บันทึกของทหารตุ๊ด ขอเล่าชีวิตการเป็นรั้วของชาติ 1 ปี

อีกไม่กี่วันหลายคนที่ได้รับการเกณฑ์ทหาร และจับได้ใบแดง ในผลัดที่ 1 ก็คงต้องเข้ากรม-กอง ตามที่ได้สังกัด ที่นี่ดอทคอม เลยขอนำ บันทึกของทหารเกณฑ์นายหนึง ซึงตั้งกระทู้ในพันทิป บอกเล่าถึงเรืองราวและประสบการณ์ที่ตัวเองได้รับจากการเป็นทหาร 1 ปี แต่ไม่ธรรมดาตรงที่ว่า เขาคนนี้เรียกตัวเองว่า ทหารตุ๊ด ลองมาดูประสบการณ์ของเขากันค่ะ

สวัสดีครับ ช่วงนี้เห็นข่าวแย่ๆกับวงการทหารไทยมากมาย รวมทั้งดราม่าดารานักร้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ซึ่งก็แล้วแต่ความคิดวิจารณญาณของแต่ละคนแล้วกันนะครับ แต่สำหรับคนธรรมดาอย่างเราๆ การเกณฑ์ทหารถือเป็นเรื่องที่ต้องทำใจว่ามันคือหน้าที่ มันคือสิ่งที่เราต้องตั้งมือรับให้ดี อ้อ ขอแสดงความยินดีกับว่าที่ทหารใหม่ทุกนายนะครับ คงตื่นเต้นไม่น้อยล่ะสิ ไม่ต้องกลัวนะครับ มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย เรายังผ่านมันมาได้เลย ทำไมพวกนายจะผ่านมันไม่ได้ล่ะจริงมั้ย ?

เอาล่ะขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ เราชื่อเต เป็นเกย์ธรรมดาๆคนนึง ตั้งแต่เด็กจนโตสาบานได้ว่าไม่เคยลำบาก ไม่ชอบการตากแดด ไม่ชอบเรียนลูกเสือ ไม่ชอบเรียนพละ วิชาอะไรพวกนี้ชั้นติด 0 ติด ร เป็นประจำ แน่นอนเรื่องเรียน รด ตัดทิ้งไปได้เลยไม่เรียนแน่นอน และไม่คิดจะเรียนด้วย แต่ดันติดทหารซะงั้นเอาสิชีวิต 555 ชั้นจบปริญญตรี ทางด้านนิเทศศาสตร์ ก่อนหน้าจะเกณฑ์ทหารก็เรียนปริญญาโทไปด้วย ทำงานด้านสื่อมาบ้าง จนกระทั่งอายุ 23 ชั้นเริ่มรู้สึกว่าชีวิตมันเดินหน้าแบบเต็มสปีดไม่ได้ซักที มันเหมือนติดค้างอะไรซักอย่าง แน่นอนนั่นคือการทำหน้าที่ชายไทย ชั้นผ่อนผันมาแล้ว 3 ครั้ง อีกอย่างอายุก็เยอะแล้ว เลยตัดสินใจเข้ารับการเกณฑ์ทหารเมื่อปีที่แล้ว(2558) ด้วยอัตราส่วนตอนนั้น ผู้ชาย 5 คน จะมีคนได้เป็นทหารเพียง 1 คนเท่านั้น ช่วงนั้นคือชั้นมั่นใจมากว่าไม่มีทาง ชั้นไม่ใช่ 1 คนนั้นอย่างแน่นอน ใครมันจะไปโชคร้ายขนาดนั้นล่ะจริงมะ เออ....สรุป ชั้นคือผู้โชคร้ายค่ะ 55555 ทบ 2 ค่ายแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ช็อคสิคะ ตอนรู้ว่าจะรับใช้ชาตินี่คือเบลอค่ะ จะเป็นลม พอหันกลับหลังไปดูแม่ที่มาเชียร์เท่านั้นล่ะ แม่โดนหามขึ้นรถพยาบาลไปแล้วค่ะคุณ 555 ดันเป็นลมก่อนลูกซะงั้น จังหวะนั้นนี่คือทุกอย่างหยุดหมุน ชีวิต ความฝัน คนรัก การงาน ครอบครัว ทุกอย่างคือ จบ ! ชั้นเคลียร์เอกสารทุกอย่างเสร็จก็กำลังคิดว่าจะขับรถไปดูแม่ที่โรงพยาบาล เชื่อมั้ยว่าชั้นเหมือนคนเสียสติ ขึ้นไปนั่งในรถอยู่ชั่วโมง ร้องไห้ฟูมฟาย เอามือทุบพวกมาลัยรัวๆ มโนว่าตัวเองคือนางเอก mv โดนผู้เทมาใหม่ๆอยู่ประมาณชั่วโมงนึง แล้วตั้งสติขับรถไปโรงพยาบาลเห็นแม่นั่งดมยาดมอยู่ก็วิ่งเข้าไปกอดแม่แล้วร้องไห้ ชั้นไม่รู้จะพูดอะไรให้มันดีขึ้นในตอนนั้น

