ทำไมหนังไทยไม่พัฒนา
1.ตัวผู้ชมเอง ทั้งพวกที่แอนตี้หนังไทยทั้งที่ไม่เคยดูและไม่ให้โอกาส และรสนิยมการดูหนังของคนไทยที่เน้นแค่ความสนุกสนานไม่เน้นเนื้อหา ทำให้หนังดีเนื้อหาดีขายไม่ได้ ไหนจะเรื่องแผ่นผีหนังออนไลน์ในเวปอีกที่หนังเข้าได้ไม่กี่วันก็โดนซูมและลงเวปแล้ว และคนที่ชอบดูหนังแต่ไม่รักหนังคือขอแค่ได้ดูโดยไม่สนเรื่องอรรถรสทั้งภาพและเสียงแค่ดูได้เป็นพอเขาจึงไม่ค่อยนิยมเข้าโรงหนัง อันนี้มีผลกระทบทั้งหนังไทยและเทศทั้งสิ้น
ตัวอย่างหนังดีที่ไม่ประสบผลสำเร็จด้านการเงิน
2.ตัวนายทุนผู้สร้างหนัง ในเมื่อการสร้างหนังคือธุรกิจที่เน้นกำไรสูงสุดเมื่อตลาดหนังไทยชอบหนังผีหนังตลกและหนังฟร์อมยักษ์ที่สนุกแบบฮอลลีวูด ซึ่งอย่างหลังตัดไปได้เรยถ้ารั้งที่จะสร้างโอกาสเจ๊งมีสูงคงสู้หนังฮอลลีวูดไม่ได้ จึงเหลือแต่หนังผีตลก กะเทย หนังรักวัยรุ่นเกลื่อนไปหมด ไม่มีแนวหนังใหม่ใหม่ให้ดูกัน
ตัวอย่างหนังที่ล้มเหลวในแง่ของความเป็นหนังแต่กลับประสบผลสำเร็จด้านรายได้
3.สิทธิเสรีภาพและระบบสังคมในเมืองไทย หนังบางเรื่องที่มีเนื้อหาล่อแหลมจึงไม่สามารถสร้างได้หรือดันทุรังสร้างโอกาสโดนแบนก็มีสูงเช่น หนังที่เกี่ยวกับด้านมืดของแวดวงราชการ การเมือง พวกหนังทหารตำรวจ ศาสนา และหนังเกี่ยวกับราชวงศ์ที่ยังมีชีวิตอยู่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่รวมถึงกองเซ็นเซอร์ที่ไม่มีมาตรฐานความเป็นมืออาชีพที่มักประสบข้อพิพาทกับหนังหลายเรื่อง จนบางคนบอกว่าในกองเซ็นเซอร์มีแต่ราชการแก่แก่ที่ไม่รักหนังและดูหนังไม่เป็นด้วยซ้ำ
เกือบไม่ได้ฉาย
โดนแบนเรียบร้อยเพราะนื้อหาเกี่ยวข้องกับสามจังหวัดชายแดนใต้
นี่ยังไม่รวมหนังอาร์ตอีกนับสิบเรื่องที่ไม่ได้ฉาย
4.ระบบโครงสร้างของอุตสาหกรรมภาพยนต์และเงินทุน ที่ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพและเงินทุนไม่มากพอที่จะสร้างหนังฟร์อมยักษ์ระดับพันล้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายอย่างโรงถ่ายหนังขนาดยักษ์หรือการแข่งขันในวงการเอง ที่ตอนนี้มีค่ายหนังแค่ไม่กี่ค่ายที่แค่ทำหนังให้มีกำไรไปวันวันการผลิตหนังที่ยังน้อยเดือนหนึ่งจะมีหนังไทยเข้าฉายแค่2-3เรื่อง หรือไม่มีเรย และตลาดที่ขายได้แค่ประเทศไทยไม่เหมือนฮอลลีวูดที่ขายได้ทั่วโลก
5.บุคลากรในวงการภาพยนต์ อยากเป็นนักร้องไปประกวดเดอะสตาร์ เดอะว้อยซ์ อยากเป็นนักแสดงแต่หน้าตาไม่ดี อยากเป็นผู้กำกับนักเขียนบทแต่ไม่ได้เรียนมาด้านนี้ทำไงดีจะไปประกวดอะไร หางานตามหนังสือพิมพ์ก็ไม่มีที่ไหนรับสมัครผู้กำกับและผู้เขียนบทเรย นี่ล่ะปัญหาถ้าทุกคนที่รักในภาพยนต์ได้รับโอกาสตรงนี้คงมีผู้กำกับนักเขียนบทนักแสดงฝีมือดีประดับวงการอีกเยอะ ถ้าพูดชื่อผู้กำกับหรือนักแสดงในวงการคงมีแค่หยิบมือ และไม่มีใครที่มีฝีมือหรือมีเอกลักษณ์โดดเด่นเหมือนทางฝั่งฮอลลีวูดเรย หนังไทยจึงวนเวียนอยู่กับรสนิยมเดิมเดิมของผู้กำกับ ถ้าเปิดโอกาสบ้างเราคงได้เห็นโนแลนของเมืองไทยกับเขาบ้าง
หนังเรื่องเมาคลีที่เปิดโอกาสให้คนภายนอกเข้ามาแคสบทจนคัดเลือกเหลือคนเดียวจาก1500 คน แม้กระทั่งหนังบางเรื่องที่ดารามีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ต้องมาแคสบทเพื่อแย่งกัน
6.หนังดีหนังได้รางวัลมักเป็นหนังอาร์ต หนังดูยากทำไมไม่ทำให้เป็นหนังตลาดไปซะเรยแล้วทำไมบุคลากรเหล่านี้ไม่หันมาจับหนังตลาดเป็นเรื่องที่น่าขบคิด
สุดท้ายที่เขียนกะทู้นี้ไม่ได้คาดหวังให้สู้ฮอลลีวูดได้มันคงเป็นไปได้ยากแค่อยากเห็นวงการหนังไทยพัฒนามากขึ้นมีหนังที่หลากหลายแนวมากกว่านี้ อย่างน้อยหนังไทยได้ไปออสการ์แล้วคว้าภาพยนต์ต่างประเทศยอดเยี่ยมแฟนหนังคงดีใจเหมือนบอลไทยได้แชมป์บอลโลก