7 รอยยิ้มที่แม้ไม่โด่งดังเท่า 'โมนาลิซา' แต่ก็ตราตรึงประวัติศาสตร์จนโลกต้องจดจำ
หากถามว่า ‘รอยยิ้ม’ ใดที่โด่งดังบันลือโลก หมีขาวว่าคำตอบแรกที่หลายคนนึกถึงก็คือ ‘รอยยิ้มของโมนาลิซา’ ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาและมนต์ขลัง
แต่นี่ก็เป็นอีก 7 รอยยิ้มในประวัติศาสตร์ ที่แม้อาจไม่ได้ก้าวไปเป็น ‘อันดับหนึ่งในตำนานของมนุษยชาติ’ แต่ก็ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหมาย ความลึกซึ้ง ตลอดจนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง รับรองว่าควรค่าแก่การจดจำ
1.รอยยิ้มในภาพพอร์ตเทรตของ Jan Steen (วาดขึ้นราวศตวรรษที่ 17)
หลายคนอาจสงสงสัยว่าทำไมภาพวาดในอดีต จึงไม่ค่อยมี ‘รอยยิ้ม’ และมักเป็นใบหน้าที่ซีเรียส อย่าง Vincent Van Gogh เองก็หน้าขรึม ส่วน Leonardo da Vinci ก็ยิ่งซีเรียสเข้าไปใหญ่ Charles Dickens หนึ่งในนักเขียนระดับตำนานเคยแสดงความคิดเห็นไว้ว่า “ภาพวาดในยุคของเรามีสองแบบ คือแบบเคร่งขรึมและแบบยิ้มเยาะ ซึ่งคนที่ห่วงมาดที่ดูเป็นมืออาชีพมักจะไม่ยิ้ม แต่สำหรับกุลสตรีและสุภาพบุรุษที่ไม่ค่อยสนใจเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ดูฉลาด หรือคงแก่เรียนเท่านั้นที่มักจะยอมเผยรอยยิ้มให้เห็น
Jan Steen เองก็เป็นศิลปินชาวดัตช์ที่โด่งดังในศตวรรษที่ 17 เขาขึ้นชื่อในเรื่องของภาพวาดที่เปี่ยมอารมณ์ขัน และใช้สีสันหลากหลายรูปแบบ โดยในภาพนี้เขาได้วาดรูปตัวเองออกมา พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูแล้วอารมณ์ดี ซึ่งการวาดภาพตัวเองยิ้มในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
มาดมุมขรึมของ Jan Steen
2.คู่รักที่เขินเมื่อถ่ายภาพ (ยุควิคตอเรียน)
แม้ยุคนี้การถ่ายภาพจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ย้อนกลับไปในยุควิคตอเรียน…การถ่ายภาพเป็นนวัตกรรมที่ดู ‘แปลกใหม่และพิสดารโคตร’ ซึ่งในภาพนี้สามีภรรยาคู่หนึ่งได้ชวนกันมาถ่ายรูป แต่ก่อนที่จะถ่ายเสร็จฝ่ายภรรยาก็เกิดเขินและอายกล้อง ซึ่งช่วงเวลานั้นได้ทำให้โลกได้เห็นหนึ่งในภาพที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์
3.รอยยิ้มของสตรีผู้ทรยศ Vincent Van Gogh
ในยุคปัจจุบันภาพวาดของ Vincent Van Gogh มีมูลค่าที่แทบประเมินไม่ได้ และรูปของ Madame Ginoux ก็เป็นหนึ่งในนั้นโดยมีมูลค่าสูงถึง 22,000,000 ปอนด์ (ราว 1,211,000,000 บาท) แต่เบื้องหลังของภาพนี้ก็ลึกซึ้งไม่แพ้กัน