แม่ : กลัวมั้ย ?
เต : เตกลัวนะแม่ เหมือนชีวิตเตพังเลยอ่ะ
แม่ : แม่ก็กลัวนะเต แต่แม่เชื่อว่าเตจะผ่านมันไปได้ แม่เลี้ยงเตมา 23 ปี เตผ่านอะไรมาเยอะมาก
เต : มันเหมือนกันที่ไหน เตว่าเตคงเป็นคนโชคร้ายมาก
แม่ : เตจำได้มั้ย ช่วงที่เตสอบเข้ามหาลัยที่เตอยากเข้าไม่ได้ เตไม่ได้เรียนที่เตอยากเรียน เตก็พูดคำนี้เหมือนกันว่าเตโชคร้าย แต่สุดท้ายพอเตได้ที่เรียนใหม่ซึ่งเป็นที่ๆเตไม่อยากเรียน แต่วันนึงเตก็บอกกับแม่ว่าเตชอบที่นี่...การเป็นทหารของเต เตอาจจะชอบก็ได้นะลูก ผู้ชายเต็มค่ายเลย
เต : แม่เดี๋ยว !

ช่วงที่ชั้นคัดเลือกคือช่วงเดือนเมษายน ชั้นได้ไปผลัด 2 นั่นคือวันที่ 1 พฤศจิกายน ช่วงระยะเวลาแต่ละผลัดห่างกันมาก ชั้นกลับเข้ากรุงเทพ เคลียร์เรื่องงาน เคลียร์เรื่องเรียน เคลียร์ทุกอย่างให้จบ หลังจากนั้นช่วง 2 เดือนก่อนจะถึงกำหนดเข้ารับการฝึก เอาเวลาหาข้อมูลการเป็นทหาร อ่านทุกกระทู้ในพันธ์ทิพย์ เก็บข้อมูลเยอะมากกก เยอะจนแบบชั้นมั่นใจว่าชั้นหน้าจะรับมือไหว จนกระทั่งวันนั้นมันก็มาถึง วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 ตุ๊ด ทบ2 ลูกอีสานก็พร้อมจะลุยแล้วค่ะ

อ้อ..เพิ่มเติมนะคะ ชั้นจับได้ใบแดง ยื่นวุฒิ ป.ตรี ได้เป็น 1 ปี
แต่ถ้าไม่จับ สมัครไปเลย ยื่นวุฒิ ปวส.ขึ้นไป ได้เป็น 6 เดือนนะคะ
ถ้าวุฒิ ม.6 สมัคร ได้เป็น 1 ปี จับได้ใบแดง 2 ปีจ้า

