ชีวิตที่ถูกเหยียบย่ำ ฌอง คล็อด แวน แดมม์
เชื่อหรือไม่ว่า ครั้งหนึ่งค่าตัวของดารานักบู้คนนี้อยู่ในระดับไม่ถึง 10000 เหรียญทั้งที่ในช่วงยุค 90 เขามีค่าตัวเหยียบล้านเหรียญ
.
เชื่อหรือไม่ว่า เขาได้รับการโหวตให้เป็นนักแสดงยอดเยี่ยมอันดับสองในปี 2009 รองมาจาก ฮีธ เลดเจอร์ที่รับบท โจ๊กเกอร์ใน The Dark Knight ทั้งที่หลายคนเคยปรามาสเขาว่า ทำได้แค่ฉีกขาด เตะต่อยศัตรูอย่างเดียวเท่านั้น
.
ใช่แล้วนี่คือ ชีวิตของอดีตดาราแอ็คชั่นชื่อดัง ฌอง คล็อด แวน แดมม์
.
“ยุคสมัยของผมมันเปลี่ยนไปเร็วมาก”
.
อดีตแชมป์คาราเต้สายดำ และ แชมป์ Kickboxing ผันตัวเข้าสู่วงการหนังด้วยหนังแอ็คชั่นเกรดบีก่อนจะขึ้นมาเป็นดาราแอ็คชั่นระดับแถวหน้าด้วยหนังอย่าง Hard Target , TimeCop , Universal Soldier หรือ กระทั่ง Sudden Death แม้จะไม่ได้อยู่ในชั้นเดียวกับดารานักบู้ตัวพ่ออย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์ซเน็กเกอร์ , ซิสเวสเตอร์ สอตลโลน หรือ บรูซ วิลลิส ก็ตาม แต่หนังของเขาทำเงินทุกเรื่อง ทว่า ความนิยมของหนังแนวแอ็คชั่นฮีโร่ก็หมดลงไปเหมือนไฟเฮือกสุดท้าย ผู้คนเบื่อหนังของเขา รวมทั้งนักบู้คนอื่น ๆ แล้ว ส่วนตัวแวนแดมก็ไปเล่นในหนังแอ็คชั่นที่สร้างมาจากเกมอย่าง Street Fighter the Movie เข้า แม้จะทำเงิน แต่ก็โดนด่าจากแฟน ๆ ที่บอกว่า ไม่เคยเคารพเกมเลย
.
หลังจากนั้นหนังที่เขาเล่นทุกเรื่องก็เจ๊งจนต้องไปเล่นในหนังเกรดบีส่งลงวีดีโอประกอบกับชีวิตเหลวแหลกที่มาพร้อมกับความตกต่ำ
.
“ช่วงนั้นผมหลงระเริงไปกับชื่อเสียงมาก ใช้เงินเป็นตับ เล่นยา มีผู้หญิงวันล่ะหลาย ๆ คน ผมไม่สนใจอะไร เพราะคิดว่า เงินมันหาง่าย ๆ”
.
ความลำบากในช่วงชีวิตนั้นทำให้แวนแดมทะเลาะกับภรรยาก่อนจะเลิกรากันไป ทั้ง ๆ ที่มีลูกด้วยกัน ตัวเขาเองก็พบว่า อาชีพของเขาย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ แม้กระทั่งต้องไปเล่นหนังด้วยราคาสุดถูก เพราะ เขาไม่มีกระทั่งเงินเหลือเลยด้วยซ้ำ
.
“ผู้กำกับบางคนก็แค่อยากได้แค่ชื่อผมไปแปะบนหนังตัวเอง บอกว่า นี่มีแวนแดมมาเล่นนะ แค่นั้นแหละ ผมก็ได้ค่าจ้างเท่านั้น”
.
ทว่าแวนแดมก็ไมยอมแพ้
.
ปกติแล้วในวงการภาพยนตร์ ดาราหลายคนที่อยู่ในช่วงตกต่ำหรือบั้นหลายอาชีพมักจะหันไปทำอย่างอื่น หรือ ไม่ก็ไปทำอาชะอื่น แต่ตัวแวนแดมไม่ เขายังคงมุ่งมั่นต่อที่จะกลับมาในอาชีพการแสดงของเขาอีกครั้ง และ เหมือนจะทำสำเร็จในเรื่อง JCVD ที่ส่งให้เขาได้รับคำวิจารณ์ในฐานะนักแสดงยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโตและกรุงโรมได้สำเร็จในบทที่เล่นเป็นตัวเขาเอง
.
