1. The Powerpuff Girls
ฉายครั้งแรกในปี: 1998
น้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก 3 สิ่งนี้สรุปวัยเด็กของเราได้เป็นอย่างดี! เราเชื่อว่าทุกคนต้องเคยแย่งกับพี่สาว น้องสาวหรือเพื่อนๆ เพื่อจะเลือกว่าใครเป็นใครใน The Powerpuff Girls (ถ้าเป็นยุคนี้คงต้องไปทำควิซในเด็กดี ฮา) สมัยนั้นใครผมยาวก็ต้องเคลมตัวเองเป็นบลอสซัม ใครสายแบ๊วชอบผูกผมแกละก็ต้องขอเป็นบับเบิ้ล ส่วนสาย #สตรอง #พี่ไม่ได้มาเล่นๆ ก็ต้องร่ำร้องจะเป็นบัตเตอร์คัพ แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไหน เราก็ต้องแท็กทีมกันต่อกรกับเหล่าวายร้ายในเรื่องอยู่ดี และวายร้ายอันดับหนึ่งจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เจ้าลิงโมโจโจโจ้!
Did you know? ล่าสุดเหล่า Cartoon Network เพิ่งจะขุดการ์ตูนในตำนานเรื่องนี้ขึ้นมาทำใหม่ในนามว่า The Powerpuff Girls Reboot (ขี้เกียจคิดชื่อแค่ไหนถามใจตัวเองดู) ที่เพิ่งเริ่มฉายในอเมริกาไปเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง (ไม่น่าล่ะทำไมถึงมี profile pic powerpuff เต็มไปหมด) เราแอบผิดหวังเล็กน้อยกับเส้นสายที่บางเฉียบลงอย่างเห็นได้ชัด (และแกละที่สูงเกินไปของบับเบิ้ล) แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือเราคงไม่มีวันได้เห็นหน้าเลขาฯ ของท่านนายกเทศมนตรี เฮ้อ แต่ถึงจะบ่นเรื่องลายเส้นมากแค่ไหน เราก็ยังสนุกและเอ็นจอยเรื่องราวการต่อสู้ของสาวๆ อยู่ดีแหละ
และเป็นอีกครั้งที่เหล่าเพาเวอร์พัฟเกิร์ลช่วยโลกไว้ได้! #girlpower
2. The Addams Family
ฉายครั้งแรกในปี: 1992
แค่เห็นชื่อก็ได้ยินเสียงออร์แกนมาแต่ไกล The Addams Family คือครอบครัวที่สอนให้เรารู้ว่าเราจะเพี้ยนแค่ไหนก็ได้ เพราะคนอื่นในครอบครัวยังเพี้ยนกว่า! อย่าปฏิเสธเลยว่าไม่แอบฝันถึงแฟนในอนาคตที่เหมาะสมกันราวกับผีเน่าและโรงผุแบบโกเมซและมอร์ทีเชีย หรือถ้าใครมีพี่น้องก็ต้องอยากแกล้งกันแรงๆ (แต่ก็ยังรักกันมั้ง?) แบบเวนส์เดย์และพักส์ลีย์ แล้วเราก็สงสัยตลอดวัยเด็กว่าธิงมีชีวิตอยู่ได้ยังไง? ลุงเฟสเตอร์ไปเอาระเบิดมากมายขนาดนั้นมาจากไหน? เมื่อไหร่พวกนอร์แมน (และนอร์แมนมิน่าและนอร์แมนจูเนียร์) จะย้ายๆ ไปซักที แต่คิดอีกที มีพวกเค้าอยู่ให้เหล่าอดัมส์แหย่เล่นก็บันเทิงดีเหมือนกันนะ!
