หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โลกร้อนเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องหลอกลวง (มีวาระซ่อนเร้น)

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

โลกร้อนเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องหลอกลวง (มีวาระซ่อนเร้น)
เขียนโดย น.พ. โชติช่วง ชุตินธร Dr. Chokchuang Chutinaton

UN สหประชาชาติกำลังจัดประชุมเกี่ยวกับเรื่องสนธิสัญญาโลกร้อน Treaty on Global Warming or Climate Change วันที่11-22 พ.ย 2556 ที่กรุงวอซอร์ประเทศโปแลนด์ เป็นการหลอกลวงและบิดเบือนข้อมูลอีกครั้งหนึ่ง

สิบหก ปีที่ผ่านมาโลกไม่ได้ร้อนขึ้น Lord Monckton แถลงในที่ประชุมสหประชาชาติ U.N. Climate Change -Doha เมื่อ ธันวาคม 2555 Link 1, Link 2

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์อเมริกา กว่า 31,000 คน ยืนยันว่าโลกไม่ได้ร้อนขึ้นจาก CO2 จากฝีมือมนุษย์ ปัจจุบันเราไม่มีหลักฐานยืนยันว่าภาวะโลกร้อนเป็นจริง หรือโลกร้อนเพราะ CO2 โดยที่เกิดจากมนุษย์ เพราะฉะนั้นเรา ไม่มีปัญหา โลกร้อน

Climate-gate (ไคลเมทเกต) คือการเปิดเผยการหลอกลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

หนังสือพิมพ์ Telegraph ของอังกฏษ ลงพิมพ์ว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวและน่าอับอายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุควิทยาศาสตร์

ใน ปี 2552 มีข่าวไคลเมทเกต (Climate-gate) เกี่ยวกับการบิดเบือนข้อมูลหรืออุปโลกน์ข้อมูลเพื่อลวงโลกและผิดจรรยาบรรณของนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัย University of East Anglia (Climate Research Unit) ของประเทศอังกฤษที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะอากาศที่จะทำให้โลกร้อนถูกเปิดเผยเพราะคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับภาวะอากาศ (CRU) ถูกล้วงข้อมูลหรือถูกแฮค (hacked) และเอา e-mail ออกมาเผยแพร่ทั่วโลกพันกว่าฉบับซึ่งเปิดเผยว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นผิดจรรยาบรรณโดยใช้วิธีปกปิดและบิดเบือนข้อมูลและทำลายข้อมูล และกลั่นแกล้งกีดกันนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่เห็นด้วยว่าโลกจะร้อนเพราะมนุษย์

ที่ผ่านมาสหประชาชาติก็นำข้อมูลที่บิดเบือนเหล่านี้ไปใช้อ้างอิงพิสูจน์ว่ามนุษย์เป็นคนทำให้โลกร้อนและจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรงตามมา การนำข้อมูลที่ถูกบิดเบือนคลาดเคลื่อนมายืนยันว่ามีปัญหาจึงไม่ถูกต้อง ยิ่งไปกว่านั้น ทางสหประชาชาติกำลังจะหาทางแก้ปัญหาด้วยการออกกฏหมายสนธิสัญญามาบังคับผู้คนทุกประเทศทั่วโลกให้ใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อลดก๊าซคาร์บอนหรือชดเชยกับการปล่อยก๊าซคาร์บอน (carbon tax for carbon debt) ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็นเพราะเราสร้างปัญหาจากข้อมูลที่ผิดๆ และต้องเสียเงินมหาศาล

สหประชาชาติกล่าวว่าโลกจะร้อนขึ้นเพราะเกิดจาก CO2 และก๊าซเรือนกระจก แต่ความเป็นจริง 16 ปีที่ผ่านมานี้ โลกไม่ได้ร้อนขึ้น ตามงานวิจัย มนุษย์ไม่ได้ทำให้โลกร้อนมาก เพิ่มเพียง 1 – 2 องศาฟาเรนไฮด์ในอีก 100 ปีข้างหน้า www.cfact.org

 

ในยุคกลางของประวัติศาสตร์มีอยู่ช่วงหนึ่งเรียกว่า Medieval Warm Period ซึ่งมีความร้อนสูงกว่าปัจจุบันซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยอมรับว่าเป็นความจริง สมัยนั้นยังไม่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมยังไม่มีโรงงานปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีการใช้เชื้อเพลิงที่มาจากถ่านหิน แต่โลกก็มีภาวะร้อนกว่าปัจจุบัน เพราะฉะนั้นการที่โลกร้อนขึ้นหรือเย็นลง เป็นเพราะความเปลี่ยนแปลงตามวงจรของธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงของดวงอาทิตย์ เช่น solar flares และระยะทางความห่างของดวงอาทิตย์กับโลก ไม่เกี่ยวกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนหรือ co2 ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์

 

solar flares

 

เราถูกหลอกว่าโลกร้อนจะทำให้หมีโพลาน้อยลงหรือสูญพันธุ์ จริงๆแล้วมีงานวิจัยรายงานว่า 40 ปี ที่ผ่านมาหมีโพลาไม่ได้น้อยลง แต่กลับมีมากขึ้น

