วงจรชีวิตของขน
- Outer Cuticle เป็นชั้นนอกสุดประกอบด้วยเซลล์รูปร่างแบนวางตัว ซ้อนกัน หนาประมาณ 5-10 ชั้น ประกอบด้วยคีราติน (Keratin) ช่วยทำให้ผมมีความแข็งแรง และเป็นชั้นที่ปกป้องสิ่งสกปรกที่จะทำลาย เส้นขน
- Hair Cortex เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วยเซลล์แบนและยาว หลายชั้นหนาสุด น้ำหนักประมาณ 90% ของเส้นใยขนทั้งหมด ความยืดหยุ่นของผมขึ้นกับเส้นใยโปรตีนในส่วนนี้ นอกจากนี้ ภายในยังมี เม็ดสี Melanin ที่ถูกสร้างจากเซลล์ Melanocyte ทำให้เห็นสีผมตามธรรมชาติของแต่ละคน
- Hair Medulla เป็นส่วนของแกนผม มีหน้าที่และความสำคัญน้อยกว่า 2 ส่วนข้างต้น
ลักษณะรูปร่างของรูขุมขนจะแตกต่างกันไปในแต่ละบริเวณของร่างกาย เช่น บริเวณหนังศีรษะ รูขุมขนจะมีรูปร่างยาว และตั้งค่อนข้างตรงกับผิวหนัง ซึ่งจะสร้างผมที่ยาว เมื่อเปรียบเทียบกับรูขุมขนบริเวณลำตัวที่มีลักษณะค่อนข้างสั้นและอ้วนกว่า จึง สร้างขนที่สั้นและเล็กกว่า ส่วนคนที่มีผมหยิกหยักศกกับคนที่มีเส้นผมตรงเหยียดนั้น แตกต่างกันที่รูปร่างภาคตัดขวางของรูขุมขน คือ ถ้าเป็นรูปวงรี เส้นผมจะหยิก หยักศก แต่ถ้าเป็นรูปกลมผมก็จะยาวเหยียดตรง เช่น ผมของชาวเอเซีย
เส้นขนสามารถแบ่งตามลักษณะ (Texture) และความยาวได้หลายชนิด คือ
- Lanugo Hair จะเป็นเส้นผมชุดแรกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ มารดา มีลักษณะนุ่ม เส้นบาง สีอ่อน และจะลอกหลุดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ (Shed in Utero)
- Vellus Hair หมายถึง เส้นผมที่มีความยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตร เส้นจะบาง สีอ่อนกว่า และไม่มี Hair Medulla เช่น ขนบริเวณตัว ใบหน้า
- Terminal Hair ส่วนใหญ่จะหมายถึง ผมบนศีรษะ (Scalp Hair) จะมีความยาวมากกว่า 1 เซนติเมตร เส้นใหญ่ หนา สีเข้ม
วงจรชีวิตของขน (Hair Growth Cycle)
ขนมีวงจรชีวิตอยู่ 3 ระยะ คือ จะมีระยะเจริญเติบโต (Growth), หยุดเจริญเติบโต (Involution), และระยะพัก (Resting)
- Anagen Phase เป็นระยะเจริญเติบโต เป็นช่วงของการงอกเต็มที่ (Active Phase) เป็นระยะที่เส้นผมมีโครงสร้างสมบูรณ์แบบ ขนตาม ร่างกายจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 80% ของขนทั้งหมด แต่ละเส้นมีอายุ นานประมาณ 3 ปี ถ้าไม่มีปัจจัยมาทำให้ร่วงก่อน แต่พออายุมากขึ้น ระยะนี้ก็จะสั้นลงทำให้พบปัญหาผมบางในคนสูงอายุได
- Catagen Phase เป็นระยะที่ต่อเนื่องมาจาก Anagen Phase เป็นระยะ ที่ขนหยุดการเจริญเติบโต เตรียมพร้อมที่จะหลุดร่วง ระยะนี้กินเวลา ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น
- Telogen Phase เป็นระยะที่ต่อเนื่องมาจาก Catagen Phase เป็นช่วงที่ขนเริ่มหลุดร่วงออกมาจากโคนขน ระยะนี้กินเวลาเฉลี่ยประมาณ 1-3 เดือน และก็เวียนกลับไปสู่ระยะAnagen Phase มีขนงอกออกมา ใหม่เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไป โดยปกติผมจะร่วงประมาณวันละ 40-90 เส้นต่อวันทุกวัน
การกำจัดขนด้วยตัวเอง มีหลายวิธีด้วยกันได้แก่ การโกน ถอน และการแวกซ์
- โกน
การโกนเป็นทางเลือกที่ราคาถูก ง่าย และรวดเร็วเพราะสามารถทำเองได้ที่บ้าน และเจ็บปวดน้อย แต่การโกนนั้นทำให้ขนที่ขึ้นงอกกลับมาใหม่ได้เร็วและขนที่ งอกใหม่นั้นจะหนาและ แข็งกว่าเดิม
- ถอน
การถอนทำได้ง่าย และ ไว เช่นเดียวกับการโกน แต่การถอนนั้นจะทำให้ผิวหนัง เกิดการระคายเคืองเพราะเป็นการดึง ทำให้เกิดเป็นรอยแดง และอาจเกิดลักษณะ คล้าย ๆ หนังไก่หรือขนคุดได้
- ครีมกำจัดขน
ครีมกำจัดขนอาจทำให้เลอะเทอะได้ง่ายและควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ เพราะ บางคนอาจแพ้ส่วนผสมของครีมกำจัดขนได้ ซึ่งการใช้ครีมกำจัดขนนั้นไม่ สามารถกำจัดขนได้ถาวร เพราะจะกำจัดเฉพาะขนที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวหนังเท่านั้น
- แว็กซ์
การแว็กซ์นั้นมี 2 วิธี คือการแว็กซ์ร้อน และ การแวกซ์เย็น
- การแว๊กซ์ร้อน คือการใช้ขี้ผิ้งสำหรับแว็กซ์นำไปอุ่นให้พอเหลวและนำมา ทาในส่วนที่ต้องการกำจัดขน เมื่อขี้ผึ้งเย็นตัวลงให้ดึงในทิศทางตรงกันข้ามกับเส้นขน ซึ่งการกำจัดขนด้วยวิธีแว็กซ์ร้อนนี้จะทำให้ขนที่ขึ้นมานั้น มีลักษณะบางลง และขึ้นช้ากว่าเดิม ส่วนราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับทางร้าน โดยจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยขึ้นไป
- การแว็กซ์แบบเย็น คือ การใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเคลือบด้วยแผ่นขี้ผึ้ง มาใช้ปิดลงบนผิวหนังในทิศทางเดียวกับเส้นขน เวลาดึงออกก็ดึงในทิศทางตรงกันข้ามเหมือนแบบแรก เหมาะกับคนที่ผิวค่อนข้างบอบบางมากกว่าแบบแรกเพราะว่ามีโอกาสเกิดการระคายเคืองน้อยกว่า