เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจาก "ไซอิ๋ว" ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
โพสท์โดย เอ คนเดิม
ถ้ายังจำกันได้ ผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับวรรณคดีรามเกียรติ์ขึ้นมาแล้ว 3 กระทู้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นกระทู้ที่ว่าด้วยเกร็ดความรู้ต่างๆเกี่ยวกับ รามเกียรติ์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ถ้าพูดถึงรามเกียรติ์แล้ว ตัวละครที่โดดเด่นที่สุด จนขโมยซีนพระเอกของเรื่องอย่างพระรามไปเลยก็คือ หนุมาน เทพเจ้าแห่งวานรของอินเดียนั่นเอง
และในวันนี้..ผมจะมาเล่าเรื่องของเทพเจ้าแห่งวานรอีกองค์หนึ่ง ซึ่งว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียเช่นกัน แต่กลับไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีน เนื่องจากได้มีการผูกเอาตำนานการเกิดของท่าน ไปโยงเข้ากับเรื่องราวการเดินทางไปอาราธนาพระไตรปิฎกของหลวงจีนท่านหนึ่ง จนเกิดเป็นวรรณกรรมจีนที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ..
ไซอิ๋ว
ผมเชื่อว่า หลายๆคน คงจะรู้จักไซอิ๋วผ่านทางโทรทัศน์ ที่ช่อง 3 เคยเอามาฉายอยู่หลายครั้ง และก็คงจะชินหูชินตากับรูปลักษณ์ของเห้งเจีย พระถังซัมจั๋ง โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง เทพและมารต่างๆ ตามแบบที่เราเห็นกันในโทรทัศน์
และในวันนี้ ผมจะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากไซอิ๋วต้นฉบับ มาเปรียบเทียบกับในโทรทัศน์ว่า มีความแตกต่างกันประการใด
ถ้าพร้อมแล้ว..ไปชมกันเลยครับ
1. ตำนานไซอิ๋วนั้น แท้ที่จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย โดยไซอิ๋วฉบับอินเดียนั้นเป็นเรื่องราวของลิงตัวหนึ่งซึ่งกำเนิดขึ้นจากหิน ได้ร่ำเรียนวิชาแล้วไปอาละวาดบนสวรรค์ สุดท้ายก็พบกับพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้กลับใจเป็นคนดี
ไซอิ๋วอินเดียนั้นจบลงแต่เพียงเท่านี้ ไม่มีพระถังซัมจั๋ง ไม่มีโป้ยก่ายซัวเจ๋ง และเห้งเจียอินเดียนั้นไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์เท่าเห้งเจียจีน
2. เห้งเจียในโทรทัศน์ที่เราเห็นๆกัน จะเป็นลิงสีน้ำตาล ขี้เล่น ออกแนวทะลึ่งๆ สวมชุดสีเหลืองสลับแดง
แต่เห้งเจียที่แท้จริงนั้นเป็นลิงเผือก ขนสีขาวเหมือนหนุมาน ตัวเล็กผอม นุ่งห่มหนังเสือ หน้าตาน่ากลัว และนิสัยดุร้ายมาก
3. โป้ยก่ายในโทรทัศน์ กับโป้ยก่ายจากต้นฉบับนั้นคล้ายๆกันทางด้านนิสัย แต่ด้านรูปร่างหน้าตานั้น โป้ยก่ายตัวจริงจะหน้าตาน่ากลัวมาก มีเขี้ยวแหลมยาวงอกออกมาจากปากเหมือนหมูป่า และชอบกินเนื้อสดๆ
