The Bible John ฆาตกรต่อเนื่องที่กลาสโกว์
โพสท์โดย กำปวงปั๊วะทม
แพทริเชีย ด็อคเกอร์
ปี 1968 ในกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ แพทริเชีย ด็อคเกอร์ อายุ 25 ปี จำเป็นต้องหาความบันเทิงใส่ตัว
หลังจากหยุดพักจากงานประจำของเธอ เธอเป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในเมืองกลาสโกว์ แต่งงาน
และมีลูกพึ่งหัดเดิน สามีของเธอเป็นจ่าอากาศกำลังประจำการอยู่อังกฤษ เธอจึงฝากลูกชายของเธอให้พ่อกับแม่เธอ
เลี้ยงดูชั่วคราว ก่อนที่เธอจะออกนอกบ้านตอนเย็นเพื่อไปเต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์ บอลรูมกับเพื่อนๆ
บาร์โรว์แลนด์ บอลรูมเป็นสถานที่จัดงานเต้นรำและดนตรีที่ได้รับความนิยมสมัยนั้น
แม้ว่ามันจะถูกสร้างในปี 1930 แต่จนปัจจุบันมันยังยืนหยัดมีชื่อเสียง เนื่องจากบอลรูมมักจัดงานคอนเสิร์ตใหญ่บ่อยครั้ง
หลายครั้งต่างมีนักร้องชื่อดังมาร้องเพลงมากมายจนเป็นชื่นชอบของใครหลายคน โดยสมัยก่อนนั้นหนุ่มสาวมักมาเต้นสุดเหวี่ยงกัน
บางคนก็มาจีบหญิง (ทั้งบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์) ซึ่งผู้ชายบางคนอาจโชคดีได้ผู้หญิงเป็นของฝากติดมือตอนกลับบ้านอย่างมีความสุขก็ได้
แพทริเชียได้แต่ตัวที่ดีที่สุดของเธอ และแต่งหน้าแต่งตาเพื่อไปเต้นรำในบาร์โรว์แลนด์ บอลรูม ความจริงแล้วเธอไม่ได้
โดดเด่นท่ามกลางฝูงชนในบอลรูมแห่งนี้นัก แต่กระนั้นก็มีพยานหลายคนจำได้คร่าวๆ ว่าในตอนที่เธอกำลังเต้นรำสนุกสนาน
เธอก็ถูกชายคนหนึ่งทัก ชายหนุ่มคนหน้ามีใบหน้าหล่อเหลาเป็นอย่างมาก จนเธอเริ่มหลงใหล มองตา สบตากัน
พูดคุยอย่างถูกคอ ก่อนที่ทั้งคู่จะออกจากบาร์และหายไปในความมืดมิดของถนนกลาสโกว์
ขณะที่ดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าของวันศุกร์ที่ 23 ช่างทำประตูกำลังออกไปทำงานก็ได้สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่างแปลกๆ
นอนข้างในโรงรถของเขา มีและเมื่อเขาทำการตรวจสอบก็ตกใจเมื่อพบว่านั้นคือศพของผู้หญิงเปลือยกาย เขาจึงรีบวิ่งออกไป
เพื่อแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจได้มาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากตรวจสอบศพคร่าวๆ ก็พบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวตายหลายชั่วโมง เธอถูกฆ่ารัดคอ
แต่ไม่ทราบว่ามันใช้เชือกหรือเข็มขัดกันแน่ และสิ่งที่สยดสยองที่สุดคือฆาตกรได้ทำร้ายร่างกายเหยื่อผู้หญิงอย่างหนักจนใบหน้า
และศีรษะถูกมันทำร้ายอย่างสาหัสสากรรจ์ มีทั้งรอยชกต่อยและรอยเท้า จากการค้นหาคร่าวๆ ไม่พบเสื้อผ้าหรือสถานที่ใกล้เคียง
