การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus)
การเตรียมดินเพาะเมล็ด
ใน การเตรียมดินเพาะเมล็ดหน่อไม้ฝรั่งนั้น จะต้องไถและเกรดให้สม่ำเสมอทำให้ดินร่วนซุย แล้วยกร่องเป็นรูปร่างเหมือนแปลงผักทั่วไป โดยใช้จุลินทรีย์แห้ง (โบกาฉิ) ไร่ละ 4 ถุงใหญ่ (ประมาณ ถุงละ 25 กก.) พรวนกับดินและรดหรือพ่นด้วยจุลินทรีย์น้ำให้ทั่ว เป็นการเตรียมดินให้พร้อมในเบื้องต้น
การเตรียมเมล็ด
การ เตรียมเมล็ดหลังจากเปิดออกจากกระป๋องแล้ว ควรนำไปแช่น้ำจุลินทรีย์ (EM) อัตราส่วน 1:1000 ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงนำไปเพาะในแปลงที่เตรียมไว้ โรยเมล็ดและใช้ดินที่ผสมแล้วกอง ราดน้ำแล้วคลุมด้วยฟาง
การดูแลรักษา
ระยะ ประมาณ 10-15 วัน จะมีต้นกล้าขึ้น เมื่ออายุได้ 18-25 วัน ต้นกล้าจะงอกขึ้นมา ให้รดด้วยจุลินทรีย์น้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และรดน้ำปกติได้ทุกวัน ระยะนี้ให้หมั่นตรวจดูต้นกล้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะมักจะมีโรคและแมลงรบกวนได้
การขุดต้นกล้า
ต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่ง เมื่อขุดขึ้นมาต้องให้มีรากติดขึ้นมาเสมอ ไม่ควรตัดรากทิ้งอาจเป็น
เหง่าหัวโล้น แล้วนำไปแช่ในน้ำผสมจุลินทรีย์ไว้ประมาณ 15 นาที
การปลูกหน่อไม้ฝรั่งในแปลงจริง
หน่อ ไม่ฝรั่งเป็นพืชที่ปลูกง่าย หลังจากต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 60 วัน ได้เริ่มเตรียมปกพื้นที่ที่จะปลูกจริง โรยจุลินทรีย์แห้งไปตามร่องที่ยกไว้เมื่อปรับดินดีแล้ว อัตราส่วน 50 กก./1 ไร่ การปลูกควรให้ระยะต้นห่างกันประมาณ 5 ซม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความห่างระหว่างร่อง ซึ่งถ้าหากร่องห่างกันก็จะสะดวกในการเก็บผลผลิตหน่อไม้ฝรั่ง
การให้น้ำ
ระบบการให้น้ำมีอยู่ 3 วิธี คือ
1. ให้ตามร่อง ในกรณีที่เกษตรกรปรับดินเรียบดี
2. ให้น้ำโดยใช้สายยางรด
3. ให้น้ำโดยใช้สปิงเกอร์ วิธีนี้มีผู้นิยมกันมาก แต่ต้นทุนค่อนข้างสูง
******************************************************
การปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ รายได้หลักแสน
“ หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ”เป็น พืชผักที่มีบทบาทสำคัญของประเทศตลาดต่างประเทศมีความต้องการสูงเนื่องจาก ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความมั่นใจในระบบการผลิตเกษตรอินทรีย์ที่มีความปลอดภัย สูง หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ประกอบด้วย วิตามินเอ ซี บี บีคอมเพล็ก ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กสูง ปลูกมากที่จังหวัด สระแก้วและกาญจนบุรี การปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์จะต้องพิจารณาความอุดม สมบูรณ์ของดิน มีการปรับปรุงบำรุงดินโดยการใช้สารอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทุกชนิดที่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งคน สัตว์สิ่งแวดล้อม รักษาความสมดุลของธรรมชาติ