วันที่ 1 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2558 เวลา 7.00 น นั่นคือเวลาที่สัสดีอำเภอนัดค่ะ รอไปสิคะจนถึง 8.30 น สัสดีก็มาเช็คชื่อเพื่อขึ้นรถไปยังค่าย มทบ อธิบายตรงนี้นิดนึงนะคะ มทบ คือมณฑลทหารบก ซึ่งก็จะมีหลายๆที่ หลายจังหวัด เช่น กรุงเทพก็จะเป็น มทบ 11 ซึ่งของจังหวัดดิชั้นขอไม่บอกแล้วกันนะคะว่า มทบ ที่เท่าไหร่ มทบ คือที่ๆทหารใหม่ทุกนายจากทุกอำเภอจะต้องมารวมกันก่อนค่ะ คนเยอะมากชั้นพูดเลยว่าตอนนั้นคือตื่นเต้นและกลัว ด้วยความที่เรายังไม่รู้นะคะว่าเราจะได้อยู่ค่ายไหน หน่วยไหน จะได้เป็นทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ ก็ยังไม่รู้ชะตาชีวิตเลยค่ะ ซึ่งการมาที่ มทบ วันนี้คือเค้าจะมาเรียกชื่อและบอกค่ายที่เราต้องไป หน่วยสังกัดที่เราอยู่ เช่น สังกัดกองร้อย,บก,ศูนย์ฝึก รด.,สารวัตรทหาร,ทหารม้า,ทหารปืนใหญ่ ,ทหารแพทย์,ทหารการข่าว ฯลฯ เค้าจะประกาศรายชื่อทีละนายเลยค่ะ พอมาถึงคิวชั้นเค้าก็ประกาศ พลทหารนาวิน สินดี (นามสมมุติ) สังกัดโรงพยาบาลค่าย......มทบ.... 

แน่นอนชั้นได้สังกัดโรงพยาบาลค่าย ซึ่งเป็นเหล่าทหารแพทย์ ประจำโรงพยาบาลค่าย มทบ.ที่ชั้นไปวันนี้แหละ หลังจากนั้นก็แยกเข้าตามหน่วยตามสังกัดของตัวเองเลยค่ะ.......

หลังจากทราบแล้วว่าตัวเองอยู่สังกัดไหน ค่ายไหน ก็แยกไปตามนั้นเลยค่ะ ส่วนชั้นได้ประจำอยู่ที่ มทบ . จำนวนทหารใหม่รวมทั้งสิ้น 168 นาย หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการฝากสิ่งของมีค่า เช่น โทรศัพท์มือถือ เงิน เอกสารสำคัญ รวมถึงเสื้อผ้ารองเท้า กางเกงใน ที่เราใส่มาในวันนั้นด้วย ทุกอย่างจะต้องถูกเก็บ อ้อ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้คืนนะคะ ทุกอย่างได้คืนแน่นอนค่ะแต่หลังจากฝึกเสร็จ แนะนำตรงนี้ว่าไม่ต้องเอาทรัพย์สินมีค่าติดตัวมาก็ได้ หรือถ้ามีญาติมาก็ฝากญาติกลับไปเลยดีกว่า เพรามันไม่ได้ใช้ค่ะ เรามาตัวเปล่า มาหาเอาข้างหน้าค่ะ สามีก็เช่นกัน ว้ายย 555 ฝากทรัพย์สินเสร็จก็เปลี่ยนชุดเป็นชุดเป็นน้อยที่ทางครูฝึกเตรียมไว้ให้ ขยายความตรงชุดเป็ดน้อยนิดนึงนะคะ ชุดเป็ดน้อยชื่อฟังดูน่ารัก เชื่อเถอะว่ามันคือชุดที่ใส่สบายที่สุดแล้วในช่วงฝึก ชุดก็ประกอบด้วยกางเกงขาสั้นสีขียวขี้ม้า ผ้าแข็งๆ เข็มขัดสีดำ เสื้อสีเขียวขี้มา สกรีนหน้าอกว่ากองทัพบก กางเกงในยี่ห้อทบ. ซึ่งแข็งและบาดง่ามดีนักแล 555 รองเท้าผ้าใบสีดำ ถุงเท้าที่หนาและร้อนมากสีดำยาวครึ่งแข้ง เสร็จจากตรงนี้แล้วก็ถึงขั้นตอนการตัดผม เชื่อเถอะว่านี่จะเป็นการตัดผมสั้นเกรียนที่สุดของตุ๊ดเลยค่ะ 555 คือมันเกรียนมาก เกรียนถึงเกรียนที่สุด เกรียนจนเย็นหัว 555 หลังจากตัดผมเสร็จก็ถึงเวลารับประทานอาหารเที่ยงค่ะ ซึ่งผู้ช่วยครูเป็นผู้พาเราไป ลืมไปเลยขอแนะนำบุคคลซึ่งเป็นที่รักและเป็นที่ชังของทหารใหม่นะคะ