เชื่อว่าเธอคงถูกฆ่าที่อื่น ก่อนจะนำศพมาทิ้งในโรงรถ แต่ไม่ถูกข่มขื่น หรือทำร้ายทางเพศแต่อย่างใด และพบว่าเธอมีประจำเดือน
ต่อมาพ่อแม่ของแพทริเชียได้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าพบศพเปลือยหญิงสาว ใกล้บ้านของพวกเขาไม่กี่เมตร พวกเขารู้ทันที
ว่าลูกสาวของเธอถูกฆาตกรรมซะแล้ว จึงได้แจ้งตำรวจเพื่อระบุตัวผู้ตายทันที ตำรวจสอบถามชาวบ้านในท้องถิ่นและกระจายกำลัง
ทั่วพื้นที่เพื่อหาเสื้อผ้าและกระเป๋าถือของแพทริเซียที่นำตัวติดไปด้วย ซึ่งพวกเขาได้พบกระเป๋าดังกล่าวในแม่น้ำไคลด์ใกล้เคียง
ส่วนข้าวของอื่นๆ ไม่สามารถกู้คืนได้
หนึ่งในพื้นบ้านได้บอกว่าเขาได้ยินสียงร้องขอความช่วยเหลือในช่วงชั่วโมงแรกของวันที่ 23 กุมภาพันธ์ หากแต่ข้อมูลดังกล่าว
คลุมเครือเกินไปทำให้ไม่มีประโยชน์มากนัก และเมื่อตำรวจรู้ว่ามีคนพบเห็นเธอครั้งสุดท้ายที่บาร์โรว์แลนด์ บอลรูม ตำรวจจึง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาเบาะแส หากแต่ไม่มีใครช่วยเหลือหรือให้ข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ตำรวจมากนัก
ต่อมาภาพเสื้อผ้าของแพทริเซียถูกกระจายไปทั่วพื้นที่ โดยตำรวจหวังว่าจะมีใครจำได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับเธอหลังออกจาก
บาร์โรว์แลนด์ บอลรูม แต่การสืบสวนก็ยังมืดแปดด้าน อีกทั้งการตายของแพทริเซียยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการฆาตกรรม
ต่อเนื่องในกลาสโกว์เท่านั้น
ไบเบิล จอห์น (The Bible John)
ไบเบิลจอห์น เป็นฉายาของฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้หญิง 3 คนหลังจากออกมาจากห้องเต้นรำ บาร์โรว์แลนด์ บอลรูน
ใจกลางนครกลาสนครกลาสโกว์ ระหว่างปีค.ศ. 1968 และ ปี 1969 แม้จะมีการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2012
แต่ฆาตกรรายดังกล่าวยังไม่ถูกจับ แม้ว่าข้อสันนิษฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดว่าไบเบิล จอห์นอาจเป็นปีเตอร์ โทบินฆาตกร
ต่อเนื่องซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาอาจอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมของไบเบิล จอห์น หากแต่จนบัดนี้ก็ไม่มีหลักฐานใดๆ
พิสูจน์แน่ชัดว่าปีเตอร์ โทบินเป็นไบเบิล จอห์นดังกล่าว
เจมิน่า แม็กโดนัลด์
ปีครึ่งหลังจากพบศพของแพทริเซียในบริเวณใกล้บ้านพ่อแม่ของเธอ และการสืบสวนของตำรวจไม่พบอะไรใหม่ๆ เลย
ในที่สุดกลาสโกว์ก็ได้ลืมคดีฆาตกรรมเล็กๆ นี้ไปชั่วขณะ จนกระทั้งในช่วงเย็นของวันที่ 16 สิงหาคม 1969 เจมิน่า แม็กโดนัลด์