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หน่อไม้ ฝรั่งอินทรีย์เจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิระหว่าง 27 -30 องศาเซลเซียส มีแสงแดดจัดไม่มีร่มเงา ดินมีความเป็นกรดด่างที่ 6.0 – 7.5 มีการระบายน้ำดี ถ่ายเทอากาศดี หน้าดินลึก ไม่น้อยกว่า 50 – 70 เซนติเมตรมีแหล่งน้ำที่สะอาดปราศจากสารพิษปนเปื้อนตลอดฤดูปลูก ต้องส่งตัวอย่างดินและน้ำตรวจสารพิษปนเปื้อนก่อนปลูก การเตรียมดินปลูก ใช้รถแทรกเตอร์ผ่าน 3 ไถดะลึกประมาณ 30 – 40 เซนติเมตร ตากดินทิ้งไว้ 15 – 30 วัน เพื่อกำจัดวัชพืชและโรคแมลงในดิน ใส่วัตถุปรับโครงสร้างดิน เช่น เปลือกถั่วต่าง ๆ ซังข้าวโพด แกลบ อัตรา 3 – 4 ตัน/ไร่ หรือใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ในดินร่วนและดินทราย อัตรา 3 ตัน/ไร่ ไถพรวนหว่านพืชตระกูลถั่ว กรณีใช้แกลบดิน ควรหมักในดินไม่ต่ำกว่า 4 เดือน เพื่อช่วยให้ ดินโปร่งร่วนซุยอุ้มน้ำได้ดี ระบายน้ำดีแล้วจึงไถยกร่องแปลงปลูกขนาดกว้าง 2 เมตร ตามแนวพื้นที่แต่ไม่ควรเกิน 50 เมตร
พันธุ์ที่ใช้ปลูก 1. พันธ์ ยูซี 157 เป็นพันธุ์ลูกผสมให้ผลผลิตดี หน่อใหญ่ ปลายหน่อและโคนยาวเรียวเสมอกัน นำเข้าจากไต้หวัน
2. พันธุ์ แอทลาส เป็นพันธุ์ลูกผสมให้ผลผลิตดี หน่อยาวเรียวเสมอกัน นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา การเพาะกล้า
ก่อน ปลูกต้องเพาะกล้าโดยเตรียมเมล็ดพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์และถุง พลาสติกสีดำขนาด 4x6 นิ้ว นำเมล็ดพันธุ์ที่จะเพาะแช่น้ำหมักชีวภาพอัตรา 10 ซีซี/น้ำ 20 ลิตรทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้วนำเมล็ดพันธุ์มาห่อผ้าที่ชื้นทิ้งไว้ในที่ร่ม 1 – 2 วัน ให้เมล็ดขาวงอกปริ่มเล็กน้อยรดน้ำในถุงพลาสติกให้ชื้นแล้วจึงนำเมล็ดหยอดลง ในถุงเพาะกล้าที่เตรียมไว้ แปลงต้นกล้าควรรดน้ำและให้ปุ๋ยชีวภาพฉีดพ่นอัตรา 20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตรทุก 7 – 10 วัน เพื่อเร่งการเจริญเติบโตและใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 1 – 2 ช้อนโต๊ะ/ต้นทุก 30 วัน ถ้ามีโรคแมลงระบดาป้องกันด้วยน้ำหมักสมุนไพร
