สมัยนโปเลียน ระหว่างสงครามถ้าขาเป็นแผลรูเท่าปลายก้อย วิธีการรักษาไม่ใช่การทำแผลแต่มันคือการตัดขาทิ้ง
ในยุคที่สมัยที่การแพทย์ยังใช้การรักษาแบบใช้ความรู้สึกมากกว่าการรักษาด้วยข้อเท็จจริง อาจจะเป็นเพราะวิทยาการในด้านต่างๆ ยังไม่เจริญเท่าทุกวันนี้ การรักษาในผู้ป่วยถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเสี่ยงชีวิต ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือการคลอดลูก ที่ผู้เป็นแม่มีโอกาสที่จะเสียชีวิตเกินกว่า 50% จากการคลอดโดยใช้หมอตำแย
การรักษาบาดแผลตามร่างกายก็เช่นกัน คงจะเคยได้ยินว่าในสงครามถ้าเป็นแผลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ วิธีการรักษาเพื่อป้องกันการเสียชีวิตก็คือการตัดอวัยวะชิ้นนั้นออกซะ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมการสาธิตการรักษาบาดแผลจากกระสุนปืนในยุคสมัยของสงครามนโปเลียน ที่มีวิธีการที่ใครใจไม่แข็งพอจะต้องเป็นลมแน่ๆ
หลังจากที่ดูแล้วก็รู้สึกได้ถึงความสยองและการรักษาที่เกินกว่าเหตุเป็นอย่างมากในสมัยก่อน เป็นเพราะว่าวิทยาการทางการแพทย์ในตอนนั้นยังไม่ดีเท่าทีควร การรักษาบาดแผลเช่นการติดเชื้อ การอักเสบถ้าเป็นปัจจุบันอาจจะแค่ทำแผลและตัดเนื้อส่วนที่ตายออกเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนนั่นก็คือการตัดออกทั้งดุ้น และที่น่ากลัวยิ่งไปกว่าการตัดอวัยวะออกคือการตัดแบบไม่ใช้ยาสลบ ผู้บาดเจ็บอย่างดีก็มีแค่เหล้าที่กินเข้าไปเพื่อให้เมาแต่ก็ยังเจ็บ หลายรายถึงขนาดช็อคจนเสียชีวิตไปเลยก็มี
เกร็ดน่ารู้ : ยาสลบเพิ่งถูกค้นพบสูตรที่ปลอดภัยก็เมื่อต้นศตวรรตที่ 19 นี้เอง ในสมัยก่อนการทดลองยาสลบก็มี แต่ผู้ป่วยก็ต้องวัดดวงด้วยว่าเมื่อกินเข้าไปหรือดมเข้าไปแล้วจะเสียชีวิตหรือจะสลบ ซึ่งถ้าดูส่วนผสมยาสลบที่นิยมใช้ก็น่าจะเกิดความสงสัยว่าใช้ได้จริงๆ หรือ เพราะมันมีทั้งพืชใช้ทำยาพิษ ของเหลวที่นำมาจากอวัยวะของสัตว์ จะดูดีหน่อยก็พวกฝิ่นแค่นั้นเอง ถ้าท่านอ่านอยู่ขอให้รู้ว่าท่านโชคดีแล้วที่เกิดมาในยุคนี้
ที่มา : klyker.com