ผู้ช่วยครู - คือทหารรุ่นพี่ ซึ่งหลายคนอายุก็เท่าๆกันนี่แหละ บางคนอายุน้อยกว่าชั้นด้วยซ้ำ แต่เค้าคือทหารผลัดก่อนหน้า เค้าใส่คอมแบทก่อน ต้องเรียกเค้าว่าพี่ แถมเค้าลงมาฝึกทหารใหม่ เค้ามีศักดิ์เป็นครูนะ เราต้องนับถือเค้าค่ะ กราบสิคะรอไร...
ครูฝึก - คือคนที่ใส่ปอกแขนแดงแดงค่ะ แต่ละวันก็จะสลับวันกันมา เป็นบุคคลที่ทหารกลัวมาก ถึงมากที่สุด จะอยู่ง่ายหรืออยู่ยากก็เพราะเค้านี่แหละค่ะ พวกเราเรียกเค้าว่า "สิบเวร" ซึ่งเวรจริงๆ
ผู้ฝึก - ผู้ฝึกคือผู้ควบคุมหน่วยฝึกทหารใหม่ เป็นหัวหน้าหน่วยฝึก ยศร้อยโทเราเรียกท่านว่าผู้หมวด ท่านเป็นทุกอย่าง ทหารใหม่ผลัดชั้นโชคดีที่มีผู้ฝึกดี ท่านไม่ชอบให้ผู้ช่วยครู สิบเวร ซ่อมทหาร ให้ฝึกตามกรอบอย่างเดียว ห้ามซ่อมโดยเด็ดขาด ! ซึ่งเอาจริงๆก็ค่อนข้างห้ามยาก เพราะตอนกลางคืนท่านไม่อยู่ พวกนั้นมันก็ปลุกมาพุ่งหลัง ม้วนหน้าอยู่ดี !

การทานข้าวมื้อแรก อ้วกค่ะ ! อย่าหาว่ากระแดะ หรือดัดจริตเลยนะคะ คือชั้นไม่เคยกินแบบนี้ และชั้นกินไม่ได้ มันคือข้าวเหนียวสีเหลืองๆ แข็งๆ กินกับแกงฟังทองใส่วิญญาณไก่ เค็มเค้มมมเค็ม กับซุปมะเขือดำๆ โอ้ย วันแรกเป็นอะไรที่สยองมาก ชั้นกินไม่ได้ ซึ่งก็มีผู้ช่วยครู(ทหารรุ่นพี่)สังเกตเห็นจึงเดินมาตบโต๊ะเสียงดังใส่ จังหวะนี้เกือบกริ๊ดค่ะ ดีตั้งสติทัน ไม่งั้นเป็นประเด็นแน่ค่ะ 555

ผช.ครู : ทำไมไม่กินไอ้ขาว (ชั้นเป็นคนผิวขาวมาก เค้าจึงเรียกชั้นว่าขาว)
เรา : ผมอิ่มแล้วครับครู
ผช.ครู : โกหก ไม่เห็นเอ็งแตะแม้แต่คำเดียว
เรา : เอ่อ...ผมกินมาจากบ้านแล้วครับ
ผช.ครู : เดินตามมานี่

ผช.ครูเรียกชั้นให้เดินตามไปหลังโรงเลี้ยง ในใจตอนนั้นกลัวไปหมด เพราะอ่านมาเยอะไงว่าไอ้พวกผู้ช่วยครูนี่แหละตัวดี ชอบซ้อมทหารเวลาที่ทหารคนไหนทำตัวเด่น ในใจตอนนั้นคือแบบโดนแน่ตรู สั่นไปหมด

