เจ้าสาวหน้าขาวแห่งบัลแกเรีย White-painted bride honors Bulgarian Muslim rite
ขนบธรรมเนียม ประเพณีในวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละท้องถิ่นบนโลกใบนี้ย่อมมีความงดงาม
ความน่าสนใจ และความไม่ธรรมดาอยู่ในตัว ขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความศรัทธา
และความคิดของคนในพื้นที่นั้นๆ
พิธีแต่งงานของคู่บ่าวสาว ที่สืบทอดกันมานานหลายร้อยปีในหมู่บ้าน ริบโนโว่ (Ribnovo)
ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ "บัลแกเรีย"
แถบเทือกเขาโรโดป (Rhodope) ห่างจากกรุงโซเฟีย เมืองหลวงของบัลแกเรีย
ไปทางตอนใต้ 230 กิโลเมตร ก็เช่นกัน
พิธีแต่งหน้าเจ้าสาวนี้ผู้มีโอกาสเข้าชมมีเพียงญาติที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น ใบหน้าของฟิกรีจะถูกวาดด้วยชอล์คสีขาวหนาเตอะ ก่อนจะตกแต่งแซมด้วยสีสันให้ดูสดใส มีผ้าโปร่งคลุมผม บนศีรษะประดับด้วย
มงกุฏโลหะเคลือบ ใบหน้าที่วาดไว้จะคลุมด้วยผ้าโปร่งบางเบา เจ้าสาวจะนุ่งกางเกงสุ่ม สวมเสื้อรัดหน้าอกสีประกายรุ้ง จากนั้นว่าที่เจ้าบ่าว แม่เจ้าสาว และยายเจ้าสาว จะนำตัวเจ้าสาวออกมาให้แขก
เหรื่อได้ยลโฉม ในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานจะไม่มีเหล้าเสิร์ฟ อีกทั้งคู่บ่าวสาวก็ห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน
ผู้คนที่นี่เป็นชาวโปมัก (Pomak)
ชาวโปมักนับถือศาสนาอิสลาม เนื่องจากเคยตกเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิออตโตมัน
เติร์กอยู่นานราวๆ 400-500 ปี ในช่วงศตวรรษที่ 14-19
ชาวโปมักยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณี การแต่งงานแบบนี้มาช้านานแล้ว
เคยเป็นพิธีต้องห้าม
นักชนชาติวิทยาบอกว่าพิธีวาดหน้าเจ้าสาวในงานแต่งงานนี้ไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร เพราะรัฐบาลคอมมิวนิสต์ไม่สนับสนุนให้ศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดของชนกลุ่มน้อยและกลุ่มศาสนา
ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าชาวโปมักมีปัญหาเรื่องอัตลักษณ์(ลักษณะเฉพาะของตัวเอง) และเจอความท้าทายมากกว่ามุสลิมส่วนใหญ่ในบัลแกเรีย ซึ่งเป็นมุสลิมเชื้อสายเติร์ก
บัลแกเรียเป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหรือ อียู (EU)ที่มีสัดส่วนชาวมุสลิมสูงสุดคือร้อยละ 12 ของประชากรทั้งประเทศ สมัยคอมมิวนิสต์ชาวมุสลิมถูกบังคับให้ทำตัวกลมกลืนกับชาวบัลแกเรียคริสเตียน ห้ามชาวมุสลิมแต่งกายตามประเพณี บังคับให้ชาวมุสลิมใช้ชื่อสลาฟ (ยุโรปตะวันออก)
ช่วงทศวรรษ 1960 รัฐบาลคอมมิวนิสต์ออกกฎห้ามจัดงานแต่งงานแบบมุสลิม จากนั้นห้ามแต่งกายแบบมุสลิม ต่อมาช่วงทศวรรษ 1980 คอมมิวนิสต์ห้ามแต่งงานแบบโปมักหมดเลย
ประเพณีแต่งงานถูกรื้อฟื้นขึ้นอย่างเข้มแข็งโดยชาว 'โปมัก' (Pomak) - ชาวสลาฟซึ่งเปลี่ยนจากคริสตศาสนาไปนับถืออิสลามช่วงที่บัลแกเรียตกอยู่ใต้การปกครองของจักรวรรดิมุสลิมออตโตมานเติร์ก 500 ปี (ได้รับเอกราชจากเติร์กในปี 1878) ชาวโปมักมีราว 3 แสนคน เป็นกลุ่มหนึ่งของมุสลิมในบัลแกเรีย
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันประเพณีแต่งงานแบบดั้งเดิมของชาวโปมักถือปฏิบัติกันในแถบริบโนโวและอีกหมู่บ้านหนึ่งในประเทศบอลข่านเท่านั้น ชายหนุ่มจะเดินทางกลับจากทำงานในต่างประเทศมายังเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนแห่งนี้ เพื่อแต่งงานในช่วงฤดูหนาว
ชาวเมืองริบโนโวจะเรียกตัวเองว่า "ชาวมุสลิม" เท่านั้น พวกเขาไม่สนใจเรื่องเชื้อชาติหรือประเทศที่อาศัย สนใจแค่ศาสนา และพิธีแต่งงานนี้เองที่เป็นการแสดงออกถึงความเคร่งศาสนาของพวกเขา หมู่บ้านริบโนโวมีอิหม่าม 10 คน มัสยิด 2 แห่ง ประชากรทั้งหมด 3,500 คน
เมื่อก่อนชาวริบโนโวหาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกยาสูบ แต่ระยะหลังผู้ชายในหมู่บ้านมักออกไปทำงานในเมืองใหญ่ของบัลแกเรีย หรือไม่ก็ในประเทศยุโรปอื่นๆ
อิทธิพลจากสังคมภายนอกเข้ามามีบทบาทต่อชาวริบโนโวน้อยมาก พวกเขายังคงเคร่งครัดต่อการปฏิบัติศาสนกิจ เยาวชนที่นี่ก็มักแต่งงานกันเอง ไม่แต่งงานกับคนนอกพื้นที่
แหล่งที่มา: http:// http://www.newmuslimthailand.com/main/thirdpage.php?style=preview&spv=&tpv=1702
แหล่งที่มาบางส่วน : คู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 959 ประจำวันที่ 10-20 กันยายน 2559
ภาพจาก : Internet