เพลง ธุรกิจ และ สงคราม
ถ้าพูดถึงชื่อ คริสโตเฟอร์ วอลเลซ คงยากที่จะมีคนรู้จักว่า เขาคนนี้คือใคร แต่ถ้าเป็นสาวกเพลงแร๊ปเปอร์แล้วล่พก็ย่อมต้องรู้จักเขาในนามของ ไนโตรเรียส บี ไอ จี เป็นแน่แท้ เพราะ ชายหนุ่มผิวสีร่างอ้วนคนนี้คือ หนึ่งในศิลปินเพลงแร๊ปที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งในช่วงยุค 90 และเป็นชายหนุ่มที่ต้องจบชีวิตลงด้วยวัยอันสั้นด้วยกระสุนปืน
.
คริสโตเฟอร์ วอลเลซ หรือเรียกกันว่า บิกกี้ สมอล เป็นชายหนุ่มที่เติบโตในย่านบรู้กลินในนิวยอร์คในครอบครัวที่ยากจน และเต็มไปด้วยอาชญากรรม ตั้งแต่จำความได้เขานั้นยุ่งเกี่ยวกับพวกยาเสพติดมาแทบตลอด แม้ว่า เขาจะไม่อยากทำงานนี้ แต่เพื่อช่วยเหลือแม่ของเขา เด็กอ้วนคนนี้จึงพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองมีเงิน แต่โชคชะตาไม่เข้าข้างเขาเท่าไหร่นัก จนถูกจับหลายครั้ง แต่ก็ออกมาได้และต้องทำงานปากกัดตีนถีบเพื่อให้ตัวเองมีเงินอย่างเต็มที่
.
ด้วยความชื่นชอบเพลงแร๊ปอย่างมาก บิกกี้ สมอล คนนี้ได้เริ่มร้องเพลงแร็ปตั้งแต่อายุ 14 ขวบ ฝึกฝนร้องมันอย่างเต็มที่เพื่อบอกเล่าราวเส้งเคร้งของตัวเอง เพลงแร็ปของเขามาจากการฝึกฝนด้วยตัวเอง และ เขาร้องมันมาเรื่อย ๆ ตรงข้างถนนจนกระทั่งอายุได้ 20 ปี เขาจึงมีโอกาสได้พบกับ ณอน พัฟฟี่ แดดดี้ แห่งแบดบอยเอ็นเตอร์เทรนเม้นต์ได้เซ็นสัญญาเขาเข้าไปในสังกัด
.
ในปี 1994 ตัวของบิกกี้ สมอลได้ออกอัลบั้มแร๊ปชุดแรกของตนเองในชื่อว่า Ready to die ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขายมหาศาล และทำให้เขาเป็นซุปเปอร์สตาร์ด้านเพลงแร็ปสาย อีสต์โคสต์ฮิปฮอป ของค่ายแบดบอย ที่ตัวเขามีส่วนร่วมในสงครามการต่อสู้ระหว่างสองค่ายเพลงฮิปฮอปอย่าง แบดบอย เอนเตอร์เทนเมนต์ ค่ายเพลงแห่งนิวยอร์ก กับ เดธ โรว์ เรคอร์ดส จากลอสแองเจลิส ในช่วงยุค 90 ทันที
.
แน่ล่ะว่า ความโด่งดังนี้ทำให้เขาได้พบกับความขัดแย้งกับ ทูแพค ซุปเปอร์สตาร์ของเดธ โรว์ ไปด้วย ทั้งสองคนเปิดศึกกันบ่อยครั้งจนหลายคนบอกว่า พวกเขาอาจจะฆ่ากันเองในสักวันแน่ ๆ
.
ชีวิตส่วนตัวของบิกกี้ สมอล นั้นถือว่าน่าสนใจ เขามีภรรยาสองคน ซึ่งต่อมาได้เจริญรอยตามเขาเข้าสู่วงการเพลงทั้งคู่ และ ลูกชายของเขากำลังดำเนินตามรอยพ่อเข้าวงการไปอีกคนเช่นกัน
.
ความโด่งดังของเขานั้นกำลังมาถึงขีดสุดเมื่ออัลบั้มที่สองของเขากำลังจะวางขายในอีกไม่นานนัก
.
ทว่า เขาไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จนั้น
.
วันที่ 9 มีนาคม 1997 วงการเพลงแร๊ปก็ได้รับข่าวร้ายชวนช็อคเมื่อ บี ไอ จี หรือ ไนโตรเรียส นั้นได้เสียชีวิตด้วยการลอบสังหารอย่างอุกอาจกลางสาธารณชน มือปืนได้ยิงกระหน่ำใส่ร่างของเขาขณะนั่งอยู่ในรถจีเอ็มซี ระหว่างที่รถจอดอยู่บนหัวมุมถนนวิลไชร์ บูเลอวาร์ด ท่ามกลางพยานและผู้คนจำนวนนับสิบคนที่เห็นเหตุการณ์นี้
.
แต่น่าแปลกที่ปัจจุบันยังไม่มีใครจับมือปืนคนนี้ได้ แม้จะมีการสเก็ตหน้าคนร้ายแล้วก็ตาม ทุกวันนี้คดียังคงลอยนวล
.
สาเหตุการตายของเขานั้นถูกมุ่งเล็งไปยังความขัดแย้งระหว่างเพลงแร็ปสองขั้ว และ สองค่ายที่เปิดศึกกันมานานนับปี ซึ่งเขาเป็นคนที่ถูกจับตามมองว่า น่าจะมีส่วนในการเสียชีวิตของ แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง ทูแพ็ค นั่นเอง
.
ก่อนหน้านี้หนึ่งปี ทูแพ็คก็ถุกยิงตายเช่นกัน
.
แถมยังหามือปืนไม่ได้ด้วยว่า ใครเป็นคนฆ่าพวกเขาทั้งสองคนอีกด้วย
.
แน่ล่ะว่า ภายหลังการตายของบีไอจีนั้น เพลงชุดที่สองในชีวิตของเขาก็เสร็จสมบูรณ์และออกวางจำหน่ายในเวลา 15 วันต่อมาในชื่อชุดว่า Life After Death ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งยอดขายที่ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดได้อย่างรวดเร็ว และได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล
.
ซึ่งหลังการเสียชีวิตของเขา เขายังมีเพลงออกมาวางขายอีกถึงสามชุดและก็ขายดีเช่นกัน
.
แถมหลังการตายของทั้งคู่ก็ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองขั้วแร็ปจบลงไปด้วย
.
กระนั้นเองเรื่องราวและเสียงเพลงของบีไอจียังคงอยู่ เพราะเพลงของเขานั้นบอกเล่าความคับแค้นและชะตากรรมอันเจ็บปวดในวัยเด็กของตัวเองที่เป็นเสมือนกำลังใจให้ทุกคนต้องสู้กันต่อไป
.
แบบที่ดินอย่างเขา กลายเป็นดาวค้างฟ้า
.
เพราะความตั้งใจของเขานั้นเอง