ผช.ครู : นั่งลง !
เรา : ค่อยๆนั่งลงแบบนางงาม ครูมีอะไรรึเปล่าครับ
ผช.ครู : อ่ะ กินซะ เดี๋ยวไม่มีแรงฝึก ...ครูยื่นกล่องข้าวมันไก่มาให้กล่องนึง
เรา : ให้ผมทำไมครับ
ผช.ครู : ยืนสังเกตมานานละ เข้าใจว่ายังปรับตัวไม่ได้ ข้าวไม่กินแบบนั้นจะเอาเรี่ยวแรงไหนไปฝึก นี่มันเพิ่งเริ่มนะเว้ย
เรา : ครับ...เอ่อ...ครูชื่ออะไรครับ
ผช.ครู : บิ๊กครับ
เรา : ครับครูบิ๊ก
ผช : เราชื่อเตใช่มะ
เรา : ครูรู้ได้ไงอ่ะ
ผช.ครู : มีคนจบ ป.ตรีมาไม่กี่คน ครูอ่านประวัติมาทุกคนละ
เรา : อ่อ...ขอบคุณนะครับสำหรับข้าว
ผช.ครู : ครูซื้อให้เอ็งกินแบบนี้ไม่ได้ทุกมื้อหรอกนะ เอ็งต้องปรับตัว กินไม่ได้ก็ต้องกิน ไม่งั้นเอ็งแย่แน่ๆ ครูจะคอยช่วยอยู่ห่างๆนะ มีอะไรก็ปรึกษาครู บอกครู เข้าใจมั้ยยย !
เรา : ครับ

ครูบิ๊กคือครูที่ตอนแรกชั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องคอยสังเกตชั้นอยู่ตลอดเวลา คอยมอง คอยถามไถ่ จนบางทีชั้นก็แอบหลงตัวเองนะว่าเค้าชอบชั้น 55555 มารู้ประมาณวันที่ 4 มั้งว่าครูอยู่หมู่บ้านใกล้ๆชั้นเอง เคยเห็นชั้นบ่อย แต่ชั้นไม่เคยเห็นเค้านะ 555 สงสัยชั้นสวย ผู้เลยสังเกตและจดจำได้ง่ายถูกมะ 55555

นี่เพิ่งวันแรกนะคะ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายเหลือเกิน แต่ตอนนี้เที่ยงคืนละง่วงมากค่ะ ขอมาเล่าต่อพรุ่งนี้เช้าแล้วกันนะคะการอาบน้ำวันแรก ...พูดเลยว่าการอาบน้ำเป็นสิ่งที่ทรมานใจชั้นที่สุดของการเป็นทหาร ผู้ชาย168 คน ต้องแก้ผ้าทุกชิ้นอาบน้ำพร้อมกัน โอ้ยย ให้ตายเหอะเกิดมาไม่เคยเจออวัยวะเพศเยอะขนาดนี้มาก่อนในชีวิต มันทั้งเขิลทั้งอาย 555
ต้องบอกก่อนนะคะว่าการมาเป็นทหารของชั้น ชั้นแอ๊บแมนค่ะ ! และตลอดเวลาการฝึกจนถึงตอนนี้ที่ชั้นยังคงเป็นทหารอยู่ ก็ยังไม่มีใครรู้นะคะว่าชั้นเป็นตุ๊ด เก่งมะ 555 ซึ่งเอาจริงๆคนสงสัยในตัวชั้นค่อนข้างเยอะ เพราะด้วยบุคลิกหลายๆอย่างผู้ชายเค้าดูออกแหละใครแมนไม่แมน แต่ชั้นโชคดีที่ได้อยู่ในหน่วยทหารที่คนให้ให้เกียรติกันค่ะ อีกอย่างเราค่อนข้างที่จะอายุมากกว่าเพื่อนร่วมรุ่น การศึกษาก็สูง เพื่อนจึงไม่ค่อยมาแซวหรือเล่นแรงๆ อีกอย่างชั้นไม่ยอมรับซะอย่างใครจะทำอะไรได้ถูกมะ แต่คนเดียวที่รู้ว่าชั้นเป็นมีคนเดียวคือ "ครูบิ๊ก" เพราะเค้าเจอชั้นมาตลอดอย่างที่บอกว่าอยู่หมู่บ้านใกล้กัน ครูบิ๊กเป็นผู้ชายที่น่าจับทำผัวมากๆ ครูไม่บอกใครเลย ไม่แสดงอาการอะไรให้คนอื่นรู้เลยว่าชั้นเป็น คือครูก็คงเข้าใจแหละว่าชั้นต้องปกปิด เพื่อความอยู่รอด ถ้าเปิดออกมานี่โดนแกล้งแน่ๆ ...