Did you know? ตระกูลอดัมส์เริ่มต้นเป็นเพียงแค่คอมิคใน The New Yorker ในปี 1938 และได้กลายมาเป็นซีรีส์ครั้งแรกในปี 1964 ส่วนเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่พวกเราน่าจะคุ้นเคยกันมากที่สุดน่าจะเป็น The Addams Family (1991) และ Addams Family Values (1993) ที่ได้นักแสดงสาว Christina Ricci (ตอนนั้นเธออายุเพียง 11 ปีเท่านั้น!) มารับบทเป็นเวนส์เดย์
3. Dextor's Laboratory ห้องทดลองของเด็กซ์เตอร์
ฉายครั้งแรกในปี: 1996
VIDEO
" ในห้องแล็บของนายเด็กซ์เตอร์" ตอน 5 ขวบถ้ามีคนถามว่าคิดว่าใครฉลาดที่สุดในโลก เราคงตอบว่าเด็กซ์เตอร์แบบไม่ลังเล (หรือถ้าเป็น #ทีมอิคคิวซัง รอข้อ 19) ดูห้องทดลองใหญ่โตนั่นสิ ไหนจะสิ่งประดิษฐ์ล้ำๆ อีก! แต่การ์ตูนเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่า IQ ดีแค่ไหนก็ยังพ่ายแพ้ความกวนตีนแกมปัญญาอ่อนของดีดี้ (อู้ววววว) พี่สาวจอมป่วนอยู่ดี แม้กระทั่งคู่แข่งตลอดกาลของเด็กซ์เตอร์อย่างแมนดาร์คก็ยอมสยบ (หัวใจ) ให้กับดีดี้เหมือนกัน ถ้าดูตอนโตเราอาจนับถือดีดี้เป็นขุ่นแม่เบอร์หนึ่งในใจ แล้วไหนจะท่าเต้นสุดคูลนั่นอีก ไหน ขอเสียงคนที่เคยฝึกเต้นท่านี้หน่อย!
จริงๆ แล้วเด็กซ์เตอร์เป็นต้นกำเนิดของการ #มองแรง
Did you know? Dexter's Laboratory เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของ Cartoon Network ช่วงแรกมีการฉายระหว่างปี 1996-1999 และได้มีการนำกลับมาอีกครั้งระหว่างปี 2001-2003
4. Courage หมาน้อยผู้กล้าหาญ
ฉายครั้งแรกในปี: 1999
"เจ้าหมาโง่ แกทำให้ฉันดูแย่!" เราเชื่อว่าใครๆ ก็ต้องจำประโยคนี้ของอูซทิสได้ เราสงสารเจ้าหมาน้อยเคอเรจทุกครั้งที่ดูเรื่องนี้ หมาอะไรจะซวยขนาดนั้น เจอหมดทั้งภูตผี ปีศาจ ซอมบี้ มนุษย์ต่างดาว ยันต้นไม้พูดได้ (บอกตรงๆ ตอนเด็กเราเองยังโคตรจะกลัวเลย) แถมยังต้องคอยช่วยเหลือเจ้าของที่ป้ำๆ เป๋อๆ อย่างเมอเรียลและอูซทิสอีกต่างหาก ถึงจริงๆ แล้ว The Cowardly Dog แปลว่าขี้ขลาด แต่เจ้าหมาน้อยตัวม่วงก็สามารถ save the day ปกป้องเจ้าของทั้งสองได้ทุกตอน เดิมที Courage เปิดตัวเป็นหนังสั้นแอนิเมชั่นในปี 1996 และเคยได้เสนอชื่อรางวัล Oscar ในสาขา Best Animated Short Film ด้วยนะ!
Did you know? ผู้พากษ์เสียงภาษาอังกฤษของอูซทิสคนแรก เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมาด้วยอายุ 93 ปี :(
5. Cow and Chicken ง้องแง้งกับเงอะงะ
ฉายครั้งแรกในปี: 1997
VIDEO
ถ้าบอกชื่ออังกฤษอาจจะงงๆ แต่ถ้าบอกชื่อไทยแล้วรับรองว่าทุกคนต้องร้องอ๋อ! ง้องแง้งกับเงอะงะไงจะใครล่ะ! ตอนเด็กๆ เราเกลียดเรื่องนี้มาก (แต่ก็ดู) ถึงจะเป็นเด็ก 5 ขวบแต่ก็พอจะรู้นะเหวยว่าวัวกับไก่เป็นพี่น้องกันไม่ได้ ไหนจะเจ้าปีศาจตัวแดงที่ชอบส่ายตูดไปมา และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือพ่อแม่ที่ไม่เคยเห็นหน้า แต่ละตอนง้องแง้งกับเงอะงะก็ชอบพากันไปทำเรื่องงั่งๆ ไม่รู้ว่าดูไปได้ไง แต่ก็ดูไปแล้ว ฮาาา
