ทำไมชีวิตเจ้าของแบรนด์ต่างๆถึงรันทดจัง
คือวันนี้ได้อ่านหนังสือบันเทิง?(หรือเปล่าไม่รู้นะครับ เพราะหน้าปกเป็นรูปดาราแล้งมีหัวข้อข่าวเขียนไว้ พอเปิดมาเจอแต่ชีวิตเนตไอดอลเอย ประวัติเจ้าของแบรนด์เอย สกู๊ปดาราหน้าปกหายไปไหนไม่รู้ )
คือ ผมอ่านเรื่องราวชีวิตของคนกลุ่มนึง
- คนแรกตอนเด็กๆ ขายปลาร้า ไปๆมาๆ ได้มาเป็นเจ้าของธุรกิจครีมในเซเว่น อันนี้ในเซเว่น ผมไม่อะไรเพราะเคยใช้ แต่ไม่เกิดผล
- คนที่สอง เป็นผู้หญิงอ้วน ได้แฟนหล่อ ตอนแรกผมชื่นชมนะครับว่า เออ ผู้ชายคนนี้ไม่ได้รักคนที่ภายนอกแหะ พอได้อ่านต่อไปเรื่อยๆ กลับขายสบู่สะะงั้นน บอกหาวิถีทางทำให้แฟนรักแฟนหลง จนได้สบู่ก้อนนี้มาเลยทำขาย
- คนที่สาม เรื่องนี้ออกจะเกินจริงสักหน่อยคือ ระลึกชาติได้ว่าเป็นเจ้าหญิงหรืออะไรสักอย่าง ตายที่หน้าผาในประเทศญี่ปุ่น แล้วสมัยก่อนมีครีมชนิดพิเศษประจำตระกูลราชวงไรสักอย่าง สืบทอดมาจากชาติที่แล้ว เลยเอามาทำครีมขาย
-คนที่สี่นี่เป็นหมอจบใหม่ แต่ไม่ลอบการเป็นหมอเลยมาทำยาลดความอ้วนขาย เห้ยย คือเค้าเป็นหมอ แต่มาขายพวกลดน้ำหนักโดยไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่โยโย่ บลอกเบิร์น ตดเป็นไขมัน แต่คนนี้พื้นฐานทางบ้านดีอยู่แล้ว
- คนที่ห้าหกเจ็ดแปดเก้าสิบนี่มาแนวเดียวกันหมดคือ ตอนเด็กๆยากจน ไม่มีบ้านมีรถ ขายของจิปาถะ ตอนเด็กๆไม่เคยได้เคยมี อยากได้นู่นนี่นั่น พอถึงจุดๆหนึ่ง ทั้งหมดที่กล่าวมาบอกเหมือนกันหมดว่า ยืมเงินพ่อมาจำนวน 3,000 บาท บางราย 10,000 บาท มาลงทุนทำครีมขาย
ใล้เวลา 2-3 ปี สามารถซื้อรถซื้อบ้านเงินสดได้ เป็น สิบๆล้าน แล้วก็ชักชวนคนมาร่วมทำธุรกิจนี้ด้วย
คือทั้งหมดเนี่คือ ลงทุนทำครีม 3,000-10,000 แต่ได้กำไรเยอะมากก แล้วก็มีรีวิวเยอะมาก บอกขายได้เดือนละหมื่น เดือนละแสนกระปุก มันต้องใช้ประชาการกี่คนครับ แบบ เดือนนึงครีมกระปุกนึงต่อคน แล้วเดือนละแสนๆ โห รวยมาก
แล้วครีม ยา สบู่อต่ละอย่าง จะปลอดภัยหรอครับ ต้นทุน3,000 ในเฟสนี่ถ้าเจ้าของแบรนด์คนไหนโพสต์ประวัติชีวิตสุดรันทดแล้วลงทุนขายครีมนะครับ แฟนคลับพากันกดไลค์กดแชร์สู้สู้กันเป็นแสน
น่าหนักใจนะครับ
ผมก็ว่าจะทำแบรนด์ตัวเองขายเหมือนกันครับ มีตตาสังคอลลาเจน เบ้าหน้าไม่ดี คนหรือผีก็ไม่ต่างกัน ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยย่นจุดด่างดำ ลามไปถึงรอยหยักในสมอง
ขอบคุณครับ