แม่บ้านลูกสาม เตรียมตัวไปเต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์กับน้องสาวของเธอ ซึ่งกลางเต้นในสถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นกิจกรรมยามว่าง
ที่เธอชอบมาก
ในเย็นวันนั้นเจมิน่าแต่งตัวแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยเสื้อสีดำ กระโปงบานสีขาว คลุมด้วยโอเวอร์โค้ตสีน้ำตาล หิ้วกระเป๋าถือ
จากคำบอกเล่าของพยานนักเต้นในตอนนั้นพบว่าเธอใช้เวลาส่วนใหญ่เต้นรำกับผู้ชายคนหนึ่ง รูปร่างสูง อยู่ในชุดสูทสีฟ้า
ซึ่งเป็นแบบฉบับการแต่งกายของชายหนุ่มเวลานั้น หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินออกจากบาร์โรว์แลนด์ ก่อนที่จะหายไปในถนนยามค่ำคืน
เช้าวันต่อมา มาร์กาเร็ต น้องสาวของเจมิน่า ที่อยู่แฟลตเดียวกันในแม็คคีธ สตรีท สงสัยว่าทำไมพี่สาวของเธอไม่มารับ
ลูกของเธอที่เธอฝากคนอื่นเลี้ยงก่อนที่จะออกไปเต้นที่บอทรูม และเมื่อเวลาผ่านไปความวิตกกังวลของเธอก็ยิ่งฟุ้งซ่านขึ้น
ทันใดนั้นเอง เธอได้ยินเสียงเด็กในพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่นอกหน้าต่างของเธอพูดคุยกับการพบศพน่ากลัวที่อยู่ใกล้กับ
อาคารร้างในพื้นที่ใกล้เคียง มาร์กาเร็ตได้ยินเรื่องดังกล่าว เธอก็เริ่มสนใจประกอบกับลางสังหรณ์น่ากลัวอะไรบางอย่าง
เธอเลยถามหนึ่งในเด็กนั้น ว่าศพถูกพบที่ไหน และเมื่อเธอไปเธอก็พบว่าศพที่ตายดังกล่าว ก็คือเจมิน่าพี่สาวของเธอนั่นเอง
สภาพศพของเจมิน่าแต่งต่างจากแพทริเซียเล็กน้อย ตรงที่เจมิน่าสวมเสื้อผ้าเกือบครบชุด ไม่เปลือยเหมือนแพทริเซีย
ส่วนนอกนั้นเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็นถูกทำร้ายร่างกายและถูกฆ่ารัดคอ (ด้วยถุงน่อง) กระเป๋าถือของเธอหายไป
และถูกพบใกล้กับบ้านของเธอ และนอกจากนี้พวกเขาก็พบความคล้ายคลึงอีกอย่างก็คือทั้งเหนื่อแพทริเซียและเจมิน่า
ทั้งคู่ต่างมีประจำเดือนในช่วงเวลาที่พวกเขาเสียชีวิต เชื่อเลยว่านี้คือฆาตกรต่อเนื่องแน่นอน
เมื่อตำรวจทราบว่าทราบอีกว่าเจมิน่าได้ไปไปเที่ยวบาร์โรว์แลนด์ บอลล์รูม เต้นรำกับชายลึกลับที่มีเสน่ห์ บุคลิกท่าทาง
หน้าตาดียอดเยี่ยม ตำรวจยิ่งเชื่ออีกว่าเขาน่าจะเป็นฆาตกรที่ฆ่าเจมิน่า ตำรวจจึงรีบไปสืบอีกครั้งเพื่อไปหาพยานเพื่อระบุ
ผู้ต้องสงสัยดังกล่าว แต่ก็เหมือนเดิมตำรวจคว้าน้ำเหลว เพราะไม่มีใครในที่นี้ช่วยเหลือตำรวจมากนักเนื่องจากพวกเขา
ไม่อย่างเปิดเผยตัว อย่างที่รู้บาร์โรว์แลนด์เป็นสถานที่อโคจรที่คนมีครอบครัวไม่อยากไปกัน หากฝ่ายครอบครัวรู้มีหวังบ้านแตก
ส่งผลทำให้ตำรวจไม่รู้เลยว่าชายที่อยู่กับเจมิน่าในช่วงเวลาสุดท้ายที่มีคนพบเห็นเป็นใครกันแน่?
อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยตำรวจก็ได้ภาพสเกตฆาตกรได้เป็นครั้งแรก ซึ่งภาพสเกตที่เป็นชายลึกลับราว 25-35 ปี ผอม
หน้าตาค่อนข้างดีถูกนำไปติดประกาศและลงข่าวหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชนทั่วไป เพื่อเป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุม
ตัวมาให้เร็วที่สุด เพราะคิดว่าเขาคงอยู่ในกลาสโกว์ และทำตัวเด่นอย่างนี้ ชาวบ้านหรือไม่ใครสักคนน่าคงเคยพบเห็นแน่ๆ
เฮเลน พุตท็อค
ในวันช่วงใกล้วันฮัลโลวีน เฮเลน พุตท็อค แม่บ้านเมียทหารอายุ 20 ปี ได้ตัดสินใจใช้เวลาช่วงเย็นของวันที่ 30 ตุลาคม 1969
ไปเต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์กับเพื่อน สามีของเธออยู่บ้านกับลูกชายสองคนและไม่ได้ห้ามเฮเลน เพียงแต่เตือนภรรยาให้ระมัดระวังตัว
เพราะตอนนี้มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฆ่าผู้หญิงอาละวาดอยู่ เฮเลนก็รู้ดีหากแต่เธอคิดว่าปลอดภัยเพราะเธอไม่ได้ไปคนเดียว
เพราะเธอไปน้อสาวของเธอด้วย
เฮเลนแต่งตัวที่ดีที่สุดในเวลานั้น เต้นรำที่บาร์โรว์แลนด์กับเพื่อนกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ในช่วงเวลาดังกล่าวมีพยานเล่าว่า
เฮเลนถูกชายหนุ่มร่างสูงใหญ่คนหนึ่งจ้องมองเธอโดยเฉพาะ ชนิดว่าไม่คาดสายตาเลยแม้แต่น้อย ระหว่างนั้นเฮเลนและน้องสาว
ของเธอก็ได้คู่เต้นรำ โดยคู่ของเฮเลนและน้องสาวของเธอต่างชื่อ “จอห์น” เหมือนกันหมด ซึ่งชื่อจอห์นนั่นเป็นนามแฝง
ของผู้ชายส่วนใหญ่ที่มาเต้นบาร์โรว์แลนด์ ที่ต้องการปกปิดตัวตนจริงๆ
โดยเฉพาะจอห์นคู่ของเฮเลนนั้น เป็นคนหล่อ แต่งกายดี สูงใหญ่ ใครเห็นก็น่าคบหาสมาคมด้วย
หลังจากทั้งสี่คนเต้นกันจนเหนื่อย จนกระทั้งถึงเวลากลับบ้าน ทั้งจอห์นคู่ของเฮเลนอาสาพาสองสาวนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านด้วยกัน
เมื่อทั้งหมดอยู่ในรถแท็กซี่ ในตอนนั้นจอห์นคู่ของเฮเลนก็มีลักษณะแปลกๆ กล่าวคือเขาเริ่มเล่าว่าตนถูกเลี้ยงดูในครอบครัว
ที่เคร่งศาสนา เข้มงวด นอกจากนี้เขายังท่องบทสวดพระคัมภีร์ชนิดที่เรียกว่าแตกฉานไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย
นอกจากนี้เขายังบอกว่า เขารังเกียจคนที่บาร์โรว์แลนด์ในคืนวันพฤหัสบดีนี่จริงๆ เลย ยิ่งพวกผู้หญิงที่ชอบมาเที่ยวทำตัว
นอกใจสามีและภรรยาที่บ้านยิ่งเลวชาติชั่วเหลือเกิน เขาขยะแขยงผู้หญิงที่คบชู้สู่ชาย ฯลฯ ในเวลานั้นจอห์นคู่ของเฮเลน
น่ากลัวมาก เขาดูเหมือนอารมณ์เสียตลอดเวลา ทำให้คนบนรถเวลานั่นอึดอัดมาก จนกระทั่งรถแท็กซี่ถึงบ้านน้องสาวของเฮเลน
จะลงจากรถ และโบกมือลาพี่สาวของเธอและจอห์น ซึ่งนั่นคือนาทีสุดท้ายที่จินนี่เห็นพี่สาวในสภาพมีชีวิตอยู่!!