Did you know? บางทฤษฎีบอกว่า 2 คนนี้มีแค่ครึ่งตัว (สังเกตเงา) แต่มันดันมี episode ด้านล่างนี้น่ะซี
VIDEO
6. Ed, Edd n Eddy
ฉายครั้งแรกในปี: 1999
ตอนเด็กๆ เราไม่เข้าใจว่า เอ็ด กับ เอ็ดด ต่างกันยังไง (เอ็ดดี้ยังพอเห็นความต่างที่ชัดเจน) ดูไปก็งงไป แถมทุกคนก็หน้าตาโง่ๆ เหมือนกันไปหมด แล้วชอบเล่นขี้มูกอีกต่างหาก (อิ๊ววว) และต่อให้วางแผนหลอกเอาเงินจากคนอื่นๆ ดีแค่ไหน เพื่อไปซื้อลูกอมก้อนกลมโตที่เราไม่เคยมั่นใจว่ามันคืออะไร (จริงๆ มันคือขนม jawsbreaker) แผนก็มักจะเฟลทุกที โธ่เอ้ยเจ้าพวกเอ็ด! สิ่งเดียวที่เราให้อภัยได้ คือ ความน่ารักของกระดานวาดหน้าคนของเพื่อนชื่อ จอห์นนี่ที่เปิ่นพอๆ กัน
Did you know? ถึงมันจะเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่เราชอบน้อยมากที่สุด แต่เจ้าเอ็ดทั้งสามเป็นออริจินัลซีรีส์ของ Cartoon Network ที่ฉายติดต่อกันยาวที่สุดเป็นเวลาถึง 10 ปี!
7. Scooby Doo
ฉายครั้งแรกในปี: 1969!
VIDEO
Scooby Dooby Doo, where are you? เวลาได้ยินเพลงนี้ขึ้นทีไร เราต้องรีบวิ่งไปนั่งหน้าทีวีทุกที จะพลาดดูการผจญภัยของสกูบี้ แช็คกี้ เฟรด เวลม่า และแดฟนี่ไปได้ยังไงล่ะ? เราดูจนรู้แพทเทิร์นของทุกตอน เริ่มต้นจากมีเรื่องลี้ลับอธิบายไม่ได้เกิดขึ้น ทุกคนเข้าไปสืบ เจอผีหรือสัตว์ประหลาด วิ่งหนีๆๆๆ แล้วก็ค้นพบหลักฐานอะไรบางอย่าง ต้อนผีหรือสัตว์ประหลาดให้จนมุม แล้วก็กระชากหน้ากากมันออกมาเพื่อพบว่าจริงๆ แล้วเป็นคนต่างหาก! (แบบนี้ก็ได้เหรอ?) แต่ถึงจะเดาทางออกหมดแล้ว สกูบี้ดูก็ยังเป็นการ์ตูนในดวงใจของเราอยู่ดี ที่สำคัญ เรามีความฝันว่าอยากจะชิมสกูบี้แสน็คให้ได้ซักครั้งในชีวิต! ใครรู้ว่าหาซื้อได้ที่ไหนมาบอกพิกัดหน่อยเร็ว!
Did you know? เจ้าน้องหมาแอนด์เดอะแกงค์ยังมีชีวิตอยู่นะ! Be Cool, Scooby-Doo! เพิ่งเริ่มฉายเมื่อปลายปี 2015 นี้เอง!
8. กล้วยหอมจอมซน
ฉายครั้งแรกในปี: 1992
"เธอคิดเหมือนฉันมั้ย B1" "ฉันก็คิดเหมือนเธอ B2" คงไม่มีใครไม่รู้จักประโยคอมตะนี้หลังข่าวช่อง 7 (ถ้าไม่รู้จักจริงๆ ก็อยากจะถามว่ามีวัยเด็กมั้ย เกิดมาแล้วโตเลยเหรอ?) ถ้าไม่มีการ์ตูนเรื่องนี้ คงไม่มีใครสอนเราว่าก่อนเข้านอนต้องแปรงฟัน และต้องเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ #กราบแรง แต่ละตอนสั้นแค่ 5 นาที (1992-2001) และ 12 นาที (2011-2013) ไม่น่าล่ะเราเลยทนดูได้ สมาธิสั้น (ฮาา)
Did you know? B1 และ B2 เป็นชาวออสเตรเลีย และได้ร่วมเดินพาเหรดกับเซเลปอื่นๆ ในพิธีปิดของ 2000 Summer Olympics ที่จัดขึ้นที่ซิดนีย์!