จากภาพที่เห็นในข่าวโทรทัศน์ว่าก้อนน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือจำนวนมหึมากำลังจะละลายเป็นน้ำอย่างน่ากลัวและจะทำให้น้ำท่วมชายฝั่งและทำให้เกาะต่าง ๆ สูญหายไปและน้ำจะท่วมทั่วไปหมดซึ่งข่าวเหล่านี้ทำให้ผู้คนตื่นตระหนก แต่ความจริงแล้ว ก้อนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ไม่ได้น้อยลง แต่บางช่วงบางเวลาอาจจะมีละลายบ้างและน้ำแข็งเพิ่มขึ้นบ้างตามวงจรของธรรมชาติ (University of Illinois - sea ice Link 1,Link 2, Link 3, Link 4, Link 5)

อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ถ้าเราไปลงนามเซ็นสนธิสัญญา (Treaty on Global Warming) กับสหประชาชาติเรื่องโลกร้อน อ่านบทความ “โลกร้อนจริงไหม” ของ น.พ. โชติช่วง ได้ที่ www.doctorfreedom.com ประมาณ 4 ปีก่อน ผู้เขียนๆบทความนี้ (หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ วันที่ 24 ธันวาคม 2552 และ Manager Online วันที่ 23 ธันวาคม 2552) คาดการณ์ไว้ว่าสนธิสัญญาโลกร้อน ทำให้เกิดการเก็บภาษีคาร์บอนและ การเสียภาษีคาร์บอนจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางแพงขึ้นและสิ่งของจะแพงขึ้นค่าครองชีพสูงขึ้น คนตกงานมากขึ้น ปัจจุบัน เป็นจริงแล้ว และอีกหลายๆอย่างที่วิเคราะห์ล่วงหน้าไว้กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

1) E.U. ตกลงที่จะเก็บภาษีคาร์บอนกับเครื่องบินที่บินเข้า E.U. ทำให้ค่าเครื่องบินแพงขึ้นแต่ถูกเลื่อนไปเพราะหลายประเทศประท้วง 2)ประเทศไทยก็เตรียมจะขึ้นภาษีรถยนต์โดยการเก็บภาษีคาร์บอนแต่ชะงักชั่วคราวเพราะเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2011 3)ส่วนประเทศAustralia ตั้งแต่วันที 1 กรกฎาคม 2012 เริ่มเก็บภาษีคาร์บอนกับ 300 บริษัท (โรงงานอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก เหมืองแร่ สายการบิน และอุตสาหกรรมผลิตพลังงานเชื้อเพลิงเป็นต้น) การเก็บภาษีคาร์บอนนี้ Tony Abbott หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่าวิธีนี้แพงและไม่จำเป็นและจะทำให้คนตกงานและค่าครองชีพจะสูงขึ้นและไม่ได้ช่วยสิ่งแวดล้อม นายโทนี่ให้คำมั่นสัญญาว่าถ้าได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2013 นี้เขาจะคว่ำภาษีคาร์บอนอย่างแน่นอน

การประชุมที่ Warsaw, Doha, Mexico, Copenhagen และ Kyoto ต่างก็ มีวาระซ่อนเร้น (hidden agenda) การประชุมเรื่องสิ่งแวดล้อม(โลกร้อน)เป็นข้ออ้างที่ทำให้คนกลัวแล้วก็ลงนามในสนธิสัญญาซึ่งเขามีเป้าหมายจะจัดตั้ง ”รัฐบาลโลก” New World Orderแบบเผด็จการด้วยการเก็บภาษีคาร์บอนทั่วโลกคือภาษีโลก world tax

 

สนธิสัญญาโลกร้อน (Treaty on Global Warming) มีอำนาจเหนือกว่ารัฐธรรมนูญของเรา สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทยจะถูกยึดและทำลายและเราก็จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลโลกซึ่งเป็นเผด็จการอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลโลกมีอำนาจกำหนดและเก็บภาษี (เช่น ภาษีคาร์บอน) และควบคุมการใช้พลังงานและควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อมซึ่งทั้งหมดนี้จะกระทบต่ออำนาจอธิปไตยของไทย (เพราะฉะนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม. 190 จึงเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะขาดการตรวสจสอบของรัฐสภาและประชาชน )

สรุป เรื่องโลกร้อนจากการกระทำของมนุษย์จะทำให้เกิดภัยพิบัติเป็นเรื่องหลอกลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้ ไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามนุษย์ทำให้คาร์บอนหรือก๊าซ CO2 เพิ่มมากขึ้นจนสามารถเกิดภัยพิบัติ แต่มีหลักฐานจากงานวิจัยเพิ่มขึ้นมากมายโดยตลอดยืนยันว่าโลกร้อนเป็นเรื่องไม่จริง เป็นเรื่องหลอกลวง เช่น งานวิจัยของ MIT (Dr. Richard Lindzen) นักวิจัยที่มีชื่อเสียงด้านภูมิอากาศ โดยใช้เวลา 20 ปี วัดอุณหภูมิเก็บข้อมูลสรุปได้ว่าอุณภูมิของโลกเพิ่มขึ้นจาก ก๊าซ CO2 และก๊าซเรือนกระจกเพียง 1/6 ของตัวเลขที่สหประชาชาติเคยประกาศไว้สำหรับอีก 100 ปี ข้างหน้าอุณหภูมิจะ เพิ่มน้อยกว่า 2 องศา F ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากไม่ต้องกลัวว่าโลกจะแตก

ประเทศไทยไม่ควรร่วมลงนามในสนธิสัญญาเกี่ยวกับ “โลกร้อน” เพราะเรื่อง โลกร้อนไม่ใช่ปัญหาพราะหากประเทศไทยร่วมลงนามแล้วจะยิ่งมีปัญหาเพราะจะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและอำนาจอธิปไตยของเรา และเป็นอันตรายต่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของเรา

การเก็บภาษีคาร์บอนคือการหลอกลวงและขูดรีดเอาเงินภาษีจากประชาชนโดยอ้างว่าจะเอาเงินภาษีคาร์บอนไปแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม (ภาวะโลกร้อน) ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีปัญหาเพราะ 16 ปีที่ผ่านมาโลกไม่ได้ร้อนขึ้น

น.พ.โชติช่วง ชุตินธร (อดีตประธานชมรมผู้บริโภคแห่งสยาม) 20/11/2013

อ้างอิง Link doctorfreedom.com www.cfact.org www.copenhagenclimatechallenge.org www.climatedepot.comwww.scienceandpublicpolicy.org

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
40 VOTES (4/5 จาก 10 คน)
VOTED: เอ๋ง ไม่ดัดจริต, Pitoon, zerotype, โอ๊ย, เฒ่าลามก, bgs, นนท์คัฟ, FolkZaa, แมวฮั่ว แมวขี้งอน
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ลีน่า จัง" แหวกฝูงชนไปดู "หมูเด้ง" อ้างไลฟ์สดอยู่..โซเชียลออกมาวิจารณ์ยับเพจโรส สงสัยรายได้บริษัท ไม่มีชื่อ แม่ตั๊ก ขายอะไรถึงรวยขนาดนี้ช็อก!! เมื่อเยือนบ้านมหาเศรษฐี! อลังการเกินคาด เห็นชุดเพื่อนถึงกับอึ้ง ลบภาพจำจากละครรวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่ท้องฟ้าครึ้มๆ แต่ฝนก็ยังไม่ตก ไม่รู้จะตกตอนเย็นหรือเปล่าหนอ...เปิดธุรกิจ “แม่ตั๊ก กรกนก” นอกจากขายทอง เคยขายอะไรมาบ้าง?เส้นทางรัก ‘อ๋อม อรรคพันธ์’ กับภรรยา ‘ดาเรีย เชฟรุก’ ผู้อยู่เคียงข้างจนวันสุดท้าย6 ชาที่ชอบ..บอกนิสัยคุณดราม่าเค้กกล้วยหอม ‘เอ ศุภชัย’ แข็งเป็นไต ชาวเน็ตถกสนั่น เทียบราคาลุง 62 ปี ระเบิดอารมณ์ยิงสองผัวเมียดับกลางตลาดจะนะ อ้างแค้นมาแย่งที่ขายของความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดสงครามใหญ่ในตะวันออกกลางหนุ่ม กรรชัย สั่งชั่งน้ำหนัก ‘กำไลปี่เซี๊ยะ’ ขายเกือบสี่หมื่น แท้จริงแล้วไม่ถึง 2 สลึงสะเทือนวงการสงฆ์! โซเชียลโพสต์วิจารณ์ เอาครูต่างชาติสอนภาษาสามเณร แอบแฝงสอนศาสนาอื่น เหมาะเหมาะสมหรือไม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ช็อก!! เมื่อเยือนบ้านมหาเศรษฐี! อลังการเกินคาด เห็นชุดเพื่อนถึงกับอึ้ง ลบภาพจำจากละครหนุ่ม กรรชัย สั่งชั่งน้ำหนัก ‘กำไลปี่เซี๊ยะ’ ขายเกือบสี่หมื่น แท้จริงแล้วไม่ถึง 2 สลึงงานแต่งสุดแฮปปี้..เพราะรักนี้มีแค่เราสามคนสะเทือนวงการสงฆ์! โซเชียลโพสต์วิจารณ์ เอาครูต่างชาติสอนภาษาสามเณร แอบแฝงสอนศาสนาอื่น เหมาะเหมาะสมหรือไม่
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เซเลปคิวทอง! เปิดตาราง หมูเด้ง กิน-นอน ตอนไหน ไปเมื่อไหร่เจอตอนเด้งเปิดตำนาน ประวัติความเป็นมา ของเสาชิงช้าพืชพันธุ์ใหม่น่าสนใจ : Dark Galaxy Tomato ความงามและรสชาติจากมะเขือเทศสายพันธุ์แปลกใหม่ผลงานไดโอราม่า จิ๋วแต่เจ๋ง ของศิลปินชาวมาเลเซีย
ตั้งกระทู้ใหม่