สูตรสำเร็จความรวยของแม่ค้าส้มตำ
"ส้มตำ".............เราบอกก่อนเลยว่า แต่ก่อนแม่เราก็เป็นแม่ค้าส้มตำแต่เพราะเรื่องสุขภาพทำให้แม่ต้องปิดร้านไป ระยะเวลาที่ปิดร้านไปก็ 7 ปีแล้วแต่มา ปีนี้แม่เราซึ่งมีเลือดแม่ค้าเต็มตัว แกไม่อยากนั่งนอนๆๆที่บ้านก็เลยก็หาอะไรมาขาย ก็เลยลงตัวที่ขายส้มตำ ทำไมถึงเลือกขายส้มตำ เพราะ
1.ที่บ้านชอบกิน ส้มตำ กินเป็นประจำ
2.รู้เรื่องเกี่ยวกับ ส้มตำเป็นอย่างดี เกือบทุกขั้นตอน
3.บ้านเราอยู่ที่นครพนม และ แถวบ้าน เป็นคนลุ่มแม่ น้ำสงคราม แม่น้ำโขง ทำให้มีปลาเยอะแยะจนสามารถนำมาทำปลาร้าได้มากมายและ ที่บ้านมีความรู้เกี่ยวกับปลาร้า
4.เงินลงทุนไม่เยอะ ไม่เสี่ยงต่อการเจ๊งแล้วหมดตัว
ในการลงทุนครั้งนี้ เราลงทุนไป 5000 บาท เพราะเราทำเป็นร้านเล็ก แม่ขายคนเดียว ขายแต่ส้มตำ และของกับแกล้ม เช่น แคบหมู และ ขนมจีน และอื่นๆๆอีก 2-3 อย่างเท่านั้น พวกเรามีอุปกรณ์ในการขายส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องมาลงทุนใหม่
5000 บาทนี้แบ่งเป็น ค่าอุปกรณ์เช่น พวกโถแก้ว ตะกล้า กระปุก ฯลฯ 1000 บาท
ค่าวัตถุดิบ เช่น มะละกอ พริก มะเขือเทศ น้ำปลา น้ำตาล ฯลฯ 1500 บาท
ค่าของกับแกล้มส้มตำ ที่ซื้อมาขาย1000 บาท
ปลาร้า ที่บ้านมีเยอะแยะ
มีดปอกเปลือก มีดขูด มีดสับ ครก สาก ตู้ ไหใส่ปลาร้า กะลังมังต่างๆ ฯลฯ ที่บ้านมีครบหมดแล้ว
เงินส่วนที่เหลือเก็บไว้หมุนเวียน
ในการเปิดร้าน 2 วันแรกไม่ได้ขายสักครก เพราะลูกค้ายังไม่รู้ว่า พวกเราขาย แถมเราก็ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย
วันที่ 3 ของการเปิดร้านมีลูกค้าเริ่มมาซื้อ ซึ่งก็เป็นลูกค้าเก่า ลูกค้าแซวแม่เราว่า ไปทำอะไรตั้งนานถึงเพิ่งมาเปิดร้าน
รอมาตั้งนาน ลูกค้ายังติดรสส้มตำแม่อยู่ วันนั้นขายได้ 500 บาท วันต่อมาก็เพิ่มเป็น 700 1000 บาท เราเปิดร้านมาได้
2 เดือน แล้ว รายได้แต่ละวันก็ตกประมาณ 1000-2000 บาท ซึ่งบอกไว้ก่อนว่าร้านเราอยู่ใน ตำบล ซึ่งขายได้ขนาดนี้ก็นับว่าดี
อีกทั้ง ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน เพราะขายที่หน้าบ้านตัวเอง บ้านไม่ได้เช่า ข้าวไม่ได้ซื้อ ขายได้ประมาณนี้เราก็พอใจแล้ว
แค่มีเงินไว้ กินอยู่ ทำบุญทำทาน ก็โอเคแล้ว อีกอย่างมีแม่ขายคนเดียว ถ้าขยายไปกว่านี้คงไม่ไหว เพราะ พ่อเราก็ทำงานประจำ และเราก็ทำธุรกิจของเรา
อยู่ที่จังหวัดใกล้เคียง แต่การซื้อของจะเป็นหน้าที่เรา เราจะซื้อของแล้วส่งไปกลับรถโดยสารประจำทางที่รู้จักกันไปส่งของถึงที่บ้าน
เพื่อลดความเหนื่อยให้แม่ โดยที่แม่มีหน้าที่ขายอย่างเดียว