9. แม่มดน้อย โดเรมี
ฉายครั้งแรกในปี: 1999
โอม มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์!!! คาถาประจำตัวของ ฮารุคาเซะ โดเรมี สาวน้อยน่ารักที่โชคร้ายที่สุดในโลก ที่บังเอิญรู้ถึงตัวจริงของ มาโจริก้า เจ้าของร้านบ้านเวทมนตร์ที่เป็นแม่มด จึงทำให้มาโจริก้ากลายเป็นลูกอ๊อด! โดเรมีจึงต้องกลายเป็นแม่มดฝึกหัดเพื่อทำให้มาโจริก้ากลับร่างเดิมให้ได้ (นี่ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือดีกันแน่) หนุ่มๆ อาจจะไม่ได้สนใจความสดใสของแม่มดน้อยของเรา แต่บอกเลยว่าการผจญภัยในแต่มิชชั่น ฉากแปลงร่างเสมือนเซเลอร์มูนเวอร์ชั่นลูกกวาด และของวิเศษสีพาสเทลสุดคิวท์ที่โดเรมีนำมาใช้ทำเราใจสั่นตลอด หาซื้อได้ที่ไหนบอกที!
Did you know? บริษัท Kodansha Limited ได้ปล่อยนิยายสั้นเรื่อง Ojamajo Doremi 19 เมื่อธันวาคมปีที่แล้วเองนะ! ทางโปรดิวเซอร์เคยแอบเกริ่นไว้ว่าอาจจะนำมาผลิตเป็น anime อีกครั้งหากมีการตอบรับเป็นที่น่าพึงพอใจ เรารอลุ้นต่อ!
10. ซากุระ มือปราบไพ่ทาโรต์
ฉายครั้งแรกในปี: 1998
การ์ดซากุระเป็นหนึ่งในของสะสมวัยเด็กของเราที่หมั่นหยอดกระปุกทุกวันกว่าจะได้มา หนังสือการ์ตูนก็สนุก มาเป็นแอนิเมชั่นก็ยิ่งสนุกกว่าเดิม เรียกได้ว่าเป็นไอดอลขวัญใจเด็กสาวสมัยนั้นเลยรองจากเซเลอร์มูนเลยแหละ (แน่นอนว่าหลายคนตกหลุมรักลี เชาหราน และแอบรำคาญเหม่ยหลิงเล็กๆ) เราจำได้ว่าเราดี๊ด๊าคอยจับคู่ทุกคนอยู่ได้ เพื่อนทุกคนติดงอมแงม ต้องนั่งดูมันทุกตอนทั้งทาง UBC และช่องเก้า เชื่อว่าหลายคนนั่งดู สึบาสะ ต่อด้วยแค่จะได้ดูตัวละครโปรดกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
Did you know? จริงๆ ซากุระเป็นการ์ตูนที่ล้ำมาก โทยะกับยูกิเป็นเกย์ โตโมโยะรักซากุระมากกว่าเพื่อน ริกะแอบเป็นแฟนกับอาจารย์ (เดี๋ยวๆ ได้ข่าวว่าอายุแค่สิบกว่าขวบ) และอะคิซุกิเป็นครึ่งชาย ครึ่งหญิง! #ช็อคแปป
11. หนูน้อยอาราเล่
ฉายครั้งแรกในปี: 1981
“ดีจ้าาาา!” อาราเล่เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่หลายคนคอยติดตามดูทางช่องเก้าตอนเช้าตรู่ (ทีวันธรรมดาไม่ยอมตื่น!) นอกเหนือจากซีนอมตะที่เด็กผู้หญิงผมสีม่วงถือไม้เขี่ยอุนจิดุ๊กดิ๊ก หลายคนคงจำวีรกรรมสุดป่วนในหมู่บ้านเพนกวินของหุ่นยนต์สาวน้อยสุดร่าเริงได้ แล้วยิ่งเวลาที่มีกั๊ตจังมาผสมโรงด้วย มีดร.เซมเบ้กี่สิบคนก็เอาไม่อยู่!