“ผมตัดสินใจแล้วที่จะเล่าทุกสิ่งให้ฟังแบบไม่ปิดบังใด ๆ”
.
แวนแดมกล่าวถึงหนังเรื่องนี้ที่เขาตัดสินใจนำเรื่องราวของตัวเองมาบอกเล่าให้ฟังอย่างเต็มที่ ชีวิตอันรุ่งโรจน์และตกต่ำของเขาถูกบอกเล่าผ่านปากที่หลายคนชมแล้วยังรู้สึกน้ำตาซึมถึงภาพนักบู้คนนี้ที่ต้องพบเจอความวิบัติในชีวิตที่ฟังแล้วมันน่าขำที่เขาเคยเป็นราชาตอนนี้กลายเป็นยาจกคนหนึ่ง
.
“มันคือ การไถ่บาปในอดีตของผม”
.
แวนแดมกล่าว
.
“เขาโคตรใจถึงเลยที่ยอมให้คนหัวเราะเยาะเขามากกว่าที่จะยอมแพ้”
.
บรรดานักวิจารณ์ยกนิ้วให้เขาและชื่นชมการแสดงและเรื่องราวที่แวนแดมนำเสนออย่างยิ่ง อย่างที่เห็นหนังได้รับการวิจารณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เว็บไซส์ Rottentomatos ถึง 83 เปอร์เซ็นต์เป็นหนังที่ได้รับวิจารณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาทีเดียว
.
นอกจากแสดงหนังเกรดบีเหมือนที่ทำเป็นประจำแล้วแวนแดมยังมีโอกาสเป็นโปรดิวเซอร์และทำหนังที่มีเรื่องราวใหม่ ๆ ออกมาเสมอ โดยเปิดบริษัทผลิตหนังที่ชื่อ Full Love Production ที่ทำหน้าที่ผลิตหนังออกมาโดยไม่จำกัดว่าต้องหนังแอ็คชั่นเพียงเดียว ขอมีเรื่องราวน่าสนใจก็พอ
.
“ผมต้องการขับเคลื่อนอาชีพไปข้างหน้า อยากฟื้นสถานะตัวเอง พยายามมองหาเส้นทางใหม่มากกว่าหนึ่งทางเลือก นี่คือ ก้าวแรกของผม”
.
ปัจจุบันแวนแดมยังมีงานแสดงหนังเกรดบีสลับกับหนังใหญ่อย่าง Expendables 2 (ที่เจ้าตัวบอกว่า การแสดงในหนังเรื่องนี้ทำให้ดีวีดีหนังยุคเก่าของเขากลับมาขายดี) หรือหนังแบบ กังฟูแพนด้าเป็นต้น ซึ่งเป็นผลพวงของการทำงานหนักและที่พิสูจน์ตัวเองของเขามาตลอดหลายปี
.
“ชีวิตในวงการนี้มันเหมือนเดิมไปเจอภูเขา คุณต้องเลือกว่าจะยืนมองหรือปีนมันขึ้นไป ถ้าคุณไปโดยไร้ความเชื่อมั่น มันจะกัดกร่อนจิตใจของคุณจนล้มคว่ำแบบไม่รู้ตัว ผมเคยตั้งความหวังเอาไว้สูงสุดนะ แต่ไม่เป็นแบบนั้น ผมไม่เคยไปถึงจุดสูงสุด ผมอยากทำหนังออกมาให้ดีที่สุดไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”
.
สุดท้ายแล้วแวนแดมยังคงทำหนังต่อไปและไม่แปลกที่แฟนหนังแอ็คชั่นจะต้อนรับเขาอย่างดี
.
“ชีวิตคนเรามันก็เหมือนเมล็ดพืช ถึงเหยียบจมดินเท่าไหร่ก็งอกออกมาเป็นต้นไม้ได้เสมอ”
.
แวนแดมกล่าวทิ้งท้าย