วิธีการปลูก นำ ต้นกล้าหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ที่มีอายุ 3 – 4 เดือน โดยคัดต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์ที่ขนาดใกล้เคียงกันปลูกในแปลงที่เตรียมไว้ แปลงยร่องขนาดกว้าง 2 เมตร ยาวตามพื้นที่ไม่เกิน 50 เมตร ติดตั้งระบบน้ำให้เรียบร้อย ขุดหลุมลึก 15 – 20 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ระหว่างต้น 40 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยหมักรองก้นหลุม ๆ ละ 1 – 2 กำมือ รดน้ำให้ชื้นก่อนนำต้นกล้าลงปลูก การย้ายต้นกล้าลงปลูกควรเป็นช่วงที่มีแสงแดดอ่อน ๆเวลาบ่ายใกล้เย็น
การปฏิบัติดูแลรักษา
การ ให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ผลผลิตจะมีคุณภาพดี ช่วงย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูก ควรให้น้ำวันละ 1 ครั้งทุกวันหรือวันเว้นวัน ขึ้นอยู่กับสภาพดิน อุณหภูมิฝน แปลงที่มีความชื้นสูงไม่จำเป็นต้องให้น้ำ การให้น้ำในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องให้ทุกวันและไม่ควรให้ตอนเย็นจะทำให้ เกิดโรคระบาดได้ การให้น้ำในพื้นที่ดอน ระบบสปริงเกอร์จะช่วยชะล้างโรคและแมลงบางชนิดได้ เช่น เพลี้ยไฟ เป็นต้น
การให้ปุ๋ย ปุ๋ยหมักชีวภาพ ปุ๋ยมูลสัตว์ต่าง ๆ ต้องผ่านขบวนการหมักทุกครั้งก่อนนำไปใช้
- ปุ๋ยหมักชีวภาพ ช่วงต้นกล้าอายุ 0 – 4 เดือน ใช้อัตรา 500 – 700 กิโลกรัม/ไร่ทุก 30 วัน ช่วงพักต้น ใช้อัตรา 500 – 700 กิโลกรัม/ไร่ ช่วงเก็บเกี่ยวใช้อัตรา 250 – 300 กิโลกรัม/ไร่ทุก 15 วัน
- ปุ๋ยน้ำชีวภาพ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ฉีดพ่นทางใบอัตรา 20 – 30 ซีซี/น้ำ 20 ลิตรทุก 7 – 10 วัน
การทำราวเชือก หลัง จากปลูกได้ 3 – 4 เดือน ควรทำราวเชือกเพื่อค้ำทรงต้นโดยปักเสาตำแหน่งหัวท้ายแปลงตรงกับแถวที่ปลูก ขึงเชือกไนล่อนเป็นระยะยาว 1 – 2 แถวเพื่อค้ำลำต้นไม่ให้กระทบกระเทือนผลผลิตจะออกได้น้อย
การตกแต่งและการพักตัว หลัง จากเก็บเกี่ยวหน่อยไม้ฝรั่งอินทรีย์ได้ 2 – 3 เดือน ต้นหน่อไม้เริ่มโทรมผลผลิตจะลดลงจำเป็นต้องตัดแต่งต้นโดยการถอนแยกต้นที่ เหลืองและโทรมมีโรคแมลงรบกวนทิ้ง
• คัดเลือกต้นที่แข็งแรงไว้ 4 – 5 ต้น/กอ เลี้ยงไว้เป็นต้นแม่การพักต้น เกษตรกรต้องงดการเก็บเกี่ยวเป็นเวลา 1 เดือน
การพูนดินกลบโคนต้น การ เข้าไปทำงานในแปลง การถอน การเก็บเกี่ยว ผลผลิตสภาพดินในแปลงจะยุบตัวลง รากหน่อตื้น รวมถึงการดึงเอาแร่ธาตุในดินไปใช้จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เพิ่มธาตุอาหารในดินพร้อมกับพูนดินกลบโคนต้นทุกครั้งเพื่อให้หน่อเกิดขึ้นมา ใหม่มีความสมบูรณ์
การป้องกันกำจัดวัชพืช หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีทุกชนิด ควบคุมกำจัดวัชพืชใช้วิธีกล เช่นการเตรียมดินที่ดี การถอนด้วยมือและวิธีเขตกรรมอื่น ๆ