เช้าวันถัดมามีการพบศพเฮเลนนอนในแถวถนนสายที่ 95 เอิร์ลสตรีต ใกล้บ้านของเธอในสภาพถูกข่มขืนและรัดคอ
และข้าวของในกระเป๋าถือของเธอกระจัดกระจายในบริเวณใกล้เคียง แต่กระเป๋าหายไป ชี้เห็นว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
ที่สังหารผู้หญิงสองรายก่อนหน้า จากสภาพแวดล้อมแสดงให้เห็นว่าเฮเลนได้มีการต่อสู้กับฆาตกร ซึ่งเชื่อว่าฆาตกร
น่าจะเป็นคนเดียวกับจอห์นที่อาสาเฮเลนไปส่งที่บ้าน
ตำรวจจำลองสถานการณ์เป็นไปได้ว่าจอห์นกับเฮเลนได้ขอแท็กซี่จอดที่เอิร์ลสตรีท จากนั้นไม่ทันที่จอห์นจะพาเฮเลน
ไปส่งถึงบ้าน เขากลับกลายเป็นฆาตกร ทำร้านเฮเลน แต่เฮเลรนพยายามต่อสู้ขัดขืนด้วยการตัดหรือไม่ก็ต่อยดิ้นรนแบบสุดฤทธิ์
แต่จอห์นก็ตอบโต้ด้วยการชกเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอย่างรุนแรง จากนั้นก็กัดเธอจนเป็นแผลอย่างน่ากลัว สุดท้ายมันก็ลากเธอ
ไปตรงทางเข้าแฟลต กระชากถุงน่องออกแล้วข่มขืนอย่างทารุณเสร็จแล้วก็เอาถุงน่องตวัดรัดคอ
มีพยานเล่าว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุมีคนเห็นคนที่เชื่อว่าจะเป็นจอห์นอยู่ในสภาพสะบัดสะบอม มีรอยขีดข่วนบนใบหน้าของเขา
ได้ขึ้นรถบัสสาย Sauchiehall Street และเขาถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายในขณะมุ่งหน้าไปทางเรือข้ามฟากประชาชนเพื่อข้าม
แม่น้ำไคลด์ไปทางด้านทิศใต้ของเมือง
จากการตรวจสอบสภาพศพของเฮเลนก็พบเรื่องตกใจ เพราะว่าเธอเป็นประจำเดือน และที่น่าขนลุกคือ ตำรวจพบผ้าอนามัยโชก
ไปด้วยเลือดประจำเดือน ซุกใส่ใต้รักแร้ของเฮเลน และฆาตกรได้ทิ้งคราบอสุจิของมันทิ้งไว้บนเสื้อของผู้ตายซึ่งเป็นครั้งแรก
ทั้ง 3 คดีมีความคล้ายคลึงอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็น 3 ผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งหมดได้ใช้เวลาคืนสุดท้ายที่บาร์โรว์แลนด์ บอลรูม,
ทั้งสามถูกรัดด้วยถุงน่องของตัวเอง, ศพของเหยื่อแต่ละคนถูกทิ้งในสถานที่ไม่ไกลจากบ้านขของเหยื่อ, กระเป๋าของทั้งสาม
หายไปจากที่พบศพ (หากเก็บเป็นที่ระลึก และผู้ตายทั้งสามเป็นประจำเดือนตำรวจและสื่อมวลชนได้ตั้งชื่อฆาตกรรายนี้ว่า
“ไบเบิล จอห์น” จากคำบอกเล่าของน้องสาวเฮเลนนั้นถือว่าเป็นคำให้การที่น่าเชื่อถือมากที่สุด โดยภาพสเกตฆาตกรถูกพิมพ์
หราบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์และติดประกาศไปทั่วกลาสโกว์
ตามคำบอกเล่า ไบเบิล จอห์น เป็นชายอายุ 20-30 ปี สูงราว 5 ฟุต 10 นิ้ว ถึง 6 ฟุต รูปร่างปานกลาง ผมสั้นแดง หวีปัด
ไปทางขวา เขามีนัยน์ตาสีฟ้าเทา ฟันขาวเป็นประกาย และมีเขี้ยวที่ริมฝีปากบนด้านซ้าย เป็นคนมีบุคลิกดีมาก รูปร่างหน้าตาดี
เสื้อสูท มีนาฬิกาข้อมือของเขาแบบที่ทหารในกองทัพใช้กัน และสูบบุหรี่ยี่ห้อแอมบาสซี่ ลักษณะการพูดจาสุภาพดูเป็นคนมี
