ดร.สมคิดเลิกทำบ้านประชารัฐ ยังเหลือเกือบ 30,000 หน่วย
รัฐบาลโดยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดร.สมคิด พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบต่าง ๆ หนึ่งในความพยายามนั้นก็คือการสร้างบ้านประชารัฐ แต่ ดร.โสภณ ชี้ว่า "เลิกทำบ้านประชารัฐได้แล้ว" เพราะยังเหลืออีกมหาศาล
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th) กล่าวว่า ณ กลางปี 2559 มีที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทตามเกณฑ์ของรัฐบาลเหลืออยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถึง 28,612 หน่วย รวมมูลค่า 31,546 ล้านบาท เฉลี่ยหน่วยละ 1.103 ล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่จำเป็นต้องนำเงินภาษีอากรของประชาชนไปใช้อุดหนุนโครงการบ้านประชารัฐ ควรนำเงินไปใช้ในการพัฒนาประเทศทางอื่นมากกว่า
จะเห็นได้ว่า มีบ้านเดี่ยว (ทรงอิสระ) ซึ่งเป็นการจัดสรรแบบ "อาจผิดกฎหมาย" จำนวน 134 หน่วย ๆ ละ 859,000 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ตั้งอยู่แถวหนองจอก นอกจากนั้นยังมีบ้านแฝดและตึกแถวอีกจำนวนหนึ่ง แต่โดยหลักแล้วเป็นห้องชุดจำนวน 23,773 หน่วย และทาวน์เฮาส์อีก 4,514 หน่วย จากประจักษ์หลักฐานเหล่านี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่า การสร้างบ้านประชารัฐเพิ่มเติม รังแต่จะสร้างอุปทานเพิ่ม กลายเป็นการซ้ำเติมตลาดที่อยู่อยู่อาศัย แทนที่รัฐจะได้ภาษีมาพัฒนาประเทศ กลับนำภาษีไปอุดหนุนโครงการที่ไม่มีความจำเป็นนี้อีก นับเป็นนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่คิดโดยทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลที่นำโดย ดร.สมคิด
ยิ่งหากนำบ้าน (บ้านแนวราบและห้องชุดรวมกัน) ราคาระหว่าง 1.51-2.0 ล้านบาทมาประกอบการพิจารณาด้วยแล้ว ปรากฏว่ายังมีบ้านที่รอการขายอีก 27,189 หน่วย รวมแล้วบ้านที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทที่รอการขายอยู่ในขณะนี้ มีอยู่ทั้งหมด 55,801 หน่วย จึงไม่ควรสร้างบ้านราคาถูกประเภทนี้เข้ามาในตลาดอีก ยิ่งกว่านั้นหากเจาะลึกเฉพาะบ้านที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ก็มีอยู่ถึง 10,543 หน่วย เพียงพอที่จะรับประชากรอีกถึง 30,000 คนโดยประมาณ (ครอบครัวละ 3 คน)
ดังนั้นการสร้างบ้านประชารัฐจึงเป็นนโยบายที่ควรทบทวนเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ รัฐบาลจึงควรเลิกทำได้แล้ว และนำที่ดินที่พอมีศักยภาพในการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ออกประมูลเพื่อนำเงินรายได้เข้ามาพัฒนาประเทศ จะเป็นลู่ทางที่ดีกว่านั่นเอง
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1493.htm