โดย Marie Ginoux เป็นเจ้าของร้านกาแฟในเมือง Arles ประเทศฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในเพื่อนของ Vincent Van Gogh และไม่กี่วันก่อนที่ศิลปินระดับตำนานจะฆ่าตัวตาย เขาได้ตัดสินใจวาดภาพของ Marie Ginoux…อย่างไรก็ตาม Van Gogh ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้กับสามีของเธอนี่แหละ คือตัวการสำคัญที่คอยผลักดันแคมเปญในการจับ Van Gogh เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาลบ้า ซึ่งในเวลานั้น Van Gogh ไม่รู้เลยว่าคนที่เขาคิดว่าเป็น ‘เพื่อน’ แท้จริงแล้วมีจิตอคติต่อเค้ามากถึงเพียงไหนและไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ปลิดชีวิตตน
4.ภาพ Madame Jacques-Louis Leblanc หญิงผู้เป็นดั่งน้องสาวของ ‘โมนาลิซา’
นี่เป็นอีกรอยยิ้มในประวัติศาสตร์ที่ดังเกือบเทียบเท่าโมนาลิซา โดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะ Kathy Galitz ได้เปรียบว่าภาพนี้เปรียบเหมือนน้องสาวของโมนาลิซาก็ว่าได้ เนื่องจากนักประวัติศาสตร์ศิลปะส่วนใหญ่ยังไม่สามารถถอดความหมายของรอยยิ้มนี้ได้ และนั่นทำให้รอยยิ้มของเธอดูลึกลับและมีมนต์ขลังไม่แพ้ใคร
5.รอยยิ้มอัจฉริยะ ศาสตราจารย์ Stephen Hawking
Stephen Hawking คือนักฟิสิกส์ระดับตำนานของโลก เขาไขปริศนามากมายและมีขอบเขตความรู้ที่กว้างไกล อย่างไรก็ตามโรค ALS ได้เล่นงานเขา แต่ถึงแม้กาลเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ชายคนนี้ที่ถูกเรียกว่า ‘อัจฉริยะ’ ก็ไม่เคยเลยที่จะหยุด ‘ยิ้ม’
ภาพวันแต่งงานระหว่าง Stephen Hawking กับ Jane Hawking
ภาพรอยยิ้มของเค้าในปัจจุบัน ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโรคร้าย
6.ช่วงเวลาในตำนาน เมื่อรอน วิสลีย์กับเฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ยืนยิ้มเคียงข้างกัน
“แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์” (Harry Potter and the Philosopher’s Stone) คือหนึ่งในตำนานวงการภาพยนตร์โลก หากย้อนกลับไปนับ 10 กว่าปีสู่ในปี 2001 ซึ่งเป็นปีแรกที่เปิดตัว บอกได้คำเดียวว่าตอนนั้น “แฮร์รี่ พอตเตอร์” คือปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่และเปี่ยมมนต์ขลังมาก ที่สำคัญในตอนนั้นคงไม่มีใครคาดคิดว่าท้ายที่สุดเจ้าเจ๋อรอน วิสลีย์ กับแม่คนฉลาดเฮอร์ไมโอนีจะได้มาเป็นคู่รักกัน
7.ยิ้มอันไร้เดียงสาของ Taylor Swift ในปี 1994
ตอนนี้ Taylor Swift คือขวัญใจชาวโลก แต่เชื่อเถอะว่าย้อนกลับไปในปี 1994 ตอนนั้น Taylor Swift คงไม่คิดว่าตัวเองจะมาไกลขนาดนี้แน่ โดยภาพนี้ถ่ายไว้ขณะที่เธอเรียนอยู่ชั้นประถมในแถบชนบทของ Pennsylvania
แต่ตอนนี้ เด็กน้อยไร้เดียงสาในวันนั้นได้ก้าวมาเป็นดั่งนางฟ้าที่ทุกคนรัก
ที่มา: http://อ้างอิงข้อมูลจาก : foxerbox,metmuseum,telegraph,reddit,wikimedia ,Jan_Steen,blog.vangoghgallery,independent,telegraph,buzzfeed,fanpop,warnerbros