หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ย้อนรอยคดีซีอุยฆ่ากินเครื่องในเด็ก

โพสท์โดย มารคัส
 

คำเตือนอาจมีภาพหรือเนื้อหาโหดร้ายทารุณ
คดีซีอุยเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญและสร้างความทรงจำที่เลวร้ายให้กับสังคมไทยในยุคสมัยนั้น เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับลูกเล็กเด็กแดงที่เป็นเหยื่อถูกฆาตกรใจร้ายลงมือฆ่าตายด้วยความโหดเหี้ยมทารุณ แถมยังควักหัวใจและตับไปกิน ข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดไปในวงกว้างจนถึงกับทำให้ผู้ใหญ่ในสมัยนั้นผวา และห้ามไม่ให้ลูกหลานของตัวเองออกไปไหนคนเดียวและให้คอยระวังคนแปลกหน้า ไม่เช่นนั้นจะถูกหลอกไปฆ่ากินตับและหัวใจ

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าชาวจีนที่รูปร่างเล็กเป็นมะขามข้อเดียว ล่ำสัน ตัดผมสั้นเกรียน มักจะหาวหวอดๆ จนเห็นฟันหน้าที่ยื่นบิดเบี้ยวเหยเก หน้าตาปกติของซีอุยไม่น่ากลัวอะไร แต่เมื่อเวลาหาวแล้วตาของเขาจะลุกโพลงขึ้นทันที ดูคล้ายกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ คดีสอบสวนซีอุยมีการใช้ล่ามเป็นผู้แปลสำนวนส่งให้อัยการมีใจความว่า เขาชื่อซีอุย แซ่อึ้งเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว เกิดปีพุทธศักราช 2470 ที่ซัวเถา ประเทศจีน บิดามารดามีอาชีพทำไร่ ฐานะยากจน ทำให้ชีวิตของเขาในวัยเด็กขาดความอบอุ่น ความเอาใจใส่จากบิดามารดา เขาตัดสินใจเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ หลายครั้งเขาจะโดนเด็กที่ตัวโตกว่ารังแก เอารัดเอาเปรียบ บางทีถึงขั้นทำร้ายร่างกาย เกิดเป็นความทรงจำฝังใจที่ไม่ดีต่อเขาตลอดมา

ต่อมานักบวชรูปหนึ่งได้แนะนำให้เขากินหัวใจและตับมนุษย์ จะทำให้มีพละกำลัง สามารถต่อสู้ศัตรูที่มารังแก เกิดเป็นความคิดฝังใจซีอุยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่ออายุได้ 18 ปี เขาถูกคัดเลือกเป็นทหารเข้าประจำการสมรภูมิรบ หลังจากนั้นเขาได้อยู่ในวงล้อมของข้าศึก ทำให้เสบียงร่อยหลอ ไม่เพียงพอ เกิดความหิวโหย ด้วยความวิปริตผิดมนุษย์ทั่วไป ซีอุยจึงกินอวัยวะภายในของเพื่อนทหารด้วยกันที่ถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิต พอกินเข้าไปแล้ว รู้สึกมีลมออกที่หูดังวิ้งๆ ตลอดเวลา พร้อมกับเริ่มรับรู้ความอร่อยของรสชาติอวัยวะภายในของมนุษย์มากขึ้นทุกที หลังปลดประจำการซีอุยได้หลบหนีความยากจนมาทำมาหากินในแผ่นดินไทยด้วยการเริ่มต้นรับจ้างทำสวนของเจ๊กะป๊อที่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ.2497 ซึ่งปัจจุบันครอบครัวของเจ๊กะป๊อได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว และได้ทิ้งปริศนาที่ว่าทำไมเจ๊กะป๊อที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กจึงไม่ถูกซีอุยทำร้าย

เหยื่อรายแรก เด็กหญิงบังอร ภมรสุด
ในที่สุดซีอุยเริ่มลงมือกับเหยื่อรายแรกคือเด็กหญิงบังอร เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปีพ.ศ.2497 เมื่อเวลาประมาณทุ่มเศษ ขณะนั้นซีอุยออกมาเดินเล่นในตลาดทับสะแก ระหว่างเดินผ่านหน้าโรงเลื่อยได้พบกับเด็กหญิงบังอรเดินสวนมา ซีอุยจึงปรี่เข้าไปอุ้มเด็ก ใช้มือปิดปากปิดจมูก วิ่งฝ่าความมืดข้างโรงเลื่อย เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายพยายามดิ้นรนต่อสู้ แต่ไม่สามารถต้านแรงของซีอุยได้ หลังจากนั้นซีอุยได้ลงมือกัดคอหอยเด็กหญิงบังอร และเป็นความโชคดีของเธอที่มีคนเดินผ่านมา ซีอุยจึงผละจากเหยื่อไป เด็กหญิงบังอรรอดตายราวปาฏิหาริย์ ปัจจุบันเธอคือนางบังอร อายุประมาณ 50 กว่า ประกอบอาชีพขายอาหารแถวเสาชิงช้า แต่เธอปฏิเสธที่ให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องอันเลวร้ายที่เธอพบพานในอดีต