การป้องกันกำจัดวัชพืช ห้าม ใช้สารเคมีทุกชนิด ใช้พันธุ์ต้นทานตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ หากพบต้นที่เป็นโรคให้เก็บทิ้งเผาทำลายใช้สารสกัดสมุนไพร เช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด สะเดา หญ้าใต้ใบ เปลือกแค เปลือกมังคุด ขมิ้น ตะไคร้ กระชาย ก้ามปู และสมอดุ้ง เป็นต้น
การป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช แมลงศัตรูที่สำคัญได้แก่ เพลี้ยไฟ หนอนกระทู้ กัดต้น หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
ป้องกันกำจัดดังนี้ 1. ใช้สมุนไพรประเภทฆ่าเพลี้ยและแมลง เช่น หางไหล ขอบชะนาง แดงขาว หนอนตายหยาก ใบน้อยหน่า พญาไร้ใบ แสยก เมล็ดมะกล่ำ
2. ใช้สมุนไพรรสขมไล่แมลง เช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด สะเดา พญาไร้ใบ
3. ใช้สมุนไพรเปรี้ยวไล่แมลง เช่น เปลือกส้ม มะกรูด มะนาว มะขาม
4. ใช้สมุนไพรหอมระเหยไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม โหระพา กระเพา ผักชี สาบเสือ พริกไทยขิง ข่า กระทกรก
5. ใช้จุลินทรีย์ควบคุม เช่น การใช้แบคทีเรีย ไส้เดือนฝอย ใช้เชื้อราไตรโคเดอรม่า
6. รักษาความสมดุลทางธรรมชาติ ศัตรูธรรมชาติ ตัวห้ำ ตัวเบียน
7. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ทำลายวัชพืชที่เป็นแหล่งวางไข่แมลงผีเสื้อ
การเก็บเกี่ยวผลผลิตหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ หลัง จากปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ได้ 3 – 4 เดือน หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์จะเจริญเติบโตเร็วมาก จะโผล่พ้นดินไม่เกิน 3 วัน ต้องเก็บหน่อมาจำหน่ายทันที ถ้าปล่อยไว้ส่วนของปลายหน่อจะบาน กลายเป็นหน่อตกเกรด
วิธีเก็บเกี่ยวทำได้โดย ใช้ มือจับโคนหน่อที่ติดกับดินที่มีความเขียวที่ 20 – 25 เซนติเมตร แล้วดึงขึ้นในแนวตรง หากไม่ตรงจะทำให้หน่อหักในระหว่างการเก็บเกี่ยวระวังอย่าให้หน่อไม้ฝรั่ง กระทบกระเทือน จะทำให้หน่อที่เกิดใหม่น้อยลง ไม่ควรจับหน่อแรงเกินไปจะทำให้ช้ำหรือหักได้ ช่วงการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม เวลา 06.00 – 09.00 นาฬิกา
การทำความสะอาดและการคัดเกรด หลัง การเก็บเกี่ยวผลผลิต ต้องนำหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ไว้ในที่ร่ม ไม่ตากแดดมีอากาศถ่ายเทสะดวก ทำความสะอาดโคนหน่อ ไม่ให้เปียกส่วนยอดของหน่อ ควรใช้น้ำสะอาดหรือน้ำประปาล้างหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ห้ามใช้น้ำคลองล้างโดยเด็ดขาด ล้างดินที่ติดมาแล้วตัดแต่งให้ยาว 25 เซนติเมตร ต้องเปลี่ยนน้ำล้างหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ทุกครั้งในแต่ละชุดบล็อกและมีดต้อง ทำความสะอาดอยู่เสมอ การคัดเกรดต้องล้างมือให้สะอาด ไม่ไว้เล็บยาว รัดยางพลาสติกมัดละ 1 ก.ก.
