10 สิ่งที่คุณควรทำกับตัวเอง (สนับสนุน 30 สิ่งที่คุณควรเลิกทำกับตัวเองเสียที)
เป็นมุมมองเกรียนๆ จากผมที่เขียนขึ้นมาขำๆ เพราะค่อนข้างมองอะไรไปในทิศทางเดียวกับบทความข้างต้น
แต่ก็มีบางจุดมีแตกต่างบ้าง แต่โดยรวมผมว่ามันค่อนข้างสนับสนุนกันทางด้านเหตุผล เพียงแต่ขัดแย้งกันตรงหัวข้อแค่นั้นเอง
1. จงใช้เวลาอยู่กับคนแย่ๆ (แต่อย่าทำตัวแย่ๆ)
คงจะดูเหมือนว่าเกรียน ถ้าจะบอกว่าให้คบคนเลวๆ เพื่อทำเลว ป่าวเลย ผมแค่จะบอกว่า คบไปเหอะคนไม่ดี
ขอแค่มีวิจารณญาณ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ (แหนะ อย่าทำเป็นคำย่อเชียว) ให้ออก เราจะรู้เองว่า อะไรดี อะไรไม่ดี อะไรควรทำ
อะไรไม่ควรทำ ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องอยู่แต่กับคนที่ดีเลิศ เอาจริงๆ ชีวิตคุณเจอคนที่ดีเลฺสสักกี่คน (แล้วมันดีจริงเหรอว่ะ!)
เพราะงั้นอย่าคิดมากว่าจะต้องอยู่กับคนประเภทใหน แต่จงสำนึกในใจว่าทำอย่างไรให้ตัวเองดีขึ้น โดยเรียนรู้จากความผิดของคนอื่นดีกว่านะ
(ดึงแต่เองให้สูงขึ้น แต่อย่าไปกดคนอื่นให้ต่ำลงหล่ะ)
2. รู้จักวิ่งหนีปัญหาของตัวเอง (ถ้ามันยังแก้ไม่ได้)
ไม่มีใครในโลกนี้แก้ได้ทุกปัญหา คำว่าวิ่งหนีปัญหามันคือการหลบไปพัก เพื่อตั้งหลักสู้ ไม่ใช่ว่า รู้ว่ามีปัญหาแล้วยังหาทาง
แก้ไม่ได้ แต่ก็ยังดันทุรังสู้ต่อไปแล้วบอกว่า กรุเนี่ยแมนโคตรๆ พวกเมริงๆ เนี่ยกาก ไม่ยอมรับความจริง ผมไม่ได้บอกให้
หนีไปให้พ้นปัญหา แค่หนีให้พ้นความรู้สึกในใจตัวเอง จะได้มีสติสัมปชัญญะ เพื่อกลับมาต่อสู้กับปัญหาเหล่านั้น ขาดสติสู้ไปก็ไร้ผล
ออกมามองภาพรวมก่อนแล้วก็ระงับสติอารมณ์ ทุกทางออกมีปัญหาเสมอ
3. โกหกตัวเองไปเถอะ (ถ้าชีวิตจะดึขึ้น)
การอยู่กับความเป็นจริงมากไป บางทีโลกมันก็เลวร้ายนะ หัดเข้าข้างตัวเองบ้าง ชีวิตจะได้มีความสุข แค่อย่าไปทำให้ใคร
เดือดร้อนก็พอ ขืนอยู่แต่กับความจริง คงต้องบอกตัวเองว่า เดี๋ยวก็ตาย จะทำอะไรไปเยอะแยะ จริงไหม ทั้งที่ชีวิตจริงดิ้นรนหาเงิน
มาใช้แทบตาย ก็ใช้ๆ มีความสุขมากๆ หลอกตัวเองไปเหอะ ถ้ามันมีความสุขหรือทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่อย่าไปโกหกคนอื่น
อย่าทำผิดศีลธรรมเป็นพอ
4. หัดผลัดวันประกันพรุ่งให้เป็น
อย่ามองแต่ข้อดีของคนที่ทำงานเสร็จเร็ว การตลาดยังต้องใช้เวลา การผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง มันเป็นการ