Did you know? ชื่อเต็มของการ์ตูนเรื่องนี้ คือ "ดร. สลัมป์กับหนูน้อยอาราเล่" และมีทั้งหมด 243 ตอนระหว่างปี 1981-1986 ก่อนจะได้กลับมารีเมคอีกทั้งหมด 74 ตอนระหว่างปี 1997-1999
12. เซเลอร์มูน
ฉายครั้งแรกในปี: 1992
มั่นใจว่าทุกคนต้องรู้จักอูซางิจัง ยัยหัวซาลาเปาที่สามารถแปลงร่างเป็นอัศวินนักรบกระโปงสั้น เพื่อไปสู้กับเหล่าอสูรชั่วร้ายคอยทำลายล้างโลกโดยใช้พลังอยู่ไม่กี่อย่าง (ใครไม่รู้จัก เราจะลงทัณฑ์เธอเอง) สาวๆ น่าจะเคยเล่นกับเพื่อนว่าจะเป็นเซเลอร์มาร์ เมอร์คิวรี่ จูปิเตอร์ หรือวีนัสดี (นอกเหนือจากนี้เราจำเซเลอร์อื่นไม่ค่อยได้แล้ว) เซเลอร์มูนมีหลายภาค หลายตอน หลาย universe มากจนเราเองตามไม่ทัน รู้อย่างเดียวว่าสาวๆ #สตรอง มาก และแอบกรี๊ดหน้ากากทักซิโด้อยู่เบาๆ
VIDEO
Did you know? เซเลอร์มูนถือเป็นการ์ตูนที่ช่วยปฏิวัติวงการ anime เพราะก่อนหน้านนั้นยังไม่เคนมีคอนเซ็ปต์ "magical girl" ต่อสู้วายร้ายโดยใช้พลังวิเศษ และในปี 2003 ได้มีการสร้าง live action series ออกมา 49 ตอน บอกเลยว่าพอใช้นักแสดงจริงแปลงร่างแล้วฮา
13. Dragon Ball
ฉายครั้งแรกในปี: 1986
ท่าปล่อยพลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้าของซุนโกคูเป็นความคิดแว๊บแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเมื่อนึกถึงการ์ตูนเรื่องดราก้อนบอล เป็นท่าที่มักนำไปใช้เล่นกับพี่น้องในตอนเด็ก แม้กระทั่งทุกวันนี้ ก็ยังเห็นคนทำท่านี้เวลาเล่นถ่ายรูปกับเพื่อนๆ บางกลุ่มเลย เอาจริงการ์ตูนเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ป๊อบปูล่าในหมู่สาวๆ มากนัก แต่เป็นอีกเรื่องที่เด็กผู้ชายทุกคนต้องรู้จัก เวลาจะด่าใครว่าเซ็ตผมสตรองเกินไป พูดว่าเหมือนซุปเปอร์ไซย่าก็เห็นภาพละ
Did you know? พลังของ Dragon Ball ไปไกลมาก จนเคยนำมาฉายในช่อง Cartoon Network และ Nicktoons ในสหรัฐอเมริกาด้วย แต่ต้องมีการเซ็นเซอร์เอาความรุนแรงออกไปบ้าง น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่อง Dragonball: Evolution (2009) กลับทำให้แฟนๆ ผิดหวังซะจนมีคนกระซิบมาว่า ถ้าชอบ Dragonball Z ห้ามไปดูเด็ดขาด!
14. Yu-Gi-Oh! เกมกลคนอัจฉริยะ
ฉายครั้งแรกในปี: 1998
เราจำได้ว่าเคยแห่ไปตามหาซื้อไพ่ยูกิเป็นกล่องมาเล่นตามเพื่อนที่โรงเรียนเหมือนกัน บอกตรงๆ ว่าไม่ได้เข้าใจกฏ 100% หรอก รู้อย่างเดียวว่าอยากได้การ์ดมอนสเตอร์ Blue eyed white dragon กับพ่อมดพลังมืดสีม่วงมาก เพราะพลังทำลายเยอะซะขนาด ไม่ได้เข้าใจขนาดนั้นว่าทำไมยูกิเสียงหล่อขึ้น และหน้าเหี้ยมขึ้นเวลาต้องต่อสู้ด้วยไพ่? แล้วสรุปใครคือนางเอกกันแน่เนี่ย? ใครดูจบช่วยบอกที
Did you know? ไพ่ยูกิยังคงเป็นไพ่เกมที่ขายดีที่สุดในโลกจนถึงทุกวันนี้ !