4. ซัวเจ๋งตัวจริงนั้นหน้าดำเหมือนดินหม้อ ถือพลองเป็นอาวุธ และไม่ได้ซื่อบื้อแบบในหนังแต่ประการใด
5. จริงๆแล้ว ศิษย์คนที่ 2 ของพระถังซัมจั๋ง ไม่ใช่โป้ยก่าย แต่เป็นมังกรซึ่งมากินม้าของพระถังซัมจั๋ง จึงต้องแปลงกายเป็นม้าให้พระถังซัมจั๋งขี่เพื่อชดใช้ความผิด
6. งุยเต็ง ขุนนางของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ ที่เป็นเพชฌฆาตขึ้นไปตัดหัวพญามังกรบนสวรรค์นั้น แท้ที่จริงเป็นคุณตาแท้ๆของพระถังซัมจั๋ง
7. ชื่อแรกสุดของเห้งเจียนั้นไม่ใช่หงอคงอย่างที่เราเข้าใจกัน ความจริงชื่อแรกสุดของเห้งเจียนั้นก็คือ เชยส่วยไต้อ๋อง แปลว่า พระยาผู้เป็นใหญ่พันปี
8. ชาวจีนนั้นเชื่อกันว่า ม้ากลัวลิง ทั้งนี้เป็นเพราะตอนที่เห้งเจียได้ขึ้นไปดูแลม้าบนสวรรค์นั้น ได้เฆี่ยนตีม้าที่ดื้อรั้นไม่เชื่อฟังคำสั่ง จนม้าทั้งหลายขยาดกลัวเห้งเจียไปตามๆกัน
9. เทพ 3 ตา ซึ่งเป็นคู่ปรับของเห้งเจียนั้น ความจริงไม่ใช่นายทหารของเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่เป็นเทพารักษ์ในป่าแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่คล้ายๆทหารรับจ้าง คือไม่เป็นบริวารใคร
10. งู้ม้ออ๋อง ปิศาจมีเขา เพื่อนรักของเห้งเจียนั้น ความจริงไม่ใช่กระทิงอย่างในโทรทัศน์ แต่เป็นกระบือต่างหาก
11. อั้งฮัยยี ลูกชายของงู้ม้ออ๋องและนางล่อซัวพัดเหล็ก ในฉบับโทรทัศน์นั้นเอาผู้หญิงมาแสดง แต่ในฉบับจริงนั้นเป็นเด็กน้อยตัวล่อนจ้อนไม่ใส่เสื้อผ้า
12. ปิศาจตัวแรกที่พวกพระถังซัมจั๋งต้องเผชิญนั้น ไม่ใช่มารฝันอย่างในโทรทัศน์ แต่เป็นปิศาจหมีดำที่มาขโมยผ้ากาสาวพัตร์ของพระถังซัมจั๋ง และตอนนั้นพระถังซัมจั๋งยังมีลูกศิษย์เพียง 2 คน คือเห้งเจียกับม้ามังกร
13. เห้งเจีย เคยถึงกับเสียชีวิต 1 ครั้ง เพราะถูกเปลวไฟจากอั้งฮัยยีเผา แต่ฟื้นคืนมาได้เพราะโป้ยก่ายมานวดกดจุดให้
14. นางปิศาจกระดูกขาว ในฉบับโทรทัศน์กับฉบับจริงนั้นต่างกันมาก ในฉบับจริงนั้น นางถูกเห้งเจียตีตายในตอนที่แปลงร่างมาหลอกครั้งที่ 3 แต่ในโทรทัศน์นั้นนางยังหนีรอดไปได้
ซึ่งในฉบับโทรทัศน์นั้น นางกระดูกขาวมีบทบาทเหมือนอึ้งเพ้าไต้อ๋อง ปิศาจร้ายที่เป็นดวงดาวจุติลงมา เพื่อครองคู่กับนางฟ้าที่ตนเองรัก
15. นางปีศาจแมงมุม ในโทรทัศน์พ่นใยทางปาก แต่ฉบับจริงนั้นพ่นใยทางสะดือ
16. เห้งเจียมีขนช่วยชีวิตอยู่ที่ท้ายทอย 3 เส้น ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมประทานเอาไว้ให้ใช้ยามคับขัน และเห้งเจียก็ถอนเอามาใช้เป็นสว่านเจาะขวดน้ำมนต์วิเศษ ตอนเจอกับปิศาจนกอินทรี ราชสีห์ และช้าง