การศึกษาดีมาก และอาจมาจากความเข้มงวดเคร่งศาสนา เพราะเอ่ยถึงข้อความในไบเบิลดีอย่างไม่มีที่ติ สำเนียงการพูดเป็น
ชาวกลาสโกว์แท้ๆ
อย่างไรก็ตามเวลาผ่านไป ก็ไม่มีเบาะแสใดๆ ว่ามีคนเห็นฆาตกรในใบประกาศแต่อย่างใด บางคนยังสงสัยด้วยซ้ำว่าน้องสาวเฮเลน
อาจจำหน้าฆาตกรคาดเคลื่อน เนื่องจากตอนนั้นมืดอีกทั้งเธอยังเมาเหล้า อีกทั้งมีความเป็นไปได้ไหมว่าชายที่เป็นคู่ของเฮเลน
ในวันนั้นอาจไม่ใช่ฆาตกร หากแต่เป็นคนที่ดักรอฆ่าเฮเลนหลังจากลงรถแท็กซี่ก่อนแล้ว
ต่อมาจอร์ช สามีของเฮเลน ออกรายการทีวี ขอร้องให้ "ไบเบิล จอห์น" ออกมามอบตัว ส่วนสาธารณชนทั้งหลายก็อยากร่วมมือด้วย
ต่างแห่ไปที่กรมตำรวจถึง 4300 ราย บอกว่าจำ "ไบเบิลจอห์น" ในรูปโปรเตอร์ได้ แต่สุดท้ายก็ตำรวจก็ไม่สามารถตามจำไบเบิล จอห์น
ได้เลย เหมือนกับว่าฆาตกรได้หายตัวไปจากเมืองกลาสโกว์อย่างไร้ร่องรอยอย่างงั้น
ไม่นานนักตำรวจก็พบผู้ต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นไบเบิล จอห์น คือ จอห์น เอ็ม หรือ จอห์น เออร์วีน แม็คอินเนส ซึ่งรูปร่างหน้าตาของ
เขานั้นเหมือนจอห์น ไบเบิลอย่างกับแกะ จากประวัติก็พบว่านิสัยของเขาช่างเหมือนคนที่เฮเลนพบเห็นวันนั้นไม่มีผิด เขาหย่ากับภรรยา
จนเป็นโรคหดหูซึมเศร้าถึงขนาดพยายามฆ๋าตัวตายหลายครั้ง อยู่ในลัทธิเคร่งศาสนา
เมื่อตำรวจเรียกมาสอบปากคำ ก็พบว่าจอห์น เอ็มนั้นเป็นลูกค้นประจำคนหนึ่งในบาร์โรว์แลนด์ และเป็นชายหนุ่มที่ตรงกับฆาตกร
หากแต่ตำรวจไม่มีหลักฐานเอาผิดเขา แม้จะถึงเรียกมาสอบสวน 4 ครั้งแต่ก็หลุดพ้นข้อกล้าวหาทุกครั้ง จนกระทั่งปี 1980
เขาก็ฆ่าตัวตายด้วยการเอามีดเชือเดรักแร้ของตัวเอง จนเลือดไหลหมดตัวตาย ในขณะอายุ 41 ปี ศพของเขาถูกฝังในสุสานเซนต์นิเนียส์
คดีของไบเบิล จอห์นยังคงไขไม่ออก แม้ว่าจะมีการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง หากแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสคืบหน้า จนกระทั่งถึงปลายปี 1990
นิติวิทยาศาสตร์มีความเจริญมากขึ้น กลาสโกว์ก็เริ่มพยายามไขปริศนาไบเบิล จอห์นจากแฟ้มคดี ซึ่งคราวนี้พวกเขาได้เน้นการตรวจสอบ
ดีเอ็นเอที่ได้จากรอยแผลกัดในร่างกายของเฮเลน และน้ำเชื้อที่ได้จากเสื้อผ้าของเธอ
แน่นอนว่าชื่อของจอห์นเอ็มก็ถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง ศพของเขาถูกขุดขึ้นมา เมื่อปี 1996 แม้เขาจะตายไปนานแล้วก็ตาม และนำดีเอ็นเอ
มาเปลี่ยนเทียบ แต่สุดท้ายผลออกมาก็สรุปว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับไบเบิล จอห์นแม้แต่น้อย
ปีเตอร์ โทบิน
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2004 ไบเบิล จอห์นได้กลับมาเป็นหัวข้อพาดข่าวอีกครั้ง เมื่อตำรวจชีการตรวจสอบดีเอ็นเอสมัยใหม่มา