เหยื่อรายที่สอง เด็กหญิงนิด แซ่ภู
ถัดมาไม่ถึงเดือน วันที่ 9 พฤษภาคม 2497 ซีอุยได้เริ่มลงมือฆาตกรรมเด็ก ขณะที่ชาวบ้านทับสะแกกำลังสนุกสนานในงานมงคลสมรสของปลัดอำเภอมงคลที่หน้าที่ว่าการกิ่งอำเภอทับสะแก โดยมีเหยื่อคือเด็กหญิงนิด แซ่ภู วัย 9 ขวบ บุตรสาวนางจำเนียร แซ่ภู ถูกทำร้ายด้วยมีดพับปลายแหลมแทงไปที่คอหอยของเด็กเคราะห์ร้ายจนเสียชีวิต ก่อนจะอุ้มร่างไร้วิญญาณของเธอไปตามทางรถไฟ แล้วเลือกใช้สะพานใต้ทางรถไฟเป็นที่ชำแหละศพ รุ่งเช้าข่าวการฆาตกรรมวิตถารได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วจนทำให้ชาวอำเภอทับสะแกเกิดความหวาดผวา เป็นที่โจษจันกันอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถจับกุมฆาตกรรายนี้ได้แต่อย่างใด

เหยื่อรายที่สาม เด็กหญิงม่วยจู แซ่ฮั้ว
หลังจากฆ่าเหยื่อรายที่สอง ซีอุยมาที่พระนครเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2497 พร้อมกับลงมือฆ่าเด็กหญิงม่วยจู แซ่ฮั้ว อายุ 6 ปี โดยลวงไปฆ่าบริเวณสถานีรถไฟสวนจิตรลดา

เหยื่อรายที่สี่ เด็กหญิงกิมเฮียง
ซีอุยหวนกลับมาที่ทับสะแกอีกครั้ง คราวนี้มาก่อคดีฆาตกรรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2498 ขณะเดินเล่นอยู่บริเวณโรงลิเกแถวอำเภอสามร้อยยอด เพื่อหาเหยื่อและได้สังหารเด็กหญิงกิมเฮียงอย่างเลือดเย็น

เหยื่อรายที่ห้า เด็กหญิงหงั่น
สี่เดือนถัดมา วันที่ 27 ตุลาคม 2498 ซีอุยได้ลงมือสังหารโหดอีกครั้ง โดยครั้งนี้มีเด็กหญิงหงั่นเป็นผู้เคราะห์ร้าย บ้านอยู่ที่อำเภอเขาสามร้อยยอดเช่นเดียวกับเด็กหญิงกิมเฮียง

เหยื่อรายที่หก เด็กหญิงซิวจู แซ่ลิ้ม
จนกระทั่งวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2500 ซีอุยตั้งใจจะไปที่ประจวบคีรีขันธ์อีกครั้งแต่ได้แวะเที่ยวงานตรุษจีนที่จังหวัด และบังเอิญได้เจอเด็กหญิงซิวจู แซ่ลิ้ม อายุห้าขวบเสียก่อนจึงลวงเหยื่อด้วยวิธีการเดิมๆ หลังจากนั้นจึงลงมือฆ่า แล้วควักเอาตับและหัวใจออกมาต้มกิน

เหยื่อรายสุดท้าย เด็กชายสมบุญ บุณยกาญจน์
ท้ายที่สุดแล้วซีอุยก็ไม่อาจหนีพ้นผลกรรมที่เขาก่อไปได้ เมื่อซีอุยได้ลงมือกับเหยื่อรายสุดท้าย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2501 ที่ตำบลเขาไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซีอุยได้ลงมือฆ่าเด็กชายสมบุญ อายุแปดขวบ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของนางละมูลและนายนาวา บุณยกาญจน์ ซีอุยใช้มีดแทงคอหอยของเหยื่ออย่างชำนาญ ก่อนใช้มีดพับกรีดหน้าอกควักเอาตับกับหัวใจออกมา แต่ยังไม่ทันได้เริ่มกิน นายนาวาและชาวบ้านได้ออกตามหาเด็กชายผู้เคราะห์ร้าย และเข้ามาพบศพเสียก่อน ชาวบ้านจึงรุมประชาทัณฑ์ ก่อนจับซีอุยให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดี

จุดจบปิดฉากตำนานฆาตกรวิปริตกินคนที่เรือนจำบางขวาง โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ออกคำสั่งลงโทษประหารชีวิตซีอุยด้วยการยิงเป้า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2502 หลังถูกประหารชีวิตทางราชการได้นำซากศพของซีอุยมาทำการดองเก็บไว้ ที่ตึกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช จากพฤติกรรมของซีอุยที่ฆ่าเด็กแล้วเอาอวัยวะภายในออกมากินนั้น จิตแพทย์ท่านหนึ่งได้วิเคราะห์ไว้ว่า คดีซีอุยนั้นเป็นที่สนใจและพูดถึงในวงการจิตเวชศาสตร์ และเคยมีอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งได้เคยสัมภาษณ์ซีอุย ในช่วงที่ถูกจับได้ใหม่ๆ ท่านผู้นั้นก็คือศาสตราจารย์นายแพทย์อรุณ ภาคสุวรรณ ร่วมกับศาสตราจารย์นายแพทย์สงกรานต์ นิยมเสน ซึ่งอาจารย์ได้เล่าให้ฟังว่าซีอุยมีความผิดปกติทางจิตใจอย่างรุนแรง มีความหวาดระแวง เข้าขั้นที่เรียกว่าความหลงผิดทีเดียว ซีอุยมีความเชื่อตลอดเวลาว่ามีคนคิดปองร้ายเขาอยู่ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่มี ซึ่งเราไม่สามารถบอกได้ว่าซีอุยมีความเชื่อแบบนี้มานานหรือยัง และเขายังหลงผิดและได้รับคำแนะนำจากนักบวชว่าการกินอวัยวะภายในของคนจะทำให้เขามีอำนาจเหนือผู้อื่นได้ เมื่อมีความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา เขาจึงฆ่าเด็กเพื่อเอาอวัยวะมากิน เพื่อตอบสนองความเชื่อแบบผิดๆ ของเขา เพื่อที่จะได้ไม่มีใครมาทำร้ายเขาได้ แม้ว่าเขาจะกินศพเข้าไปแล้ว แต่ความกลัวนั้นก็ยังมีอยู่ การฆ่าจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรณีอย่างนี้ถ้าเป็นในปัจจุบันนั้นสามารถที่จะรักษาได้ด้วยการใช้ยาร่วมกับการรักษาอื่นๆ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
มารคัส's profile


โพสท์โดย: มารคัส
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
12 VOTES (4/5 จาก 3 คน)
VOTED: Daebak, หุ่นเชิดสังหาร, มารคัส
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยสะเทือนใจ! เด็กถูกสุนัขกัดกลางถนน ไม่มีใครช่วยกองทัพยูเครน ยัน "เราปะทะกับทหารเกาหลีเหนือแล้ว!!"ผัวช็อก!! หลังเมียคลอดลูกออกมา ลูกมีผิวดำ“เดือดสนั่นวงการ! MGI สั่งปลดฟ้าผ่า ‘แตแต’ มิสแกรนด์เมียนมา แฟนนางงามสะเทือน!”ยอดกฐินวัดดัง 2567 มากกว่าพันล้านชม ยอยักษ์ กับวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่ทะเลน้อย พัทลุงผู้เสียหายเดินหน้า แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ย” ขณะนี้มีมูลค่าความเสียหาย มากกว่า 70 ล้าน ตร.ยัน เข้าข่ายฉ้อโกงมาดู ข้อห้ามที่ห้ามทำในสงครามเพื่อนบ้านแฉ หมอดูฮวงจุ้ย พ่อขับแท็กซี่ ได้วิชาจากลูกค้านั่งรถเป็นซินแสพ่อแม่ชาวอินเดียทำร้ายลูกน้อย โยนเด็กอายุเพียง 7 วัน ลงจากสะพาน แต่โชคดีที่รอดชีวิตเจอแก๊สรั่วแบบนี้ ปิดวาล์วตรงไหนดี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เเตเเต มิสแกรนด์พม่า แต่งหน้าไม่สวยเหมือนตอนอยู่ไทยผัวช็อก!! หลังเมียคลอดลูกออกมา ลูกมีผิวดำสาววัย 26 เมียมหาเศรษฐี เปิดเผย 'กฎเกณฑ์' ที่สามีกำหนด ทำชาวเน็ตตะลึง!สะเทือนใจ! เด็กถูกสุนัขกัดกลางถนน ไม่มีใครช่วย
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
น้ำมันตับปลา ยาอายุวัฒนะจากท้องทะเลลึก สู่ช้อนชาในโรงเรียนอังกฤษสรุป สงครามโลกครั้งที่1!!argue: โต้เถียงbreathe: หายใจ
ตั้งกระทู้ใหม่