17. ผู้ที่ได้รับมงคลรัดเกล้านั้นมีอยู่ 3 คน นั่นคือ เห้งเจีย ปิศาจหมี และอั้งฮัยยี
โดยอั้งฮัยยีนั้นโดนหนักที่สุด เพราะโดนรัดทั้งศีรษะ แขน และขา
18. วานรเทพ ในโทรทัศน์ที่เป็นลิงหน้าตาเหมือนเห้งเจียนั้น ตามฉบับจริงนั้นเป็นลิงชื่อ ลักฮี้เก๊า มีหูถึง 6 หู และมีอิทธิฤทธิ์พอๆกับเห้งเจีย ชนิดที่ว่าเจ้าแม่กวนอิมยังแยกไม่ออก ต้องให้พระยูไลยมาพิจารณา และปราบปรามในที่สุด
19. ปิศาจที่น่าจะได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุดนั้น เห็นจะได้แก่ นางแมงป่อง เพราะถึงกับใช้เหล็กในต่อยนิ้วพระยุไลยได้
20. เห้งเจีย โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง มีลูกศิษย์สนใจเรียนวิชาด้วย โดยลูกศิษย์นั้นเป็นเจ้าชาย 3 องค์ และเห้งเจียก็ได้ฝึกสอนลูกศิษย์ของตนจนชำนาญ
21. ตอนจบนั้น เห้งเจียได้ไปเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป(ตามความเชื่อของนิกายมหายานที่ว่า พระพุทธเจ้ามีเป็นร้อยเป็นพันองค์)
ถ้าพูดถึงรามเกียรติ์แล้ว ตัวละครที่โดดเด่นที่สุด จนขโมยซีนพระเอกของเรื่องอย่างพระรามไปเลยก็คือ หนุมาน เทพเจ้าแห่งวานรของอินเดียนั่นเอง
และในวันนี้..ผมจะมาเล่าเรื่องของเทพเจ้าแห่งวานรอีกองค์หนึ่ง ซึ่งว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากอินเดียเช่นกัน แต่กลับไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีน เนื่องจากได้มีการผูกเอาตำนานการเกิดของท่าน ไปโยงเข้ากับเรื่องราวการเดินทางไปอาราธนาพระไตรปิฎกของหลวงจีนท่านหนึ่ง จนเกิดเป็นวรรณกรรมจีนที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ..
ไซอิ๋ว
ผมเชื่อว่า หลายๆคน คงจะรู้จักไซอิ๋วผ่านทางโทรทัศน์ ที่ช่อง 3 เคยเอามาฉายอยู่หลายครั้ง และก็คงจะชินหูชินตากับรูปลักษณ์ของเห้งเจีย พระถังซัมจั๋ง โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง เทพและมารต่างๆ ตามแบบที่เราเห็นกันในโทรทัศน์
และในวันนี้ ผมจะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากไซอิ๋วต้นฉบับ มาเปรียบเทียบกับในโทรทัศน์ว่า มีความแตกต่างกันประการใด
ถ้าพร้อมแล้ว..ไปชมกันเลยครับ
1. ตำนานไซอิ๋วนั้น แท้ที่จริงแล้วมีต้นกำเนิดมาจากอินเดีย โดยไซอิ๋วฉบับอินเดียนั้นเป็นเรื่องราวของลิงตัวหนึ่งซึ่งกำเนิดขึ้นจากหิน ได้ร่ำเรียนวิชาแล้วไปอาละวาดบนสวรรค์ สุดท้ายก็พบกับพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนให้กลับใจเป็นคนดี
