Wolf Creek เมื่อหนังสยองขวัญทำลายการท่องเที่ยว
ถ้าพูดถึงประเทศที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดประเทศหนึ่งคงไม่พ้น ประเทศออสเตรเลียอย่างแน่นอน ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวปีล่ะหลายสิบล้านคนที่เดินทางมาจากทั่วโลกเพื่อสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติของดินแดนจิงโจ้แห่งนี้ทำให้ออสเตรเลียเป็นดินแดนที่ควักมือให้ทุกคนอยากไปสัมผัสเสมอมา
.
ทว่าสิ่งที่ทุกคนไม่รู้ก็คือ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีอัตราคนหายบ่อยครั้ง จากสถิติสำรวจในช่วงปี 2007-2008 มาพบว่ามีผู้หายตัวไปในออสเตรเลียเป็นจำนวนหลายร้อยคน แน่นอนว่ามีผู้เจอจำนวนประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่อีก 30 ไม่มีใครได้เจอพวกเขาอีกเลย แม้แต่ศพก็ยังไม่เจอเหมือนกัน
.
แน่นอนว่า ความจริงข้อนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลออสเตรเลียพยายามแก้ไข แต่ไม่สามารถแก้ไขได้เสียที แต่ที่น่าสนใจก็คือ มีนักทำหนังคนหนึ่งนำความจริงข้อนี้มาทำเป็นหนังสยองขวัญที่โด่งดังไปทั่วโลกแทน
.
นั่นคือ Wolf Creek
.
หนังว่าด้วยเรื่องราวของการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวในออสเตรเลียที่ตัวหนังสร้างฆาตกรโรคจิตที่ชื่อว่า ไมค์ เทย์เลอร์ ขึ้นมา และสมมติว่า ชายคนนี้อยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวในออสเตรเลีย ซึ่งหนังสร้างได้โหดดิบเถื่อนในแบบเดียวกับ Texas Chainsaw ของโทบี้ ฮูเปอร์ด้วยซ้ำ แต่ที่น่าสนใจคือ มันพูดถึงประเด็นว่าด้วยการสร้างภาพลักษณ์ผ่านภาพยนตร์ของออสเตรเลียด้วย
.
หากย้อนเวลากลับไปคนทั่วโลกรู้จักออสเตรเลียผ่านภาพยนตร์อย่าง Crocodile Dundee เรื่องราวของหนุ่มนักล่าพรานใจดีจากออสเตรเลียที่สร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้กับออสเตรเลียและผู้คนที่นี่ว่า เป็นคนใจดี ยิ้มแย้ม และประเทศนี้สวยงามเหมือนในหนัง ทว่าสิ่งที่เป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย
.
อย่างน้อยก็ยืนยันจากสถิติคนหายในออสเตรเลียที่สุดแล้วไม่มีใครรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่
.
แน่นอนว่าเมื่อมีพาเหรดบรรดาหนังสยองขวัญจากประเทออสเตรเลียที่ทำออกมามากมาย โดยเฉพาะ Wolf Creek ที่เสมือนเป็นด้านกลับของของคร็อคโคไดล์ ดันดีแล้ว ไม่แปลกที่ทางการออสเตรเลียจะบอกว่า หนังเรื่องนี้ทำลายการท่องเที่ยวของออสเตรเลีย
.
พร้อมกับเรียกร้องให้คนทำเลิกทำหนังแบบนี้เสียที
.
แต่คำตอบ เกร็ก แม็คคลีนนั้นกลับเป็นตะโกนด่าไปยังบรรดารัฐบาล ราชการ และผู้เกี่ยวข้องว่า
.
“ถ้าคิดว่า หนังของผมทำลายประเทศนี้ คุณควรเอาเวลาไปหาวิธีป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวหายไปสิเว้ย !!”
.
แม็คคลีนที่ทำหนังสะท้อนภาพอันตรายในออสเตรเลียผ่านหนังเรื่อง Wolf Creek และ Rouge(หนังจระเข้กินคนสุดโหด) กล่าวถึงความกังวลของบรรดารัฐที่มีต่อหนังของเขาว่า
.
“มันไร้สาระที่พวกเขาชี้นิ้วตรงมายังบรรดาหนังสยองขวัญที่หยิบเอาด้านมืดของประเทศนี้มานำมาเสนอแล้วบอกว่า หนังของผมหรือคนอื่น ๆ ทำลายการท่องเที่ยวของประเทศนี้ มันน่าตลก รัฐบาลสร้างภาพลักษณ์ผ่านหนังอย่าง คร็อกโคไดล์ ดันดี หรือ หมูพูดได้ ให้คนคิดว่าออสเตรเลียน่าอยู่ ผู้คนใจดีทั้งที่ไม่ใช่ ประเทศนี้ยังมีปัญหาคนหายที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี แทบเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายต่าง ๆ นานา พวกเขาควรจะเอาเวลาไปนั่งคิดว่า จะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายพวกนี้ยังไงมากกว่า”
.
แม็กลีนทิ้งท้าย