อ่านแล้วมันใช่!! 19 ปีที่เรียนมา หมดเงินไปไม่รู้เท่าไหร่..ลองถามตัวเองดูว่ามันคุ้มไหม??
3 ปีเรียนอนุบาล +
6 ปีเรียนประถม +
6 ปีเรียนมัธยม +
4 ปีเรียนมหาวิทยาลัย
หมดเงินไปไม่รู้เท่าไร จบมาแม่งเป็นขี้ข้าห้องแอร์เงินเดือน 15,000!!
เจ้านาย ก็หน้า.... เพื่อนร่วมงานแม่งก็ขี้อิจฉา ไหนจะลูกค้างี่เง่า!!
ทนๆๆๆๆ ทนมา3ปี กะจะหาที่ทำงานใหม่ พอได้อ้าววววชิxxาย!!
ที่ใหม่แม่งก็ไม่ต่างจากที่เก่า เราแค่เปลี่ยนที่ทุกข์!!
ตื่นมาแทนที่จะได้กินกาแฟอ่านหนังสือที่ชอบก่อน
ต้องรีบร้อนวิ่งไปหาเครื่องตอกบัตร!!
เที่ยง อยากแดกร้านโปรดแม่งก็ไกล
ทำได้แค่กินข้าวแกงข้างอ็อฟฟิตเพราะกลัวกลับเข้างานไม่ทันเวลา!
อยากออกจากงานวันละ3เวลาหลังอาหารก็ทำไม่ได้เพราะ...
เxือกผ่อนรถ ไหนจะค่าบัตรเครดิตอีก2-3ใบ
ลาออกไปมีหวังกลับไปนั่งรถเมลล์เหมือนเดิม!!
ชีวิตค่อยๆเดินลงทะเล ทีละก้าว ผ่านไป 10 ปี มีลูกยิ่งต้องระวัง
ตกงานมาไม่ใช่เราคนเดียวที่อดตาย ไปทำงานด้วยความจำยอม เจ้านายจะโขกสับยังไงก็ต้องทน
แต่ก็แปลกอีกนะ....
เราเจอแบบนี้มา เราก็ดันไป สอนลูกเราต่ออีกว่า "ตั้งใจเรียนนะโตขึ้นจะได้ทำงานดีๆ"
สุดท้ายพอเราตายห่าไป เราไม่ได้ทิ้งอะไรใว้ให้ลูกเลย
แต่เราทิ้งลูกจ้างใว้ให้โลกไว้ทำงานให้บริษัทคนอื่นให้คนอื่นรวย นั้นคือ ลูกเรา นั้นเอง!!
คิดง่ายๆนะ อาเฮียร้านจักรยาน ตายห่าไป เขาทิ้งกิจการร้านจักรยานใว้ให้ลูก ลูกรุ่นต่อไปเป็น...เถ้าแก่
ลุงดำ ทำงาน ร้านจักรยานของอาเฮีย ลุงดำตายห่าไป ลุงดำจะมีอะไรทิ้งใว้ให้ลูก?
คนจะรวยคนจะจน มันไม่ได้ต่างกันที่จำนวนเงิน มันต่างกันที่วิธีคิด!!
คุณอยากเห็นตัวเองตอนอายุ 60 เป็นยังไงมันขึ้นอยู่กับการคิดการทำในวันนี้
เลิกทำให้คนอื่นรวย มาทำให้ตัวเองรวย แล้วก็อย่าเxือกมาโชว์โง่
ด้วยการบอกว่า ค้าขายไม่เป็น ทำธุรกิจไม่เป็น ออกมาจากท้องแม่...เอาไม่เป็นทำไมตอนนี้...เอาเป็นทุกท่า???
เรียนรู้ ศึกษา สิครับ เริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบอยากทำ ทำแล้วมีความสุข
แรกๆอาจจะเจ๊ง เจ๊งก็ช่างมันยิ่งเจ๊งยิ่งเก่ง
เหมือนหัดขี่จักรยานนั้นแหละ ต้องมีล้มบ้าง
เลือกเอา
จะล้มตอนนี้ตอนที่ยังมีแรงลุกได้เร็วหรือล้มตอนอายุ60 ล้มมานี่ตายห่าเลยนะ??