บ้านดอยช้าง แหล่งกําเนิดกาแฟคุณภาพ
บ้านดอยช้าง ตั้งอยู่ที่ ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ตั้งอยู่ที่ความสูงอยู่ระหว่าง 1,000 - 1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางดิน มีอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การปลูกกาแฟสายพันธุ์อราบิก้าประชากรในพื้นที่ประกอบด้วยชนเผ่า อาข่า , ลีซู , จีนฮ่อ จำนวนกว่า 1,000 ครัวเรือน ส่วนใหญ่ยึดอาชีพเกษตรกรรมโดยการปลูกกาแฟ
ในอดีตบนดอยช้างมีการทำการเกษตรที่เป็นลักษณะการทำไร่เลื่อนลอย เหมือนกับในพื้นที่สูงอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการแผ้วถางป่าเพื่อขยายพื้นที่การเพาะปลูก เพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ทั้งยังเป็นการทำลายความสมบูรณ์ของผืนป่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบถึงปัญหาเหล่านี้ดี จึงได้เกิดโครงการปลูกพืชเศรษฐกิจเมืองหนาวหลากชนิดขึ้น มีวัตถุประสงค์ที่จะหาพืชทดแทนฝิ่นอันเป็นพืชสำคัญของชาวเขา ซึ่งเป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหาอื่นๆ ด้วย เช่น ปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย ปัญหาเรื่องต้นน้ำลำธาร และปัญหายาเสพติด เป็นต้น
จากแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ชาวไทยภูเขาบนหมู่บ้านดอยช้างหันมาปลูกพืชเมืองหนาว เกษตรกรในพื้นที่บ้านดอยช้างได้หันมาปลูกกาแฟอราบิก้า จนกระทั่งปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูกกาแฟอราบิก้าและทำเกษตรกรรมรวมประมาณ 30,000 ไร่ ทั้งป่าที่เสื่อมโทรมในอดีตก็ได้ฟื้นกลับคืนเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นการปลูกกาแฟที่ทำให้ได้ป่ากลับคืนมา
บ้านดอยช้างในวันนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่เพาะปลูกต้นกาแฟอราบิก้าสายพันธุ์คุณภาพที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในระดับโลก กาแฟดอยช้างได้รับการรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสหภาพยุโรป ( EU ) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558
ในแต่ละกระบวนการผลิตและแปรรูปกาแฟดอยช้าง เริ่มต้นตั้งแต่การปลูก การเก็บผลกาแฟสดจากต้นด้วยมือ กระบวนการแปรรูปแบบเปียกถูกคัดสรรจนได้ขั้นตอนที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างสรรค์รสชาติจนทำให้กาแฟของดอยช้างเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษ (Specialty coffee) ที่ปลูกเฉพาะบริเวณดอยช้างเท่านั้น โดยได้ตรารับรองมาตรฐานระดับสากลมากมายด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตรงกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษ เจือรสเปรี้ยว (กรดจากผลไม้) ที่ดื่มแล้วทำให้รู้สึกชุ่มคอ มีสารคาเฟอีนต่ำ มีรสชาติที่กลมกล่อมสูง เป็นความลงตัวระหว่างพื้นที่เพาะปลูกกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นที่สูงและมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ประกอบกับการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ทำให้ได้กาแฟอราบิก้าที่มีคุณภาพสูง ดังคำกล่าวที่ว่า “กาแฟดอยช้าง เอกลักษณ์กาแฟไทย สุดยอดกาแฟโลก”
ผลกาแฟสดที่สุกเต็มที่จะถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือ นำมาเทลงบ่อน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดและแยกเอาเฉพาะเมล็ดสมบูรณ์ที่จมน้ำ ส่วนเมล็ดที่ลอยน้ำจะถูกคัดแยกออกไป
ภายหลังได้ผลกาแฟที่สมบูรณ์แล้วจะต้องนำมาเข้าสู่กระบวนการกะเทาะเปลือกด้วยเครื่องกระเทาะเปลือกกาแฟสดทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ภายหลังการเก็บเกี่ยว
กาแฟกะลาเปียกที่ได้จากขั้นตอนกะเทาะเปลือกจะถูกนำมาหมักแห้งเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงและนำไปหมักเปียกต่ออีก 24 ชั่วโมง กระบวนการหมักจะช่วยในการขจัดเมือกเคลือบออกจากกาฟกะลา ในขั้นตอนสุดท้ายจะมีการแช่พักเมล็ดที่ผ่านการหมักในน้ำสะอาดอีก 20-24 ชั่วโมงเพื่อทำให้กาแฟมีกลิ่นรสสะอาดยิ่งขึ้น
นำกาแฟกะลาที่ผ่านการแช่พักเมล็ดมาเทลงบนลานตากที่สะอาดและตากให้แห้งโดยด้วยแสงอาทิตย์เป็นระยะเวลาประมาณ 7-8 วันทำการพลิกกลับกาแฟกะลาเป็นครั้งคราวเพื่อให้กาแฟกะลาระเหยน้ำอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อได้กาแฟที่มีความชื้นในระดับที่ต้องการ กาแฟกะลาจะถูกบรรจุลงในกระสอบที่สะอาดแล้วนำไปเก็บรักษาในคลังเก็บที่มีการควบคุมระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม และควบคุมอากาศถ่ายเทสะดวกตลอดเวลา
เมื่อได้กาแฟที่มีความชื้นในระดับที่ต้องการ กาแฟกะลาจะถูกบรรจุลงในกระสอบที่สะอาดแล้วนำไปเก็บรักษาในคลังเก็บที่มีการควบคุมระดับอุณหภูมิที่เหมาะสม และควบคุมอากาศถ่ายเทสะดวกตลอดเวลา