เรื่องราวสุดน่าประทับใจ ของเด็กน้อยวัย 4 ขวบสองคนที่บังเอิญมาเจอกันริมชายหาด
เด็กน้อยวัยไร้เดียงสาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างน่าอัศจรรย์สุดๆ พวกเขาทั้งบ้องแบ๊ว ตาแป๋วน่าเอ็นดู ปราศจากมลทิน และไม่รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับโลกที่อยู่รอบตัว เด็กๆเหล่านี้มักจะมีความสุขจนไม่ทันรู้สึกถึงแรงกดดันที่กำลังรอพวกเขาอยู่เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่อย่างที่ควรจะเป็น และบางครั้งการมองโลกผ่านทุ่งลาเวนเดอร์จะทำให้เราเข้าใจถึงความโหดร้ายในโลกของผู้ใหญ่ได้ไม่มากก็น้อย ยกตัวอย่างกรณีที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ Ayanna Toye Barrows ชาวเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วขณะไปเที่ยวที่หาดเมอร์เทิล รัฐเซาท์แคโรไลน่ากับ Cyrah ลูกสาววัยสี่ขวบ พวกเขาบังเอิญพบกับเด็กสี่ขวบอีกคนหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินเล่นอยู่ริมชายหาดซึ่งเป็นเด็กผู้ชายชื่อ Carson จากนอร์ธแคโรไลน่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ทำให้ Barrows รู้สึกซาบซึ้งหัวใจอย่างสุดซึ้ง เธอเขียนลงไปใน Facrbook ว่า..
“ขณะที่ฉันกับลูกสาวกำลังเดินเล่นยามเย็นอยู่ที่ริมชายหาดเมอร์เทิลก็มีเด็กผู้ชายน่ารักคนหนึ่งเดินตรงมาที่เรา หนูน้อยคนนั้นได้ให้สร้อยคอฟันปลาฉลามกับลูกสาวของฉัน จากนั้นก็แนะนำตัวและถามชื่อลูกสาวของฉัน ไม่นานนักพวกเขาก็บอกลากันและแยกย้ายกันไป อีกไม่กี่นาทีเขาก็วิ่งกลับมาแต่ไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่พร้อมกับตะโกนชื่อลูกสาวของฉันออกมา
แกหันไปและเห็นรอยยิ้มของเขา พวกเขาคุยกันไม่กี่คำส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสร้อยคอฟันปลาฉลามสุดเจ๋งที่มอบพลังให้แก่เขา ก่อนที่พวกเขาจะจากกันไป ฉันขออนุญาตแม่ของ Carson เพื่อถ่ายรูปนี้และนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครจัดท่าทางและบอกให้พวกเขายิ้ม เมื่อคุยเสร็จพวกเขาก็กอดกันเป็นเวลานานและกล่าวร่ำลากันประมาณ 20 กว่าครั้ง
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือการเจอกันโดยบังเอิญและน่าเอ็นดูระหว่างเด็กที่มีอัธยาศัยดีทั้งสองคนและกลายเป็นเพื่อนซี้กันโดยทันที ณ ริมชายหาดแห่งนั้นเอง”
แต่สิ่งที่มีคุณค่าทางใจสำหรับแม่ของ Cyrah นั้นไม่ใช่แค่เรื่องนี้และเธอรู้ดีว่าไม่มีทางลืมเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน เธอเฝ้าคิดถึงภาพถ่ายของเด็กสองคนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างกันอย่างชัดเจน Carson เป็นเด็กผิวขาว ส่วน Cyrah เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-แอฟริกันและอินเดียตะวันตก แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันนั้นซ่อนอยู่ข้างใน หลังจากนั้น Barrows ก็ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ลงบน Facebook และแบ่งปันให้กับคนทั้งโลก
“นี่คือช่วงเวลาที่มนุษย์เราจะเข้าใจว่าไม่มีเส้นแบ่งระหว่างสีผิว ไม่มีการตัดสินคนอื่น ไร้เชื้อชาติ ไร้ความเกลียดชัง ไร้ลำดับชั้นของสี พวกเขาเป็นแค่เด็กสองคนที่บังเอิญเจอกันระหว่างเดินเล่นยามเย็นบนชายหาดและไม่สนใจโลกใดๆทั้งสิ้น พวกเขาแค่มองตากัน โลกคงจะน่าอยู่กว่านี้ถ้าเราทำเหมือนกับเด็กสองคนนี้”
ในวันที่ Barrows โพสท์ลงไปบน Facebook ผู้คนก็พากันกดไลค์มากกว่า 100 ครั้งและแชร์ออกไปมากกว่า 215,000 ครั้ง รวมถึงความคิดเห็นอีกนับสิบ เธอรู้สึกทึ่งมากที่ได้เห็นเรื่องราวนี้กระจายออกไปและสร้างความซาบซึ้งใจให้แก่คนทั่วโลก
“ผลตอบรับดีมากค่ะ มีผู้คนมากมายเข้ามาให้ความคิดเห็นไปจนถึงข้อความส่วนตัวใน Facebook เช่น เรื่องราวที่คล้ายๆกันจากทั่วทั้งสหรัฐ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ อังกฤษ และหลายๆประเทศบนโลกเลย นอกจากนี้ยังมีรูปภาพส่วนตัวของพวกเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เจ๋งที่สุด”
แม้ว่า Cyrah กับ Carson จะยังไม่รู้ว่าตัวเองโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว (อย่าลืมว่าพวกเขาเพิ่งอายุสี่ขวบ) แต่พวกเขาก็ไม่เคยลืมอีกฝ่ายเลย ปัจจุบัน Barrows กับแม่ของ Carson ติดต่อกันผ่าน Facebook และลูกๆของพวกเขาก็ติดต่อกันผ่าน FaceTime เช่นกัน มิตรภาพของเด็กน้อยสองคนนี้จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนทั่วโลกเนื่องจากพลังของโลกอินเตอร์เน็ต
Barrows กล่าวว่า “โพสท์นี้เหมาะสำหรับผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ที่ต้องการย้ำเตือนตัวเองว่าเราควรเก็บรักษาความไร้เดียงสาของเด็กๆไว้และควรปล่อยเด็กให้อยู่ในโลกของเด็กต่อไป ฉันไม่เคยอยากให้ลูกของฉันตกอยู่ในสถานการณ์ที่เด็กคนอื่นๆไม่อยากเล่นกับแกเพียงเพราะเรื่องสีผิว แม้ว่าฉันจะไม่อาจหยุดเรื่องนี้ได้ แต่ก็ไม่อยากให้ลูกของฉันหรือใครก็ตามต้องประสบกับปัญหาแบบนี้ค่ะ”
Blogger : Kaitlin Stanford
Source : babble.com