โรงไฟฟ้าถ่านหินของอินเดีย ทยอยปิดเพราะขาดน้ำ
เขียน โดย บ็อบ เบอร์ตัน และ อาชิซ เฟอร์นานเดส
แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าถ่านหินอีกสองหรือสามเท่าตัว ภาคพลังงานของอินเดียกำลังเผชิญภาวะขาดแคลนน้ำ รายงานล่าสุดมีข้อมูลเตือนถึงวิกฤตที่หากยิ่งปล่อยไว้นานก็จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น
ช่วงต้นปีที่ผ่านมา การผลิตไฟฟ้าถ่านหินฟารักกา (Farakka power station) ขนาด 2,100 เมกะวัตต์ ในเวสต์เบงกอล ต้องสั่งยุติเดินเครื่องกังหันห้าตัวจากทั้งหมดที่มีอยู่หกตัว เพราะไม่มีน้ำใช้ในการผลิต
อีกสองสามวันหลังจากนั้น ก็สั่งยุติการทำงานของเครื่องตัวที่หก ที่มีขนาด 500 เมกะวัตต์ การขาดแคลนน้ำทำให้ไม่มีแม้น้ำประปาเพียงพอให้คนงานที่ทำงานในโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองใกล้ ๆ ใช้ เนื่องจากต้องผันน้ำมาป้อนโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าให้ทั้งห้ารัฐซึ่งผู้ผลิตโครงข่ายพลังงานต่างแย่งชิงทรัพยากรเพื่อตอบสนองความต้องการใช้ ทั้งนี้มีการประเมินว่า จะไม่มีน้ำเพียงพอที่จะเปิดเครื่องผลิตไฟฟ้าถ่านหินได้จนถึงวันที่ 25 มีนาคม หรือ 13 วันหลังจากที่เครื่องแรกหยุดการผลิต
อ่านเพิ่มเติม
Investigation: Coal plants risk global water shortage
How coal is pushing China’s water supplies to the limit
India has a growing coal glut
โรงไฟฟ้าถ่านหินไรเชอร์ เธอร์มัล (Raichur Thermal Power Station)ในรัฐการ์นาตากาขนาด 1,720 เมกะวัตต์ ก็ประสบภาวะขาดน้ำเช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2559 และเริ่มปิดเครื่องไปแล้วหลายเครื่อง เมื่อโรงไฟฟ้าถ่านหินปิด จึงไม่มีการผลิตและเดินเครื่อง ถ่านหินที่นำเข้ามาจึงกองเพิ่มขึ้นและขาดแคลนที่เก็บถ่านหิน
วิกฤตน้ำในอินเดีย
ปัญหานี้ใหญ่กว่าแค่การต้องปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินฟารักกา และโรงไฟฟ้าถ่านหินไรเชอร์ แต่อินเดียได้ประสบภาวะยึดเกาะกับวิกฤตน้ำที่รุนแรงมากขึ้น
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการส่วนกลางด้านน้ำได้คำนวนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 91 แห่งทั่วประเทศ พบว่าเหลืออยู่เพียงร้อยละ 27 ของปริมาณการกักเก็บทั้งหมด หมายความว่า อินเดียมีปริมาณน้ำเหลืออยู่มากกว่าหนึ่งในสี่ แต่น้อยกว่าปริมาณเฉลี่ยของปริมาณน้ำกว่าทศวรรษที่แล้ว
การผันน้ำให้กับโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลักจะส่งผลให้ราคาน้ำใช้เพื่อการบริโภค เกษตรกรรม และอุตสาหกรรมอื่น ๆ แพงหรือไม่ หรือภาคพลังงานจำต้องมีมาตรการบังคับให้โรงไฟฟ้าถ่านหินใช้น้ำให้น้อย (หรือไม่ใช้) ในช่วงเวลาที่น้ำน้อยเช่นนี้
สาเหตุของภาวะขาดแคลนน้ำที่โรงไฟฟ้าถ่านหิน ฟารักกา เป็นส่วนหนึ่งจากข้อเรียกร้องภายใต้สนธิสัญญาเกี่ยวกับน้ำของฟารักกา 1996 ที่ระบุให้ต้องแบ่งปันน้ำกับเพื่อนบ้าน เช่น บังคลาเทศ ปรากฎการณ์ที่ต้องปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเพราะการขาดแคลนน้ำ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่
ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน 9 เดือน
โรงไฟฟ้าถ่านหินพาร์ลี (Parli power station) ซึ่งมีกำลังผลิตขนาด 1,130 เมกะวัตต์ ในรัฐมหารัชตระ ก็ปิดไปแล้วตั้งแต่กรกฎาคม ปี 2558 เพราะน้ำไม่พอสำหรับการผลิต
