เมื่อใดที่เราเห็นคุณค่าของทุกขณะเวลา เราจะรู้จักใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าทุกเสี้ยววินาทีของชีวิต
อาจารย์ท่านหนึ่ง มีลูกศิษย์อาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก สาเหตุที่มีผู้คนมาเคารพนับถือและยอมรับที่จะเป็นลูกศิษย์ ก็เพราะท่านมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดวิชาด้วยเทคนิคที่เต็มไปด้วยความชำนาญและชาญฉลาด
อยู่มาวันหนึ่ง อาจารย์ได้พาลูกศิษย์ไปที่แม่น้ำโดยท่านจะอาศัยจังหวะนี้เป็นช่วงเวลาในการสอนลูกศิษย์ให้มีความรู้เกี่ยวกับความเพียรพยายามที่จะมีชีวิตอยู่อย่างรู้คุณค่า
เมื่อเห็นว่าลูกศิษย์พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งที่ท่านต้องการจะถ่ายทอดแล้ว จึงเรียกลูกศิษย์ ๑ คนมาเป็นอาสาสมัครในการเรียนรู้วิชาในครั้งนี้ ครั้นอาจารย์กล่าวจบลงก็มีลูกศิษย์ที่อาสาเป็นผู้ช่วยมายืนต่อหน้าท่าน
ครั้นเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้วอาจารย์ก็พาลูกศิษย์เดินลงไปที่ริมแม่น้ำ แล้วก็จับศีรษะของลูกศิษย์กดลงไปในน้ำทันทีฝ่ายลูกศิษย์เมื่อถูกอาจารย์กดลงเช่นนั้น เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่ก็รีบตะเกียกตะกายอย่างสุดแรงเกิด
อาจารย์ได้จับลูกศิษย์กดน้ำอยู่อย่างนั้น ๓ ครั้งก็หยุดเมื่อเห็นว่าบทเรียนที่ต้องการสอนสมบูรณ์แล้ว จึงกล่าวชื่นชมลูกศิษย์ที่มีความกล้าที่จะเป็นคนถูกทดสอบในครั้งนี้ พร้อมกับถามลูกศิษย์ว่า
"ในขณะที่อาจารย์กดศีรษะของเจ้าลงไปในน้ำ เจ้ามีความต้องการสิ่งใดมากที่สุด ?"
"ผมต้องการอากาศหายใจมากที่สุดครับ" ลูกศิษย์ตอบ พร้อมกับแสดงสีหน้าที่ดูเหมือนว่าอากาศนั้นเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าสิ่งใด
"ในขณะนั้น ความต้องการลาภ ยศ สรรเสริญ และเงินทองต่างๆ เกิดขึ้นในใจของเจ้าบ้างไหม ?" อาจารย์ถามต่อ
"ไม่มีเลยครับ ผมต้องการเพียงอากาศให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปก็เพียงพอแล้ว ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลยครับ"
"เธอได้ข้อคิดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ?"
ลูกศิษย์มองมาที่อาจารย์ของตน เขาใช้เวลาครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่งแล้วจึงตอบอาจารย์ว่า
"แท้จริงแล้ว ชีวิตของคนเราช่างสั้นนัก ลมหายใจเข้าและออกแต่ละขณะนั้นแหละ คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราให้อยู่ได้ หากเราไม่รู้จักใช้เวลาที่หายไปในแต่ละขณะอย่างรู้คุณค่าแม้จะมีชีวิตอยู่อย่างยาวนาน ก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อการมีชีวิตอยู่ครับ"
เมื่ออาจารย์ได้ฟังคำตอบของลูกศิษย์แล้ว ก็หันหน้ามาทางบรรดาลูกศิษย์ที่มาด้วยกัน พร้อมกับกล่าวให้ข้อคิดแก่พวกเขาว่า
"หากพวกเจ้าต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และมีชีวิตอยู่อย่างควรค่าต่อการชื่นชม ขอให้มองเห็นความสำคัญของเวลาที่เสียไปแต่ละขณะ เหมือนดั่งคนเราที่ต้องการอากาศหายใจตอนที่ถูกกดศีรษะในน้ำ เพราะแต่ละขณะของเวลาที่เสียไป ก็เหมือนกับการสูญหายไปของทุกสิ่งในชีวิตเรา ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่เสื่อมโทรมเมื่อใช้งานมานาน จิตใจที่ไร้ความเบิกบานเพราะไม่มีการเรียนรู้อย่างผู้มีสติ แต่เมื่อใดที่เราเห็นคุณค่าของทุกขณะของเวลา เราจะรู้จักใช้ชีวิตอย่างรู้คุณค่าทุกเสี้ยววินาที เมื่อเป็นเช่นนี้ เราย่อมรู้จักคิด พูด และทำแต่สิ่งที่นำไปสู่ความเจริญและที่เป็นไปเพื่อให้เกิดความสุขที่งดงามต่อชีวิตฝ่ายเดียว"