วันแรกการอาบน้ำ สิบเวรให้ทุกคนแก้ผ้า ออกให้หมดทุกชิ้น และมายืนรวมกันหน้าห้องน้ำ คุณคิดภาพตามนะคะ ผู้ชาย 168 คนยืนแก้ผ้าร่อนจ้อน รออาบน้ำ เนื่องจากห้องน้ำมี 2 ห้อง เป็นห้องอาบน้ำที่มีอ่างยาวๆอยู่ตรงกลาง ฉะนั้นจึงต้องอาบทีละ 2 หมวด หน่วยฝึกชั้นมีทั้งหมด 4 หมวดค่ะ ชั้นอยู่หมวด 1 ได้อาบก่อน มันเป็นการอาบน้ำที่ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย วันแรกคือเขิลมาก อายมาก แต่หลังมาๆก็ทำใจได้ ความด้านชาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สกิลการถูการขัดก็เริ่มมา คือเห็นทุกวันจนชิน 555 แล้วในที่สุดชั้นก็ไร้ยางอาย ถ้าถามว่าเห็นของผู้ชายเยอะขนาดนั้นไม่รู้สึกเกิดอารมณ์เหรอ พูดเลยค่ะว่าไม่ ! มันไม่ได้น่าดูอะไรเลย น่าเกลียด ของบางคนก็ใหญ่จนทุเรศ บางคนก็เน่าเพราะฉีดมา บางคนก็เท่าไม้ตะเกียบจนเป็นเรื่องตลกก็มี 55555 ไม่เคยเกิดอารมณ์เลยขอบอก !

บางวันสิบเวรอยากเล่นพิเรนก็ให้เล่นอาบน้ำรถไฟ คือจูงอวัยวะเพศกันเดินไปอาบน้ำ บางวันก็ให้แก้ผ้าออกกำลังกายในห้องน้ำ บางวันก็ให้เอาสบู่ล้างให้กัน โอ้ยยสารพัด แต่มันก็เป็นเรื่องตลกๆไปนะ ไม่มีใครคิดอะไรหรอก ชั้นเองก็มองว่ามันเป็นกิจกรรมคลายเครียดดี 5555

ส่วนเพื่อนสาวถามว่ามีมะ ตอบเลยค่ะ มี ! เยอะด้วยทั้งเปิดตัวและไม่เปิดตัว ส่วนพวกปิดๆเนี่ย ดูกันออกค่ะแต่ไม่พูด ผีเห็นผีปิดกันไม่มิดหรอก เราจะมีกลุ่มของเราค่ะ แอ๊บแมนใส่กันเพื่อความอยู่รอด เตะบอลเราก็เตะ ตะกร้อเราก็เล่นค่ะ เพื่อความเนียน 555