ห้าปีก่อนหน้านั้นการไฟฟ้ามหาเจนโก (MahaGenco) ซึ่งรัฐบาลของรัฐมหารัชตระเป็นเจ้าของก็ต้องปิดหลายเครื่องผลิตที่โรงไฟฟ้าถ่านหินจันทราปุระ (Chandrapur Thermal Power Station) ที่มีกำลังผลิตขนาด 2,340 เมกะวัตต์ เนื่องด้วยผลกระทบจากภัยแล้ง
การก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาปุระ (Solapur power plant) ของเอ็นทีพีซี NTPC ในรัฐมหารัชตระ ก็ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากคำถามที่ไม่มีใครตอบได้ว่า จะเอาน้ำจากที่ไหนมาใช้ การขาดแคลนน้ำยังก่อภาวะฝืดทางการเงินของบริษัทผลิตไฟฟ้าด้วย
ถ่านหินและน้ำ: ปัญหาระดับโลก
รายงานของกรีนพีซ ย้ำว่า หากรัฐบาลอินเดียยังจะผลักดันให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน วิกฤตน้ำที่เกิดขึ้นจะยิ่งย่ำแย่ลงไปอย่างชัดเจน รายงานฉบับเดียวกันนี้ ได้ประเมินว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 17 กิกะวัตต์ (หรือ 17,000 เมกะวัตต์) ที่มีการเสนอจะใช้ถ่านหินของอินเดียร้อยละ 40 ก็จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างมากถึงมากที่สุด ในหลายพื้นที่
ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินในระบบหล่อเย็นแบบแห้งน่าจะเป็นไปได้มากกว่าในทางเทคนิค แต่มีต้นทุนแพงกว่าและใช้ถ่านหินเยอะกว่า และต้องการน้ำสำหรับเพิ่มไอน้ำ เพื่อหมุนใบพัด
กลุ่มประชาสังคมหลายกลุ่มได้หยิบยกวิกฤตน้ำในปัจจุบัน จากการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหินมาหลายปีแล้ว รายงานเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 เรื่อง Thermal Power Plants on The Anvil: Implications And Need For Rationalisation ของบริษัท ปรายาส เอนเนอร์ยี กรุ๊ป (Prayas Energy Group) เป็นลางบอกเหตุถึงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินระบบหล่อเย็น ที่ใช้น้ำมากมหาศาลกว่าเดิมนั้น จะเป็นสาเหตุของ “การขาดแคลนน้ำครั้งมโหฬาร” ในแหล่งน้ำหลายแห่ง ในหลายพื้นที่ใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าถ่านหินอย่างเฉียบพลันและเห็นเด่นชัด
ในรายงานครั้งนั้น มีการเตือนถึงความผันแปรของปริมาณฝนประจำปี ที่ไม่สามารถยืนยันว่าปริมาณน้ำในรอบปีจะมีเพียงพอสำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่
ถึงเวลาของพลังงานหมุนเวียน
รัฐบาลของนายโมดิ ให้ความสนใจต่อการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่ยังเหลืออยู่ และ เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน และปรับโครงสร้างการเงินของโรงไฟฟ้าที่ใกล้จะล้มละลาย โดยให้ความสนใจเพียงเล็กน้อยกับเค้าลางของวิกฤตน้ำ
การจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ค้างไว้ให้แล้วเสร็จนั้นดูท่าแล้วจะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งภายใต้ภาวะการขาดแคลนน้ำแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ฤดูมรสุมของอินเดียถี่ขึ้นและคาดการณ์ไม่ได้เลย
หากวิกฤตน้ำยังคงดำเนินอยู่อย่างรุนแรงมากขึ้น ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้รัฐบาลอินเดียเร่งให้มีการผลิตพลังงานหมุนเวียนโดยไม่ใช้น้ำ ให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น
เวอร์ชั่นนี้เป็นฉบับแก้ไขจากบทความโดยองค์กร EndCoal
แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในเว็บไซต์ energydesk.greenpeace.org โดย บ็อบ เบอร์ตัน บรรณาธิการแห่ง CoalWire แถลงการณ์รายสัปดาห์ของภาคการพัฒนาอุตสาหกรรมถ่านหินทั่วโลก และ อาซิช เฟอร์นานเดส เจ้าหน้าที่รณรงค์อาวุโสของกรีนพีซ
ที่มา: Greenpeace Thailand