ไซอิ๋วอินเดียนั้นจบลงแต่เพียงเท่านี้ ไม่มีพระถังซัมจั๋ง ไม่มีโป้ยก่ายซัวเจ๋ง และเห้งเจียอินเดียนั้นไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์เท่าเห้งเจียจีน
2. เห้งเจียในโทรทัศน์ที่เราเห็นๆกัน จะเป็นลิงสีน้ำตาล ขี้เล่น ออกแนวทะลึ่งๆ สวมชุดสีเหลืองสลับแดง
แต่เห้งเจียที่แท้จริงนั้นเป็นลิงเผือก ขนสีขาวเหมือนหนุมาน ตัวเล็กผอม นุ่งห่มหนังเสือ หน้าตาน่ากลัว และนิสัยดุร้ายมาก
3. โป้ยก่ายในโทรทัศน์ กับโป้ยก่ายจากต้นฉบับนั้นคล้ายๆกันทางด้านนิสัย แต่ด้านรูปร่างหน้าตานั้น โป้ยก่ายตัวจริงจะหน้าตาน่ากลัวมาก มีเขี้ยวแหลมยาวงอกออกมาจากปากเหมือนหมูป่า และชอบกินเนื้อสดๆ
4. ซัวเจ๋งตัวจริงนั้นหน้าดำเหมือนดินหม้อ ถือพลองเป็นอาวุธ และไม่ได้ซื่อบื้อแบบในหนังแต่ประการใด
5. จริงๆแล้ว ศิษย์คนที่ 2 ของพระถังซัมจั๋ง ไม่ใช่โป้ยก่าย แต่เป็นมังกรซึ่งมากินม้าของพระถังซัมจั๋ง จึงต้องแปลงกายเป็นม้าให้พระถังซัมจั๋งขี่เพื่อชดใช้ความผิด
6. งุยเต็ง ขุนนางของพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ ที่เป็นเพชฌฆาตขึ้นไปตัดหัวพญามังกรบนสวรรค์นั้น แท้ที่จริงเป็นคุณตาแท้ๆของพระถังซัมจั๋ง
7. ชื่อแรกสุดของเห้งเจียนั้นไม่ใช่หงอคงอย่างที่เราเข้าใจกัน ความจริงชื่อแรกสุดของเห้งเจียนั้นก็คือ เชยส่วยไต้อ๋อง แปลว่า พระยาผู้เป็นใหญ่พันปี
8. ชาวจีนนั้นเชื่อกันว่า ม้ากลัวลิง ทั้งนี้เป็นเพราะตอนที่เห้งเจียได้ขึ้นไปดูแลม้าบนสวรรค์นั้น ได้เฆี่ยนตีม้าที่ดื้อรั้นไม่เชื่อฟังคำสั่ง จนม้าทั้งหลายขยาดกลัวเห้งเจียไปตามๆกัน
9. เทพ 3 ตา ซึ่งเป็นคู่ปรับของเห้งเจียนั้น ความจริงไม่ใช่นายทหารของเง็กเซียนฮ่องเต้ แต่เป็นเทพารักษ์ในป่าแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่คล้ายๆทหารรับจ้าง คือไม่เป็นบริวารใคร
10. งู้ม้ออ๋อง ปิศาจมีเขา เพื่อนรักของเห้งเจียนั้น ความจริงไม่ใช่กระทิงอย่างในโทรทัศน์ แต่เป็นกระบือต่างหาก
11. อั้งฮัยยี ลูกชายของงู้ม้ออ๋องและนางล่อซัวพัดเหล็ก ในฉบับโทรทัศน์นั้นเอาผู้หญิงมาแสดง แต่ในฉบับจริงนั้นเป็นเด็กน้อยตัวล่อนจ้อนไม่ใส่เสื้อผ้า
12. ปิศาจตัวแรกที่พวกพระถังซัมจั๋งต้องเผชิญนั้น ไม่ใช่มารฝันอย่างในโทรทัศน์ แต่เป็นปิศาจหมีดำที่มาขโมยผ้ากาสาวพัตร์ของพระถังซัมจั๋ง และตอนนั้นพระถังซัมจั๋งยังมีลูกศิษย์เพียง 2 คน คือเห้งเจียกับม้ามังกร
13. เห้งเจีย เคยถึงกับเสียชีวิต 1 ครั้ง เพราะถูกเปลวไฟจากอั้งฮัยยีเผา แต่ฟื้นคืนมาได้เพราะโป้ยก่ายมานวดกดจุดให้