..........ขออภัยนะคะที่เข้ามาๆหายๆ วันนี้วันสงกานต์เนอะ ก็ออกไปแรดบ้าง แอ๊วผู้กับเพื่อนสาวบ้าง นานๆได้ลาหยุด 5555 พูดถึงเพื่อนสาวในค่ายชั้นก็มีนะคะ
คนแรกชื่อ "ไผ่" ไผ่เป็นเกย์ที่ตอนแรกผมไม่รู้เลย ผมมองเค้าเป็นผู้ชายที่น่าตาดีมากคนนึง สูง คม เข้ม หล่อมากกกก แรกๆนี่คือผมปลื้มนะ เค้าดูเป็นคนอัธยาศัยดีชอบเดินคุยกับคนนั้นทีคนนี้ที เวลาชั้นได้คุยกับไผ่นี่คือช่วงเวลาฟิน มันเป็นคนน่ารักเบอร์ใหญ่มาก ถ้าให้บอกว่าไผ่น่าตาประมาณไหนก็มีส่วนคล้ายเวียร์เหมือนกันนะ สูง คม เข้ม ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก เพราะไผ่ชอบช่วยเหลือคนนั้นคนนี้ช่วงฝึก เช่นเพื่อนเป็นลม ไผ่จะรีบวิ่งไปช่วยก่อนใครเสมอไม่ว่าจะอยู่ไกลหรือไกล้ เวลาเพื่อนโดนทำโทษจากผู้ช่วยครูแบบไม่มีเหตุผล ไผ่จะคอยเป็นปากเป็นเสียแทนเพื่อนเสมอ สุดท้ายมันนั่นแหละก็โดนเล่นซะเอง เวลาเพื่อนโกรธครูมากๆ ไผ่ก็จะคอยปลอยเพื่อนเสมอว่าให้อดทน คือไผ่เป็นทุกอย่างสำหรับชั้นนะ ชั้นปลื้มมากก นี่คือพ่อของลูก เดี๋ยว ใช่เหรอ !

ประมาณสับดาห์ที่ 3 ของการฝึก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชั้นถูกจำหน่ายงานออกข้างนออก จ่าให้ไปทำความสะอาดบริเวณหลังค่ายกับไผ่สองคน ชั้นกริ๊ดในใจดั่งเก้งเดือน 12 กำลังจะเจอควายป่าผู้บึกบึนขย่มกลางป่า 555555 นี่ก็มโนเกิ๊น จังหวะที่เราได้ทำงานด้วยกันชั้นก็เก็บขยะ กวาดใบไม้ไป ไผ่ก็ใช้ความบึกบึนและแข็งแรงตัดหญ้า เหงื่อโชก เปียกชุ่มไปทั้งตัว คุณเอ๊ยย นี่มันฆ่าชั้นทางอ้อมชัดๆ ก็ทำงานกันไปได้ซักพัก ไผ่ก็ชวนมานั่งพักใต้ร่มไม้ด้วยกัน และได้คุยกันนานๆครั้งแรก และชั้นก็ได้รับรู้ความลับของไผ่เป็นคนแรก...

ไผ่ : เบื่อเนอะ เมื่อไหร่จะผ่านไปวะ
เรา : เราก็ว่างั้นอ่ะ แล้วนี่แกไหวป่ะวะ
ไผ่ : สบาย เออ...นี่แกเป็นเกย์ใช่มะ

ผมหน้าซีด คือ..เรื่องนี้มีแค่ครูบิ๊กที่รู้ แล้วแกมารู้ได้ไง ก็เลยตอบกลับไป " บ้า เกย์ไร"

ไผ่ : ไม่ใช่เกย์ ก็ ตุ๊ดถูกมะ ?
เรา : แกเป็นไรเนี่ย ถามไรไม่คุยนะ
ไผ่ : เข้าใจนะว่าคนแบบเรา ประเภทแบบเรา มาใช้ชีวิตในค่ายเราก็ต้องปกปิดเป็นธรรมดา ขืนเปิดเผยออกไปมีหวังลำบากแน่ โดนเล่นพิเรนๆแน่
เรา : เดี๋ยวนะ !....คนแบบเรา ? ประเภทแบบเรา ? ยังไงวะ ....แก...?
ไผ่ : ดูไม่ออกอ่ะดิ 55555 แต่จริงๆอยู่ข้างนอกเราก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะ เราว่าเราก็เป็นผู้ชายปกติแหละ เพียงแค่เราไม่ได้ชอบผู้หญิงเฉยๆ
เรา : เรดาร์ชั้นพังว่ะ ชั้นดูแกไม่ออก 5555

หลัจากนั้นไผ่กับชั้นก็กลายเป็นเพื่อนที่ตัวติดกันตลอด มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ดูแลกันเป็นเพื่อนที่ชั้นโอเคมากๆ และรู้สึกว่าโชคดีที่เจอเพื่อนแบบนี้ในค่าย คิดไม่ออกจริงๆว่าถ้าไม่มีมันนั้นจะใช้ชีวิตอยู่ให้รอดยังไง