15. Digimon
ฉายครั้งแรกในปี: 1999
' ปีกกางเหินไปไม่มีวันแผ่วปลายยยย' เชื่อว่าพอเพลงท่อนนี้ขึ้นทุกคนจะกางแขนออกเต้นตามสองพี่น้องพิธีกรในช่องเก้า ยุคนั้นถ้าการ์ตูนฮิตจริงต้องมีเพลงเวอร์ชั่นภาษาไทย ดิจิมอนเป็นการ์ตูน ม่อนๆให้ฮิตต่อจากโปเกมอนเลย มอนสเตอร์ทั้งสองเรื่องมีกี่ร้อยตัว ถามมาเลยจำได้หมด /ตัดภาพไปพ่อถามว่าออกสอบหรา เราเคยสงสัยว่าทำไมพระเอกทุกภาคต้องใส่แว่นกันลมด้วยนะ แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งในการ์ตูนที่ทำให้เราต้องเสียทรัพย์ไปมากมาย กับ ตุ๊กตาอากูมอน เสื้อรูปไทจิ กล่องดินสอ และแน่นอน ดิจิไวซ์ เขย่าๆๆๆๆๆ
Did you know? ดิจิมอนก็เพิ่งกลับมาอีกครั้งปลายปีที่แล้วในภาค Digimon Tri ซึ่งเป็นตัวละครเดิมจากภาค 1 ที่เติบโตขึ้นแล้ว สร้างความกรี๊ดกร๊าดให้กับเด็กยุคเราเหลือเกิน เพลงขึ้นละน้ำตาจิไหล
16. Pokemon
ฉายครั้งแรกในปี: 1997
ความแฟนตาซีของโปเกมอนแต่ละตัว ทำให้เราต้องตื่นมาดูทุกเช้าวันหยุด ด้วยความน่ารักมุ้งมิ้งของพ็อคเก็ตมอนสเตอร์ทั้งหลายแหล่ ทำให้แฟนๆ ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ตัวที่เราชอบสุดก็ไม่พ้นร่างหนึ่งพลังง่อยๆ "ยินดีต้อนรับเข้าสู่ยิมน้ำ " ก็กลายเป็นประโยคที่เราชอบเล่นกับเพื่อนอยู่บ่อยๆ เราเฉยๆ กับซาโตชิ แต่ตัวละครที่สร้างสีสันให้คงจะเป็นพวกแก๊งร็อกเกต และเจ้าแมวเนียสต่างหาก! นอกจากจะสร้างความนิยมถล่มทลายจากฉบับอนิเมะแล้ว ยังมีเกมส์บอยออกมาอีกต่างหาก (เดินวนอยู่ในทุ่งแล้วก็ออกไม่ได้ซะที เพราะเจอโปเกมอนท้าอยู่เรื่อย เฮ้อ)
เรื่องนี้อาจจะไม่มีปีกให้เราบินตาม แต่เราก็ได้เพลง Don't say you love me ของสองสาว M2M มาเป็นซาวด์แทร็คนะ เกี่ยวกับพล็อตเรื่องยังไงไม่รู้เหมือนกัน
VIDEO
Did you know? ข่าวดีสำหรับคนที่มีความฝันว่าจะเป็นโปเกมอนมาสเตอร์ ในปี 2016 นี้ ความฝันจะเป็นจริงกับเกมส์ Pokemon GO! ที่เราจะสามารถพบโปเกมอนได้ตัวเป็นๆ ผ่านทาง smartphone ขอไปกรี๊ดแปป
17. อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา
ฉายครั้งแรกในปี: 1975
VIDEO
ใครจะไปคิดว่าการ์ตูนเกี่ยวกับเณรน้อยจะโด่งดังขนาดนี้ คิดว่าเป็นการ์ตูนที่พ่อแม่คงชอบ เพราะเป็นแอนิเมชั่นที่แทบจะไม่มีการใช้ความรุนแรงเลย เนื้อเรื่องอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนพีเรียดเลยล่ะ สิ่งที่ทุกคนต้องจำได้ดี คือ ภาพเวลาที่อิคคิวซังกำลังใช้ความคิด "ใช้’หมอง นั่ง’มาธิ" ตอนเด็กๆ ก็เคยคิดนะว่า ซาโยจังเป็นแฟนอิคคิวซังรึเปล่า ก็เล่นมาหาทุกวี่ทุกวันอยู่ได้
Did you know? พระอิคคิวที่เป็นแรงบันดาลใจให้การ์ตูนเรื่องนี้เกิดในปี 1394 ในเมืองเกียวโต โด่งดังในเรื่องไหวพริบและความฉลาด ทุกวันนี้ยังมีวัดในเกียวโตที่เค้าเรียกกันว่าวัดอิคคิวด้วยนะ