สร้างคุณค่าให้กับตัวเองได้เช่นกัน อย่างเช่น ลูกค้าโทรมา ทำให้ได้ตลอดๆๆๆๆ แบบนี้ ก็เหมือนแทบต่อรองอะไรไม่ได้เลยแล้วจะ
สร้างคุณค่าที่แพงขึ้นให้กับตัวเองได้ยังไง ลูกค้ามีแต่จะบอกว่า เอ้า ก็ทุกทีทำได้ การให้คนอื่นได้รู้จักรอบ้าง จะทำให้เขาเห็นค่าเรามากขึ้น
พูดง่ายๆ ก็ งานก็ทำให้เสร็จวันนี้แหละ แต่ส่งพรุ่งนี้ (สร้างคุณค่าให้ตัวเอง สร้างคุณค่าให้งาน) ไมงั้นคุณอาจจะเจอกรณีที่ว่า
เอ๊า ครั้งที่แล้วยังทำแค่วันเดียวเอง พอมาวันนี้ทำไมตั้ง 3 วัน เป็นไง แทนที่จะเห็นค่าครั้งที่แล้วว่าทำดี
กลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้วเอามาเป็นมาตรฐานซะงั้น
5. จงพยายามเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณ
โอ้ยยย ร้อยทั้งร้อย อยากนอนสบายๆ ไม่อยากปวดหัวกับการทำงานหนักๆ งานสบาย เงินดี ชีวิตไม่เครียด มีเวลาให้ครอบครัว
แต่ชีวิต จะมีสักกี่คนที่จะทำแบบนั้นได้ (คนที่ทำได้ เพราะทำจนชำนาญจนสิ่งนั้นมันง่าย แต่คนอื่นมาทำมันก็โคตรยากอยู่ดี)
เพราะงั้น พยายามเป็นซะในสิ่งที่ไม่ใช่คุณคือ ทำงานขยันขันแข็ง มีความรับผิดชอบ ไม่เกียจคร้าน ทั้งที่ในใจ เบื่อจะแย่ แต่ก็
เพื่ออนาคตที่ดีกว่า จงเป็นในสิ่งที่คุณไม่เคยเป็นหรือไม่ใช่ตัวคุณซะ แล้วชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปเอง หรือถ้าขยันอยู่แล้วลองขี้เกียจบ้าง
คุณจะรู้สึกว่า โอ้ว โลกที่มันไม่ใช่ตัวเรานี้ มันยอดเยี่ยมแบบนี้นี่เอง 555+
6. คิดถึงอดีตให้มากๆ
ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะลืมมัน ถามหน่อย อุตส่าห์ทำผิด ผิดหวัง เสียใจ อย่างหักโหก สุดท้ายบอกให้ลืมมัน? ไม่ด้ายยยยย
สิ่งเหล่านี้ล้วนสั่งสมเป็นประสบการณ์ในตัวคุณ ทำให้คุณได้เรียนรู้ว่าทำอะไรแบบใหนจะเจออะไร
ok แน่นอนว่าชีวิตมันไม่ใช่การใช้ชีวิตแบบซ้ำๆ ทำแบบเดิมๆ ใช่ว่าจะได้ผลลัพธ์แบบเดิมๆ แต่เราก็เห็นแล้วนี่ว่า ทำหรือคิด
ประมาณไหนได้ผลลัพธ์ยังไง ทีนี้ก็รู้ละว่า ปัจจุบันและอนาคตจะทำยังไงกะเรื่องที่เคยผ่านมา จริงไหม ดึงอดีตมาใช้ให้เป็นประโยชน์
7. จงกลัวการทำผิดให้มากๆ
อ้าว ถ้าไม่กลัวทำผิด ชีวิตก็พบแต่ความ ship หายสิ (อุ่ย! แร๊งส์) เอาเป็น พบแต่ความผิดพลาดซ้ำๆ ละกัน
ดังนั้นถ้าจะทำผิดจงคิดให้มากๆ กลัวให้เยอะๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะผิดจะดันทุรังทำไม ยกเว้นว่า อ่อ แบบนี้นะเคยทำผิด
งั้นหาหนทางใหม่ๆ ในการทำเรื่องนี้ดีกว่า นี่! แบบนี้ถึงค่อยน่าจะทำผิด(แบบใหม่ๆ)
เอาง่ายๆ ก็คือ จงกลัวการทำผิดแบบซ้ำๆ แต่ถ้าเป็นวิธีการใหม่ อย่าไปกลัว เพราะยังไม่เคยทำจะรู้ได้ไงมันว่าผิด
8. จงสำนึกให้มากกับความผิดครั้งก่อนๆ
อันนี้เหมือนกับเป็นการเตือนตัวเอง (อย่าเรียกว่าตอกย้ำ) ว่าผิดได้แต่อย่าพลาดซ้ำ เพราะนั่นมันเป็นเส้นทางแบบผิดๆ ที่จะทำ
ให้เราจมอยู่กับอดีต เพราะงั้นจะต้องนึกถึงความผิดที่เคยทำ ผลลัพธ์ที่เคยเกิด เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดซ้ำๆ
มันก็คล้ายๆกับ ข้อ 7 นั่นแหละ (แหนะพอบอกข้อ 7 ละกลับไปอ่านหัวข้อเลยนะ พึ่งอ่านมาข้อเดียวเองลืมแล้วเรอะ!) พูดง่ายๆ ก็คือ
จงทำผิดด้วยวิธีการใหม่ๆ อย่าทำผิดด้วยวิธีการเดิมๆ
9. จงซื้อความสุขเท่าที่จะสามารถทำได้
ชีวิตเกิดมา จะไม่ให้ซื้อความสุขได้ไง รู้ว่าความสุขทางใจมันหาได้ แต่ถามหน่อยเหอะ ใครไม่มีกิเลศบ้าง ถ้าเงินมันซื้อความสุข
ได้ แล้วมีประโยชน์อะไรที่จะไม่ซื้อมัน ทำไมต้องทำให้ยุ่งยาก อยากกินก็กิน(แต่อย่าลืม ดูแลสุขภาพ โดยการออกกำลังกาย)
ตอบสนองความต้องการของตัวเองอย่างมีสติกันนะ ความสุขมันต้องเก็บเกี่ยวทุกช่วงชีวิต แต่ก็อย่างที่บอก ซื้อความสุขเท่าที่เราสามารถ
เพราะถ้าเกินความสามารถ มันจะเริ่มสะท้อนไปเป็นความทุกข์เอง (กินเยอะ ไม่ออกกำลังกาย เดี๋ยวก็อ้วนเอง 555+) ก็อย่างที่บอก
ถ้าเกินความสามารถเมื่อไหร่ทุกข์แน่นอน! (กินแพง เกินรายได้ ก็เป็นหนี้หัวโต)
10. จงคาดหวังจากความสุขของคนอื่น
เป็นไง ข้อนี้ขอโลกสวยนิดนึง อย่าเอาแต่มีความสุขกับตัวเอง หันไปมีสังคมบ้าง มนุษย์เป็นสัตว์สังคม จงคาดหวังให้คนอื่นมีความสุข
แล้วชีวิตคุณจะสุขด้วย เป็นไงหล่ะ ดูโลกสวยแต่เรื่องจริง ถามหน่อย ใครดูโฆษณา เมืองไทยประกัน แรกๆ แล้วไม่ซึ้งบ้าง (แหนะ มีบางคนบอก กรุเองๆ
แต่ผมย้ำนะว่าครั้งแรกๆ เพราะพอดูบ่อยๆ คนจะมองโลกทางความเป็นจริงมากขึ้นจากเหตุการณ์เดิม อันนี้ผมก็ไม่เถียง 555+)
เอ๊า ไม่ซึ่งก็ตามใจ แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่าลึกๆ ทุกคนก็อยากให้โลกเรามันดีกว่าที่เป็น คนมีน้ำใจ เห็นทุกคนมีความสุข (บนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนความทุกข์ของคนอื่น)