14. นางปิศาจกระดูกขาว ในฉบับโทรทัศน์กับฉบับจริงนั้นต่างกันมาก ในฉบับจริงนั้น นางถูกเห้งเจียตีตายในตอนที่แปลงร่างมาหลอกครั้งที่ 3 แต่ในโทรทัศน์นั้นนางยังหนีรอดไปได้
ซึ่งในฉบับโทรทัศน์นั้น นางกระดูกขาวมีบทบาทเหมือนอึ้งเพ้าไต้อ๋อง ปิศาจร้ายที่เป็นดวงดาวจุติลงมา เพื่อครองคู่กับนางฟ้าที่ตนเองรัก
15. นางปีศาจแมงมุม ในโทรทัศน์พ่นใยทางปาก แต่ฉบับจริงนั้นพ่นใยทางสะดือ
16. เห้งเจียมีขนช่วยชีวิตอยู่ที่ท้ายทอย 3 เส้น ซึ่งเจ้าแม่กวนอิมประทานเอาไว้ให้ใช้ยามคับขัน และเห้งเจียก็ถอนเอามาใช้เป็นสว่านเจาะขวดน้ำมนต์วิเศษ ตอนเจอกับปิศาจนกอินทรี ราชสีห์ และช้าง
17. ผู้ที่ได้รับมงคลรัดเกล้านั้นมีอยู่ 3 คน นั่นคือ เห้งเจีย ปิศาจหมี และอั้งฮัยยี
โดยอั้งฮัยยีนั้นโดนหนักที่สุด เพราะโดนรัดทั้งศีรษะ แขน และขา
18. วานรเทพ ในโทรทัศน์ที่เป็นลิงหน้าตาเหมือนเห้งเจียนั้น ตามฉบับจริงนั้นเป็นลิงชื่อ ลักฮี้เก๊า มีหูถึง 6 หู และมีอิทธิฤทธิ์พอๆกับเห้งเจีย ชนิดที่ว่าเจ้าแม่กวนอิมยังแยกไม่ออก ต้องให้พระยูไลยมาพิจารณา และปราบปรามในที่สุด
19. ปิศาจที่น่าจะได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุดนั้น เห็นจะได้แก่ นางแมงป่อง เพราะถึงกับใช้เหล็กในต่อยนิ้วพระยุไลยได้
20. เห้งเจีย โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง มีลูกศิษย์สนใจเรียนวิชาด้วย โดยลูกศิษย์นั้นเป็นเจ้าชาย 3 องค์ และเห้งเจียก็ได้ฝึกสอนลูกศิษย์ของตนจนชำนาญ
21. ตอนจบนั้น เห้งเจียได้ไปเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป(ตามความเชื่อของนิกายมหายานที่ว่า พระพุทธเจ้ามีเป็นร้อยเป็นพันองค์)
...อ้างอิง http://sz4m.com/b1638288
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
68 VOTES (4/5 จาก 17 คน)
VOTED: makhamdong, Sailor Mercury, วอร์มอัพ, I AM THOR, นายเอือมระอามาๆไปๆ, igolf, Tabebuia, meltxxx, บ่าวสันขวาน, นางเบิร์ด, แมวฮั่ว แมวขี้งอน, โอ๊ย, RdarM JaideE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้ากินบุฟเฟ่ต์ 210 บาทไม่ยั้ง ชาวเน็ตห่วงร้านขาดทุน เจ้าของเผยคำตอบพลิกความคาดหมายดราม่าก็ทำอะไรไม่ได้ เจ๊ไฝ คว้ามิชลิน 1 ดาว 8 สมัยซ้อนหวยออกวันอาทิตย์ ธันวาคมนี้! ดูเลขยังไงให้ตรงใจ เอาฮวงจุ้ยนำโชคมาฝากHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
มิราเคิล เบอร์รี : ผลไม้อัศจรรย์ที่เปลี่ยนโลกของรสชาติได้อย่างไม่น่าเชื่อหวยเจ้าพายุนราธิวาสวิกฤติ ประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน