25 ภาพสถานที่สุดเจ๋ง ที่คุณไม่อยากจะเชื่อว่ามีอยู่จริง
มันยากที่จะเชื่อจริงๆ ว่าสถานที่เหล่านี้ตั้งอยู่บนโลกของเรา ไม่ใช่ดาวดวงอื่นที่มีพวกเอเลี่ยนอาศัยอยู่
1. Sentinels of the Arctic [Finland]
ที่เห็นเหมือนผู้พิทักษ์เหล่านี้ จริงๆแล้วมันคือต้นไม้ยักษ์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง ความแปลกประหลาดนี้จะเกิดขึ้นในฤดูหนาว ช่วงที่อุณหภูมิอยู่ประมาณ -40 ถึง -15 องศาเซนติเกรด
2. Erta Ale Lava Lake [Ethiopia]
Erta Ale เป็นทะเลสาบลาวาที่ยาวที่สุดที่รู้จักกันในวงการวิทยาศาสตร์ ถูกใช้เป็นแหล่งงานวิจัยตั้งแต่ปี 1906 นอกจากนี้มันยังถูกใช้เป็นฉากนรกในหนังเรื่อง Clash of Titans (2010) อีกด้วย
3. Lençóis Maranhenses National Park [Maranhão, Brazil]
Lençóis Maranhenses อาจมีลักษณะเช่นทะเลทรายกว้างใหญ่ แต่ในความเป็นจริง เป็นพื้นที่ที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง มีเนินทรายขนาดใหญ่ที่คอยดักน้ำฝนตามฤดูกาลซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด นั่นคือทะเลสาบวาววับกลางทะเลทราย สีของทะเลสาบาจเป็นได้ทั้งฟ้า เขียว และดำ ขึ้นอยู่กับหินที่อยู่ใต้พื้นทราย
4. Grand Prismatic Spring [Wyoming, USA]
น้ำพุร้อน Grand Prismatic เป็นน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา สีสันสดใสที่เห็นเป็นผลของจุลินทรีย์เม็ดสีซึ่งเติบโตรอบขอบของน้ำแร่บริเวณนั้น ดูสวยงามเหมือนอยู่ในนิยายเลยนะเนี่ย
5. Chocolate Hills [Bohol, Philippines]
Chocolate Hills หุบเขาช็อคโกแลตแห่งนี้ เกิดจากการรก่อตัว ทางธรณีวิทยา ที่ผิดปกติ มีมากถึง 1,776 เนิน อยู่ในพื้นที่ เพียง 20 ตารางไมล์ ปกคลุมไปด้วยหญ้า ที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ในฤดูแล้ง เวลามองจากมุมสูง เหมือนไอศกรีมช๊อคโกแลตชิพเลยทีเดียว
6. Hitachi Seaside Park [Japan]
ในฤดูไม้ผลิจะเกิดปรากฏการณ์ดอกนีโมฟิล่าบาน ทำให้ดูเหมือนเป็นมหาสมุทรบนดินดีๆนี่เอง
7. The Twelve Apostles [Victoria, Australia]
หน้าผาหินที่สวยงามเหล่านี่ ได้เกิดการกัดเซาะของทะเล และสภาพอากาศอันโหดร้ายและรุนแรง นับพัน ๆ ปี ทำให้เกิดเป็นตำนานของอัครสาวกทั้ง 12 ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า The Twelve Apostles นั่นเอง
8. Elephant Rock [Nevada, USA]
หินลักษณะเหมือนช้างแห่งนี้ ตั้งอยู่ในหุบเขาแห่งไฟ ในรัฐเนวาด้าในสภาพแวดล้อมที่เหมือนดาวอังคารที่เป็นหินทรายสีแดง ซึ่งได้เกิดจากการขยับตัวและกัดเซาะตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ ทำให้มันมีลักษณะเหมือนชื่อของมันนั่นเอง
9. The Marble Cathedral [Patagonia, Argentina and Chile]
โขดหินอันน่าทึ่งแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของทะเลสาบ Carrera ประเทศชิลี ซึ่งจู่โจมโดยกระแสคลื่นอันรุนแรง มายาวนานถึง 6,000 ปีเลยทีเดียว ดูเหมือนจะเป็นผลงานจากศิลปินที่แต่งแต้มลงบนหินเลย แต่เชื่อเถอะ ลวดลายเหล่านี้เกิดจากธรรมชาติล้วนๆ!
10. Spotted Lake [Canada]
ทะเลสาปลายจุด ตั้งอยู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของ โอซอยออส ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ในแคนาดา ซึ่งเป็นทะเลสาปที่มีแร่ธาตุความเข้มข้นสูง และส่วนใหญ่ในฤดูร้อน น้ำจากทะเลสาบจะระเหยไปจนเกือบหมด จึงทำให้เห็นเป็นจุดแบบนี้นั่นเอง
11. Whitehaven Beach [Australia]
น้ำในชายหาดแห่งนี้ดูเหมือนก้อนคริสตัลที่ตกผลึก เป็นที่ที่คุณจะมองเห็นหาดทรายสีขาวที่สวยสุดที่หนึ่ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนภาพวาด หรือสิ่งที่ ออกมาจาก เทพนิยายเลยทีเดียว
12. Devil's Pool [Victoria Falls, Zimbabwe]
น้ำตก วิกตอเรีย ที่สูงกว่า 350 ฟุต นับว่าสูงที่สุดในโลก มันมีพลังมากพอที่จะ กวาดนักว่ายน้ำที่อยู่เหนือขอบให้หล่นลงไปได้เลย จึงถูกเรียกว่า สระว่ายน้ำของซาตาน จะลองว่ายน้ำดูก็ได้นะถ้าคุณ กล้าพอ
13. Nishino-shima [Japan]
เกาะเล็กๆนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ชิ้นส่วนของมัน ถูกสร้างขึ้นเมื่อภูเขาไฟใต้น้ำได้ระเบิดขึ้น และ หินลาวา ที่ถูกระบายความร้อนจากการถูกน้ำทะเล จึงกลายเป็นสถาพเกาะแบบที่เห็น และยังจะขยายตัวต่อไปเรื่อยเลยล่ะ
14. Split Apple Rock [Tasman Bay, New Zealand]
หินแอปเปิ้ลเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา เกิดจากหินแกรนิตก้อนเดียว ที่ธรรมชาติได้ได้แบ่งออกเป็นสองเสี่ยง มากกว่าล้านปีมาแล้ว มองดูคล้ายแอปเปิ้ลถูกหั่นเป็น 2 ส่วน ยังไม่มีใครที่สามารถจะอธิบายได้ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
15. Wakhan Corridor [Afghanistan]
Wakhan Corridor เป็นแถบทางเดินเล็ก ๆ ของ ที่ดินที่ยาวประมาณ 140 ไมล์ ขนาบข้างด้วย ภูเขาที่แบ่งแยกพรมแดนของ ประเทศปากีสถานและ ทาจิกิสถาน และยังเป็นเส้นทาง สำหรับเดินทางระหว่าง ประเทศอัฟกานิสถานและ ประเทศจีน อีกด้วย เหมือนมนุษย์มาขุดเป็นทางเดินเอาไว้เลยสินะ แต่เชื่อเถอะ ว่าฝีมือธรรมชาติล้วนๆ
16. Red Beach [Panjin, China]
ในฤดูใบไม้ร่วง พื้นที่แห่งนี้ของประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ และสาหร่ายทะเลพวกนี้จะกลายเป็นสีแดงสดใส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่แห่งนี้ สร้างภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง
17. Lake Hillier [Australia]
สีชมพูของทะเลสาบแห่งนี้ มองไปแล้วดูเหมือนว่าจะเป็น การย้อมสี ให้ธรรมชาติเลยนะ แต่จริงๆแล้วมันถูกสร้างขึ้นโดย สาหร่าย และแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำนั่นเอง แม้จะมีสีสันแปลกตาแบบนี้ แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบใดๆต่อมนุษย์ หรือ สัตว์ป่าในท้องถิ่นเลย
18. Champagne Pool [Rotorua, New Zealand]
น้ำพุร้อนนี้มีอายุประมาณ 900 ปีThis hot spring is relatively young at 900-years-old. ผลของการระเบิดในอุณหภูมิที่สูง ทำให้มันประกอบไปด้วยการผสมผสานระหว่างคาร์บอนไดออกไซด์และสารหนู ซึ่งทำให้เกิดฟองเหมือนสปาร์คกิ้งไวน์
19. Devil's Tower [WY, USA]
หอคอย ปีศาจ ที่เกิดจากการระเบิดของแม็กม่า ภูเขาไฟเพียงครั้งเดียว และผ่านการกัดกร่อนนับล้านปี จึงกลายเป็นสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งแบบนี้นี่เอง
20. Eye of the Sahara [Mauritania]
Eye of the Sahara หรือดวงตาแห่งทะเลทรายซาฮารา เป็นคุณลักษณะที่โดดเด่น ของทะเลทราย ซาฮาราอันกว้างใหญ่ มองเห็นได้จาก พื้นที่สูง โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง เกือบ 30 ไมล์ ได้ถูกตีความ ในขั้นต้นว่าเป็นผลกระทบจากอุกกาบาต
21. Kelimutu Crater Lakes [Flores Island, Indonesia]
ทะเลสาบขนาดใหญ่นี้ได้เกิดมานานกว่าล้านปี ชาวตะวันตก เรียกมันว่า The Lake of Old มันมักจะ เป็น สีฟ้าสดใส เนื่องจากการ ผสมกันของแร่ธาตุที่พบในหินภูเขาไฟ และบางคนก็เรียกว่า The Lake of Young Men and Maidens ซึ่ง โดยทั่วไปจะมีสีเขียว และสีแดง ตามลำดับ
22. The Wave [Arizona, United States]
คลื่นหินทรายนี้เกิดตั้งแต่ยุคจูราสสิค นานกว่า 190 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งได้เกิดจากการกัดเซาะของฝนและลมแรง ได้สร้างภูมิทัศน์ที่งดงามและน่าทึ่ง
23. Avenue of the Baobabs [Madagascar]
ใกล้เมืองโมรอนดาว่าในภาคตะวันตกของมาดากัสการ์ คุณจะได้พบต้น baobab ที่มีความสูงภึง 80 ฟุตและอายุมากกว่า 800 ปี
24. Sanibel Island [Florida, USA]
ซานิเบล ในรัฐ Florida ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ ที่มีชื่อเสียงจากการถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกหอยอันสวยงาม ที่ตั้งอยู่ในอ่าวเม็กซิโก
25. Tianzi Mountain [China]
คลื่นหุบเขาที่ไล่ระดับกันอย่างสวยงามในประเทศจีนแห่งนี้ บางคนเชื่อว่ามันเกิดจากมนุษย์ต่างดาว จริงๆแล้วมันเกิดขึ้นเมื่อ 380,000,000 ปีที่ผ่านมา จากการกัดเซาะของคลื่นหินทราย บางส่วนสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 4,000 ฟุตเลยทีเดียว และผู้สร้างภาพยนตร์อย่าง เจมส์ คาเมร่อน ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง AVATAR อีกด้วย