การขนส่ง ตะกร้า ใส่หน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์และฟองน้ำต้องทำความสะอาดอยู่เสมอ ต้องมีฟองน้ำบุรอบตะกร้าและปิดทับข้างบนหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ ตะกร้าควรบรรจุไม่เกิน 20 ก.ก. ห้ามนำผ้าหรือวัสดุอื่นใดห่อหุ้มโดยเด็ดขาด ห้ามใช้ยางรัดตะกร้าหน่อไม้แน่นเกินไป ผลผลิตและผลตอบแทน หน่อไม้ ฝรั่งอินทรีย์ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้ 5 – 6 ปี โดยเฉลี่ย 1 ไร่จะได้ผลผลิต 1.5 – 2.5 ตัน ลงทุนระยะแรกไร่ละ 40,000 – 60,000 บาท สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 5 – 6
ปี ผลตอบแทน 180,000 – 200,000 บาท
เคล็ดไม่ลับสำหรับผู้ปลูกหน่อไม้ฝรั่ง
1) เลิกใช้ยาฆ่าหญ้าโดยเด็ดขาด ถ้าใช้ยาฆ่าหญ้า หน่อไม้ฝรั่งจะชงักการแทงหน่ออย่างน้อย 4 เดือน ต้นจะโทรม บางครั้งถึงยืนต้นตายได้
2) ห้ามนำมูลสัตว์ปีก (ไก่ เป็ด ค้างคาว) ไปใส่ เพราะจะทำให้หน่อไม้ฝรั่งออกดอกมาก ก้านดอกยาว กางโด่เด่
3) ให้ใช้เฉพาะ "ขี้วัวไล่ทุ่งหรือวัวนม + แกลบดิบเก่า" เท่านั้น
4) ห้ามใช้แกลบดำ เพราะพืชตระกูลกินหน่อไม่ชอบ (รวมทั้ง ไผ่ รวก)
5) ใส่ ยิบซั่ม กระดูกป่น การบำรุง : ทางดิน
- ช่วงพักต้น ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละ 1 ครั้ง
- ช่วงแทงหน่อ ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 21-7-14 เดือนละ 1 ครั้ง
- ทั้งช่วงพักต้น และช่วงแทงหน่อ....ให้ฮอร์โมนบำรุงราก (บี-1) เดือนละ 1 ครั้ง
การบำรุง : ทางใบ
- ให้ "อเมริกาโน" อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ให้แคลเซียม โบรอน อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ให้น้ำทุก 2-3 วัน พอหน้าดินชื้น
หมายเหตุ :
- หากต้องการ "หน่อเขียว" ให้แม็กเนเซียม.ในไบโออิ. หากต้องการ "หน่อขาว" ก็ไม่ต้องให้
- หน่อไม้ฝรั่งต้องการ "แคลเซียม โบรอน" สม่ำเสมอ วันเวลาผ่านไป 3 เดือน เก็บหน่อไม้ฝรั่งขายได้หลายรอบ
เคล็ดเล็กๆ
พันธุ์ "บร็อคอิมพรู๊ฟ" (Brock's improved) ซึ่งเกษตรกรย่านจังหวัดนครปฐมนิยมปลูกกันมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้จักชื่อสายพันธุ์ เพราะชื่อเรียกยาก จึงเรียกว่า "พันธุ์ดั้งเดิม" หน่อไม่ค่อยควรลองปลูก
1) เปลี่ยนสายพันธุ์เป็นพันธุ์ "เกษตร" (ภาษาชาวบ้าน) โดยสายพันธุ์นี้ได้มาจากการเพาะเนื้อเยื่อ เป็นสายพันธุ์ใหม่ล่าสุด ให้หน่อดก ขนาดใหญ่
2) บำรุงต้นเดิม โดยเพิ่ม "ไคโตซาน" เดี่ยวๆ 10 วัน/ครั้ง หรือ ทำน้ำคั้นหน่อไม้ฝรั่ง (ต้วมันเอง) สดใหม่ อัตรา 100-200 ซีซี./น้ำ 20 ล. 10 วัน/ครั้ง แม้แต่น้ำคั้น "หน่อไม้ไผ่ตง" ก็ใช้ได้ เพราะในหน่อไม้ฝรั่ง หน่อไม้ไผ่ตง มีฮอร์โมนไซโตไคนิน ไคโตซาน เป็นฮอร์โมนอินทรีย์........นอกนั้นให้บำรุงแบบเดิม
การใช้เชื่อราไตรโคเดอร์มา ในหน่อไม้ฝรั่ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก :สวนเกษตรลุงคิม