เพื่อนคนต่อมา ชื่อกิต เป็นตุ๊ด ที่ไม่ปกปิดเลย ยอมรับเลยว่ามันเป็นตุ๊ด และแรดมากในค่าย กิตจบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งทางด้านนิติศาสตร์นะคะ ความรู้เรื่องกฎหมายนางแน่นมาก นางชอบเอาผ้าปูที่นอนมาทำเป็นชุดเดรสยาวๆ เอาผ้าเช็ดตัวมาทำเป็นผม แล้วเดินอ่อยไปทั่วโรงนอน ซึ่งนางก็สร้างความสนุกสนานให้เพื่อน เพื่อนๆทุกคนรักนางมาก ผู้ชายก็ชอบเข้าหานางนะ นางไม่มีพิษมีภัย อยู่ด้วยแล้วสนุก ตอนอาบน้ำนางก็ไม่แยกอาบนะคะ แก้ผ้าอาบกับผู้ชายเลยค่ะ แล้วนางก็จะเดินไปเดินมาแล้วเช็คไม้ ว่าของใครเลิศ ของใครนก 5555 ผู้ชายก็เต็มใจให้นางตรวจเช็คนะ เพราะเอาจริงๆไม่มีใครอายแล้วล่ะ นางก็ไม่ใช่ว่าจะคิดจริงจังแค่เล่นขำๆตามประสาเพื่อน และที่สำคัญนางรู้ว่าชั้นเป็น และชอบแซวชั้นบ่อยๆ แต่นางก็ไม่เคยแฉใครเลยนะ นางไม่ยุ่งเลย นางบอกเข้าใจว่าถ้าเปิดแบบนาง ชั้นคงไม่เก่งที่จะแรดได้น่ารักเหมือนนางแน่ๆ

มีวันนึงเป็นวันที่เราต้องยิงปืน ปืนที่ใช้ยิงของค่ายชั้นคือ HK 33 เป็นปืนที่เก่าและหนักมากกก ประมาณ 3-4 โล แล้วยิงให้แม่นทำได้ยากมาก คือด้วยสายตาของคนทั่วไป ทุกคนมองว่าอิกิตไม่รอดแน่ๆ จ่าสั่งเลยว่าใครที่เป็นมือปืนเป้าสะอาด คือยิงไม่เข้าเป้าเลยต้องม้วนหน้ากลับหน่วยนะคะ อิกิตที่ทุกคนมองว่าไม่รอดแน่ๆ นางสบัดบ๊อบค่ะ และขอเป็นคนยิงทดสอบคนแรก ทุกคนปรบมือสิคะ กิตหยิบปืนขึ้นมา ใส่กระสุน 10 นัด ปลดคั้นรั้ง เปิดห้ามไกล นางยิงปั้งๆๆๆ ด้วยความมั่นใจ 10 นัดผ่านไปนางใช้เวลายิงไม่ถึง 2 นาที ด้วยท่านอนยิง จ่าเดินตรวจเป้า ปรากฎว่า 10 นัดเข้าเป้าทุกนัด และเข้าตรงคะแนนสำคัญด้วย ทุกคนอึ้ง ทุกคนมองด้วยความประหลาดใจ กิตตอนนั้นกลายเป็นตุ๊ดฮีโร่ กลายเป็นตุ๊ดแม่นปืน ที่มาตรฐานสูงมาก หลังจากจ่าเก็บเป้ากลับมา ก็มาสั่งอิกิตพุ่งหลังทันที 100 ยก ทุกคนต่าง งง อิกิตทำอะไรผิด ปรากฎว่า เป้าของนางคือเบอร์ 10 แต่นางดันไปยิงเข้าเป้าเบอร์ 11 กิตคะ แกยิงผิดเป้าค่ะ 5555555 ก็ปลายเป็นเรื่องเฮฮากันไปในช่วงนั้น

ที่มา http://m.pantip.com/topic/35030891