก มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ไขข้อสงสัย! การดื่มน้ำมะพร้าวทุกวันช่วยบำรุงผิวจริงหรือ? ผลวิจัยล่าสุดเปิดเผย