18. Slam Dunk
ฉายครั้งแรกในปี: 1993
แค่เห็นหน้าก็นึกถึงผมสีแดงๆ ที่มาพร้อมกับความเกรียน และกับความบ้าบิ่นไม่ยอมแพ้ตามสไตล์การ์ตูนมังงะของซากุรางิ สิ่งที่เจ๋งคือ พระเอกมันเล่นบาสห่วยแตกมาก แค่ดังค์เป็นอย่างเดียว พอได้ลงแข่งก็จะเอาแต่ดังค์ เพราะอยากเท่ห์ นอกจากนี้ยังมี รุคาว่า ไอ้หล่อ เก่งเทพ ทั้งเล่นและหลับ (จำได้ว่าขี่จักรยาน มันก็หลับได้) อาคางิ เซ็นเตอร์ร่างยักษ์ฉายากอริลล่า กับท่าตีแมลงวัน และ โค้ชประจำทีมอย่างอาจารยอันไซ เราจะลุ้นเสมอเวลาลุงแกเริ่มแนะนำอะไรหรือเดินไปตบบ่าผู้เล่นคนไหน #โมเม้นพีค #จุดเปลี่ยนเกม แค่นึกถึงเสื้อแดงเบอร์ 10 กับภาพการ์ตูนที่ชอบซูมหน้าผู้เล่นพร้อมเหงื่อไหลเป็นน้ำก็รู้เลย นี่มันการ์ตูนสำหรับโอตาคุสายเกรียน ชัด ๆ
Did you know? การ์ตูนเรื่องนี้แหละที่สร้างกระแสเล่นบาสเก็ตบอลในหมู่นักเรียนในประเทศญี่ปุ่น มันดังมากจนมีทุนการศึกษาสำหรับนักกีฬาระดับมัธยมปลายที่ชื่อว่า Slam Dunk Scholarship Program สำหรับนักเรียนวัย 17-18 ที่ต้องการศึกษาระดับม. ปลายในสหรัฐอเมริกาเลยนะ
19. Popeye the Sailor
ฉายครั้งแรกในปี: 1961
แอม ป๊อบอาย เดอะ เซเลอร์แมน ปู๊นๆ เทรนด์กะลาสีไม่ได้เริ่มต้นที่เซเลอร์มูนนะเออ เด็กหลายคนคงเคยได้ยินพ่อแม่บอกให้กินผักโขม จะได้แข็งแรง! ไอ้ความคิดนี้เริ่มต้นมาจากกล้ามโตๆ ของป๊อบอายเนี่ยแหละ! ไม่ว่ากะลาสีไซส์ยักษ์อย่างบลูโตจะพยายามลักพาตัวโอลีฟขนาดนี้ ก็ต้องแพ้ป๊อบอายทุกครั้ง #พอเหอะลูก มองย้อนกลับไปอีกทีก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องทำให้สาวโอลีฟผอมเป็นก้างขนาดนั้นนะ?
Did you know? ล่าสุดนี้เราได้ยินมาว่า
Sony Pictures Animation จะนำ Popeye มาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ ด้วยนะ!
20. เทเลทับบี้
ฉายครั้งแรกในปี: 1997
เอ๊ะโอ ได้เวลาสนุกแล้วสิ! ทิงกี้วิงกี้ ดิปซี่ ลาล่า และโพ เป็นสี่ตัวละครหลักของรายการทีวีสำหรับเด็กน้อยเรื่องนี้ ตอนเด็กๆ ก็ไม่เคยคิดอะไรมาก แค่เห็นว่าเป็นการ์ตูนสำหรับน้อง มีเจ้าสี่ตัวนี้วิ่งไปมา และมีพระอาทิตย์หน้าเบบี๋มาหัวเราะ และลาจากไป จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เค้าว่ากันว่า ทิงกี้วิงกี้เป็นเกย์ (ตัวสีม่วง และกระเป๋าสีชมพู) ดิ๊ปซี่เป็นตัวแทนของคนผิวคล้ำ ลาล่าเป็นตัวเดียวที่เป็นเพศหญิง และอาจจะเป็นคนเอเชีย (เพราะเราผิวเหลือง?) และโพเป็นตัวแทนเด็กที่มีภาวะออทิสติก (?!)
Did you know? พระอาทิตย์หน้าเด็กน้อยที่เค้าเรียกกันว่า Sun baby คือ Jessica Smith ตอนนี้หน้าตาเป็นแบบนี้แล้ว