สเตฟานี่ เมเยอร์ ก่อนตะวันจะลับฟ้า
“เอ็ดเวริ์ดกลางแสงอาทิตย์นั้นช่างน่าตื่นตะลึง....”
.
นี่คือประโยคแรกที่สเตฟานี่ เมเยอร์ คุณแม่ลูกสาม ชาวอเมริกันเริ่มต้นเขียนถึงผลงานนิยายของเธอที่จะสร้างปรากฏการณ์หนังสือขายดีระดับโลกที่ก่อกระแสแวมไพร์โรแมนติคที่กลายเป็นหนังทำเงินทั่วโลกไปกว่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ทีเดียว
.
จุดเริ่มต้นของมันมาจากความฝัน
.
“ฉันได้เห็นภาพบางอย่างในความฝันอันชัดเจนและสมจริง มันคือทุ่งหญ้าแห่งหนึ่ง มีหนุ่มรูปงามที่มีร่างกายเรืองรองอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ เขากำลังคุยอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่กำลังตกอยู่ในห้วงรัก และตอนนี้เด็กหนุ่มก็กำลังพรรณาถึงความยากลำบากในการหักห้ามใจไม่ให้ถูกวิสัยกระหายเลือดครอบงำจนพลั้งมือฆ่าเธอ ใช่แล้ว เขาคือ แวมไพร์ ผู้ปรารถนาในเลือดอุ่น ๆ จากกายมนุษย์อย่างเรา ๆ”
.
เมเยอร์บรรยายถึงความฝันของเธอด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
.
“มันชัดเจนมากจนฉันไม่อยากลืม”
.
หลังจากตื่นจากความฝันเมเยอร์ตัดสินใจลุกขึ้นมาเตรียมทำนิยายเรื่องนี้ ด้วยความเป็นคุณแม่ลูกสาม เธอต้องทำงานในบ้านให้เสร็จก่อน จากนั้นก็กลับมาเขียนเนื้อหาในส่วนนี้ก่อนเป็นส่วนแรก เธอเขียนมันไปถึง 10 หน้า และกลายเป็นบทที่ 13 ในเนื้อหาที่มีชื่อว่า คำสารภาพ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของเรื่องนี้ที่พระเอกของเรื่องอย่าง เอ็ดเวริ์ด สารภาพความจริงกับนางเอกว่า เขาคือ แวมไพร์
.
และเธอก็ไม่เคยหยุดเขียนอีกเลย
.
“การเขียนมันก็เหมือนการเติมน้ำมันแหละ มันสร้างความอิ่มเอมให้ฉัน ฉันรู้สึกสาแก่ใจและอัดอั้นมาตลอด ในที่สุดฉันก็พบทางออกของฉันซะที”
.
ไม่นานนัก ผลงานของเมเยอร์ก็ค่อย ๆ เป็นรุปเป็นร่างขึ้นมาทีล่ะน้อย เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า เบลล่า ที่พึ่งย้ายจากเมืองใหญ่มายังเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในรัฐวอชิงตัน ที่เมเยอร์ยืนยันแล้วว่า เธอไม่เคยไปทีเมืองนี้มาก่อนจนกระทั่งเขียนเสร็จ เธอบอกว่า มันเป็นการเขียนที่สนุกสนานมากชองเธอ
.
เมเยอร์ยอมรับว่า เธอหลงใหลในงานเขียนอย่างมาก เธอแทบไม่ติดต่อกับใคร ไม่ไปไหน เมเยอร์แทบตัดขาดจากเพื่อนฝูง เธอเลิกเข้าชมรมนักอ่าน ไม่ได้เข้าโรงหนัง เพราะทนไม่ได้ที่ต้องห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ด้วยซ้ำ
.
ใช้เวลาสามเดือน นิยายเรื่องนี้จึงเสร็จสมบูรณ์ เธอตั้งชื่อมันว่า Forks ตามชื่อเมืองในนิยาย และส่งมันไปยังเอเยนซี่นิยายต่าง ๆ ในอเมริกาถึง 15 แห่ง มี 9 แห่งที่ตอบปฏิเสธ และ 5 แห่งไม่มีปฏิกิริยาตอบใด ๆ จะมีเพียงแค่อย่าง Writer House ที่โทรมาขออ่านสามบทแรกก่อนจะรับเมเยอร์เป็นลูกค้าคนสำคัญ
.
ด้วยคำแนะนำจาดเอเยนต์ เมเยอร์ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อนิยายตัวเองมาเป็น Twilight และได้รับโอกาสเซ็นสัญญากับสำนักพิมพ์ด้วยค่าตัวสูงถึง 750000 เหรียญทีเดียว สำหรับนักเขียนหน้าใหม่ที่ไม่เคยมีผลงานมาก่อนแบบเธอ
.
คงไม่ต้องบอกว่า หลังจากงานเรื่องนี้จะกลายเป็นผลงานที่สร้างปรากฏการณ์ในเวลาต่อมา
.
จนหลายคนเบื่อแวมไพร์เรื่องนี้กันไปเลย