เบื้องหลัง เล่นซ่อนหาย (Gone Girl)
“ฉันชอบไอเดียว่า ใครฆ่า ที่เกิดขึ้นหมู่คู่สมรสคู่หนึ่ง หนังสือของฉันก่อนหน้านี้มีตัวเดินเรื่องที่โดดเดี่ยวมาก มันพูดถึงเรื่องความเหงาและแปลกแยก ฉันสำรวจประเด็นนั้นจนทะลุปรุโปร่งแล้ว เลยอยากทำอะไรตรงกันข้ามดูบ้าง ฉันอยากจะเขียนถึงคนสองคนที่รู้จักกันดี อยู่ด้วยกันตลอดเวลาทั้งสุขและทุกข์ รู้วิธีกระตุ้นกันและกัน แต่ไม่รู้ว่า อีกคนอันตรายสุดขั้วขนาดไหน”
.
กิลเลียน ฟลินน์ นักเขียนสาวชาวอเมริกันผู้เขียนหนังสืออาชญกรรมชื่อดังอย่าง Gone Girl กล่าวถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอเขียนหนังสือเรื่องนี้ขึ้นมาและกลายเป็นหนังชิงออสการ์ของเบน อัฟเฟลค และ เดวิด ฟิชเชอร์
.
ยอดขายของ Gone Girl สูงถึง 1.8 ล้านเล่มในระยะไม่นาน ขึ้นอันดับหนึ่งของหนังสือขายดีของนิวยอร์ค ไทม์เป็นเวลาถึง 8 สัปดาห์ทีเดียว แล้วถูกฟ็อกซ์ซื้อสิทธิไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยราคาถึง 1.5 ล้านโดยการอำนวยการสร้างของรีส วินเทอร์สปูน
.
“วิธีการที่เธอทำเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก”
.
รีสกล่าว
.
“คุณคาดเดาเรื่องต่อไม่ถูกว่ามันจะจบลงตรงไหน มันเป็นหนึ่งในในหนังสือที่คุณหยุดอ่านไม่ได้ เมื่อ 2ปีก่อน ฉันตัดสินใจว่าจะกลับไปค้นหาโปรเจ็ทต์ที่มีตัวละครหญิงดี ๆ มาโปรดิวซ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ฉันเจอ”
.
ความร้อนแรงของฟลินน์มาจากความสามารถของเธอที่เคยอยากเป็นนักข่าวอาชญากรรมมาก่อน เธอเริ่มเรียนคณะวารสารจากมหาวิทยาลัยแคนซัส และได้ปริญญาโทที่นอร์ธเวสเทริ์น แต่สอบไม่ได้ผ่านการเป้นนักข่าวอาชญากรรมเพราะ เธอไม่มีคุณสมบัติบางอย่าง
.
“ฉันอยากเป็นนักข่าวอาชญากรรมแต่ก็พบว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่นั้นได้ดีพอ เพราะฉันไม่มั่นใจในตัวเองและใจเสาะเกินไป แต่ฉันก็รักงานวารสาร พ่อฉันเป็นศาสตราจารย์ด้านภาพยนตร์ แม่พร่ำสอนเรื่องการอ่าน ฉันโตมาในบ้านที่มีแต่กองหนังสือเลยรีบมาสมัครงานที่ Entertainment Weekly ทันที่เรียนจบปริญญาโท”
.
พอถามว่า ทำไมถึงฮอลลีวู้ดถึงงานเขียนเรื่องอาชญนิยายของเธอ ฟลินน์ตอบว่า
.
“มันเป็นเรื่องฆาตกรรมลึกลับ แต่ก็ดำเนินโดยตัวละครที่แข็งแรง ฉันดีใจที่ตอนนี้มีคนสนใจเรื่องตัวละครกับการสำรวจสภาพจิตใจและปูมหลังกันมากขึ้น ไม่ใช่แค่เล่าเรื่องที่มีแอ็คชั่นเป็นตัวผลักดันเนื้อหา มันมีตัวละครสาวแกร่ง นักแสดงหญิงหลายคนคงอยากพิสูจน์ว่าสามารถแสดงนำในหนังมืด ๆ ที่น่าสนใจและไม่กลัวที่จะรับบทนำในหนังพวกนี้ด้วย”
.
ซึ่ง Gone Girl นั้นเธอลงมือเขียนบทด้วยตัวเองและแก้ไขบางส่วนให้แตกต่างจากฉบับนิยายไปมากทีเดียว
.
และหนังสือของเธอเองยังคงแรงต่อเนื่อง เมื่อหนังสือเล่มแรก ๆ อย่าง Sharp Object และ Dark Place ได้รับการซื้อไปทำเป็นภาพยนตร์ทั้งสิ้น แถมยังได้ดาราใหญ่อย่าง ชาร์ลิซ เทย์รอน มารับบทนำอีกด้วย
.
ซึ่งความสำเร็จนี้เองทำให้ เธอวางแผนสำหรับงานเขียนเรื่องต่อไปแล้ว
.
“งานต่อไปของฉันเป็นแนวอาชญนิยายอีกแหละค่ะ ฉันกำลังสนุกกับการพาไปสำรวจด้านมืดในจิตใจมนุษย์อยู่เหมือนเดิมค่ะ”