เปรียบเทียบคนในกลาสโกว์ โดยโฆษกตำรวจกล่าวอย่างมั่นใจว่าวิทยาศาสตร์สมัยใหม่จะสามารถแก้ไขคดีฆาตกรรมที่ไขไม่ออกนี้ได้
วันที่ 4 พฤษภาคม 2007 ผลจากการตรวจสอบ พวกเขาก็พบรายชื่อผู้ต้องสงสัยรายใหม่ “ปีเตอร์ โทบิน” ที่เชื่อว่าเป็นไบเบิล จอห์น
ปีเตอร์ โทบินตอนที่ถูกตำรวจจับนั้นเขาอายุปาไป 61 ปีไปแล้ว และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในคดีข่มขืนและฆาตกรรมต่อเนื่อง
ผู้หญิงสามคน และสุดท้ายมาพลาดท่าในปี 2006 จากคดีสังหาร Angelika Kluk ในกลาสโกว์ และมีการพบซากโรงกระดูก
ของผู้หญิงสองคนที่หายไปในปี 1991 ในบ้านเก่าของเขาที่เคยอาศัยอยู่ในมาร์เกท ซึ่งหากโทบินเป็นไบเบิล จอห์นตัวจริง
ในวันที่เกิดคดีเขาน่าจะมีอายุประมาณ 22 ปีเศษ
โทบินเกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 1946 เป็นบุตรคนเล็กของพี่น้องเจ็ดคนและฐานะยากจน ผ่านการแต่งงานมาสามครั้ง
และทั้งหมดหย่าขาด จากนั้นในปี 1993 เขาก็ทำร้ายและข่มขืนผู้หญิงอายุ 14 ปีสองคน และพยายามฆ่า หากแต่สอง
คนรอดชีวิตมาได้ และเขาก็ถูกจับในขณะที่เขาปลอมตัวทำงานในนิกายแห่งหนึ่งในโคเวนทรีในชื่อปลอม และถูกตัดสิน
จำคุก 14 ปี จนกระทั่งปี 2004 เขาออกมาสู่โลกภายนอก
ในเดือนกันยายน 2006 โทบินได้ทำงานในโบสถ์ของนิกายโณมันคาทอลิก เซนต์แพทริกในกลาสโกว์ ในชื่อปลอมเพื่อ
หลีกเลี่ยงในการตรวจสอบประวัติต้องโทษ และเขาก็ยังคงก่อคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายต่อเนื่อง ซึ่งเวลานั้นเองเขาได้สังหาร
Angelika Kluk นักเรียนอายุ 23 ปีจากโปแลนด์ที่เขามาโบสถ์แพทริก เขาลักพาตัวขึ้นบนรถ ทำร้าย ข่มขืน และแทงร่าง
ของเธอและซ่อนในห้องใต้ดินใกล้กับห้องรับสารภาพในโบสถ์ ตำรวจพบร่างของเธอเมื่อ 29 กันยายน หลังจากนั้นไม่นาน
และต่อมาเชาถูกถูกจับกุมในลอนดอนในระหว่างเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลภายใต้ชื่อปลอม และต่อมาบ้านเก่าของเขา
ในมาร์เกท ก็มีการค้นพบร่างของเหยื่อเสียชีวิตอีกสองคน คนแรกเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 15 ปี ที่มีคนพบเห็นเธอครั้งสุดท้าย
ในปี 1991 และอีกคนเป็นเด็กสาวอายุ 18 ปี
ตามรายงาน มีหลายฝ่ายเชื่อว่าโทบินคือไบเบิล จอห์นตัวจริง เพราะมีความคล้ายคลึงระหว่างภาพโทบินตอนยังหนุ่มใน
ระหว่างคดีที่เกิดเหตุและภาพสเกตของไบเบิลจอห์นว่าเหมือนกันมาก ในช่วงเกิดเหตุโทบินก็ย้ายมาอยู่กลาสโกว์ในปี 1969
หลังจากแต่งงานกับภรรยาคนแรกซึ่งเขาได้พบเธอที่บาร์โรว์แลนด์ บอลล์รูม ปีเดียวที่ไบเบิล จอห์นก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง
ครั้งแรกพอดี จากคำกล่าวอ้างของอดีตภรรยาของเขาบอกว่าโทบินนั้นมีแรงผลักดันใช้ความรุนแรงหากพบว่าภรรยาของเขา
มีประจำเดือน อีกทั้งเขายังเป็นพวกเคร่งศาสนาซึ่งน่าจะเป็นแรงจูงใจในการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ได้ หากเขาเป็น
ไบเบิล จอห์นตัวจริง
และที่น่าสนใจก็คือจากการสอบถามผู้ที่ตกเป็นเหยื่อข่มขืนของโทบิน พบว่าพวกเธอถูกข่มขืนโดยโทบินหลังจากที่พบเขา
ในบาร์โรว์แลนด์ บอลล์รูม นอกจากนี้ยังมีคนสันนิษฐานอีกว่าความจริงแล้วเหยื่อของไบเบิล จอห์น(ที่เชื่อว่าเป็นปีเตอร์โทบิน)
นั้นอาจจะมีมากกว่าสามคน นอกจากนี้ยังมีเหยื่อที่ถูกปีเตอร์ โทบินข่มขืน ซึ่งลักษณะการข่มขืนนั้นช่างละม้ายคล้ายกับวิธี
ของไบเบิล จอห์น
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าปีเตอร์โทบินนั้นเป็นไบเบิล จอห์นตัวจริงหรือเปล่า แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงกันแต่นั้น
ก็ไม่ใช่หลักฐานมัดตัว อีกทั้งตัวอย่างดีเอ็นเอที่ตรวจสอบนั้นมีความเสื่อมสภาพลงไปมากเนื่องจากการเก็บรักษาไม่ดี
ทำให้หลักฐานที่มัดตัวว่าเขาเป็นไบเบิล จอห์นไม่ดีพอ ส่วนตัวปีเตอร์ โรบินเองก็ปฏิเสธตลอดว่าเขาไม่ใช่ จอห์น ไบเบิล
ฆาตกรรมต่อเนื่องที่กลาสโกว์ ทำให้คดีฆาตกรรมต่อเนื่องดังกล่าวยังไม่สามารถถูกไขกระจ่างจนถึงปัจจุบัน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: วรลักษณ์, The Peachband
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดตัวตำรวจสาว นางฟ้าผู้พิสูจน์หลักฐาน สวยและเก่ง ช่วยคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์เซอร์จอห์นแฟรงคลินออกเดินทางสำรวจอาร์กติก สุดท้ายกลายเป็นมัมมีน้ำแข็งในประวัติศาสตร์จีน ทำไมจึงมีการคัดเลือกพระสนมใหม่เข้ามาในราชสำนักอยู่เรื่อยๆ แม้จะมีอยู่แล้ว?เกาหลีใต้ส่ายหน้า การท่องเที่ยวขาดดุลหนัก แม้ K-Culture จะปังไปทั่วโลกหมอเหรียญทองกำลังมองหาสถานที่เช่าสำหรับตั้งซูเปอร์คลินิก เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีบัตรทองจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเก่ง ธชย กับดราม่าขายไข่ครอบ 3 ใบ 69 บาท แพงจริงหรือสมเหตุสมผล?ทบ.มีคำสั่งให้ พล.ท.ณรงค์ สวนแก้ว เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ถูกย้ายจากตำแหน่ง หลังเกิดกรณีซ้อมที่รุนแรงนายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงมูลค่ากว่า8พันล้านบาท เมีย-ลูกสาวเผ่นหนี10 สัตว์แปลกประหลาดที่สุดในโลกที่คุณต้องทึ่งหน้าหนาวแล้วไง! 5 กีฬายอดฮิตของคนไทยที่เล่นแล้วอบอุ่นหัวใจ15 เทคนิค “การกิน” ไม่ให้แก่เกินวัย!!สระผม ทุกวัน ดีไหม วิธีสระผมที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไรHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เกาหลีใต้ส่ายหน้า การท่องเที่ยวขาดดุลหนัก แม้ K-Culture จะปังไปทั่วโลกคุณเชื่อหรือไม่ใน "มนุษย์ต่างดาว" ที่อาจมีอยู่ในจักรวาล?หน้าหนาวแล้วไง! 5 กีฬายอดฮิตของคนไทยที่เล่นแล้วอบอุ่นหัวใจ