ไทยกับเทศ // อเมริกาหนาว ไทยยอมจูบปากรัสเซีย
พีเพิล ยูนิตี้ – ผมเคยชี้ให้เห็นมาหลายครั้งแล้วในบทวิเคราะห์หลายชิ้นของผมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมหาอำนาจทั้งสาม คือ สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย ภายหลังจากที่ไทยในยุคของ คสช.จำต้องปรับเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่เกี่ยวกับประเทศมหาอำนาจเสียใหม่ จากเดิมที่เคย “โปร” ตะวันตกสุดลิ่มทิ่มประตู มาเป็นการหันไปพิงมหาอำนาจชาติอื่นเพื่อถ่วงดุลกับตะวันตก ซึ่งมหาอำนาจชาติอื่นที่ไทยหันไปพิงอย่างชัดเจนคือ จีน กับอีกประเทศหนึ่งคือ รัสเซีย ที่ไทยแสดงท่าทีว่าพร้อมจะหันไปพิง แต่ยังไม่ได้พิงเต็มตัว
ผมเคยชี้ให้เห็นว่า รัสเซียนั้นเอาจริงและไม่ล้อเล่นในการกระชับความสัมพันธ์กับไทย โดยแบะท่าพร้อมที่จะให้ไทยพิง ทั้งนี้เพราะรัสเซียนั้นต้องการได้ไทยเป็นที่ยืนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเข้ามามีอิทธิพลและผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ และสามารถแข่งขันกับมหาอำนาจเจ้าอื่นได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ดังจะเห็นได้จาก ในช่วงที่ผ่านมา รัสเซียได้ส่งบุคคลสำคัญในระดับต่างๆเข้ามากระชับความสัมพันธ์กับไทยในด้านต่างๆอย่างถี่ยิบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตัวนายกรัฐมนตรีรัสเซียถึงกับเดินทางมาเยือนไทย
ผมเคยชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่รัสเซียต้องการกระชับความสัมพันธ์กับไทยมากที่สุดคือ ความร่วมมือทางทหารและความมั่นคง รวมถึงทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งหมายความว่ารัสเซียต้องการได้ไทยเป็นพันธมิตรทางด้านการทหาร ความมั่นคง และทางการเมือง ส่วนความสัมพันธ์หรือความร่วมมือทางเศรษฐกิจเป็นเพียง “ใบเบิกทาง” ในการเข้ามาสู่ไทยเท่านั้น
เหตุที่รัสเซียเน้นไปที่การทหาร ความมั่นคง และการเมืองนั้น เพราะ
หนึ่ง รัสเซียมองว่า การที่ไทยจะสามารถถ่วงดุลกับตะวันตกได้นั้น จะต้องถ่วงดุลทางทหาร ความมั่นคง และทางการเมือง ซึ่งรัสเซียคิดว่าไทยนั้นเอาจริงและเอาแน่กับการถ่วงดุลกับตะวันตก จึงเสนอการกระชับความสัมพันธ์ทางทหาร ความมั่นคง และการเมืองให้กับไทย
สอง ขณะที่เป้าประสงค์ของรัสเซียเองนั้นก็ต้องการเข้ามามีอิทธิพลในไทยและในอาเซียนทางการทหาร ความมั่นคง และการเมือง รัสเซียจึงคิดว่าเป้าประสงค์ของตนนั้นตอบโจทย์ความต้องการของไทยได้
สาม ขณะที่ความร่วมมือและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไม่ใช่เป้าประสงค์หลักของรัสเซีย เพราะบุคลิกของรัสเซียนั้นต่างกับตะวันตก คือ รัสเซียนั้นไม่ใช่พวกหน้าเงิน แต่เป็นพวกเงินไม่สำคัญ ข้าขอใหญ่ไว้ก่อน
เป็นความจริงอย่างแน่นอนว่า การเสนอตัวของรัสเซียที่จะกระชับความสัมพันธ์กับไทยในมิติทางทหาร ความมั่นคง และการเมือง จะเป็นสิ่งที่ทำให้นโยบายถ่วงดุลมหาอำนาจตะวันตกของไทยได้ผลจริงจัง แต่ทว่า ที่จริงแล้ว ไทยนั้นไม่ได้เอาจริงกับนโยบายถ่วงดุลนี้สักเท่าใดนัก สิ่งที่ทำลงไปเป็นแค่การเล่นเกมกับตะวันตก ที่ผ่านมาไทยจึงไม่พยายามเดินหน้ากระชับความร่วมมือกับรัสเซียในด้านการทหาร ความมั่นคง และการเมืองสักเท่าใดนัก ทั้งนี้เพราะยังแคร์กับตะวันตกและยังตัดไม่ขาดกับตะวันตก รวมทั้งยังไม่ไว้วางใจรัสเซียมากนัก
นอกจากนี้ สิ่งที่ไทยต้องการจากรัสเซียก็คือ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าทางเศรษฐกิจของไทย
รัสเซียจะมองออกหรือไม่ว่า ไทยนั้นยังไม่เอาจริงกับรัสเซีย ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ดูเหมือนรัสเซียจะไม่สนใจ เพราะล่าสุด รัสเซียได้ส่งบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งมาเยือนไทย ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก
โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ.59 นายนิโคไล ปาตรูเชฟ (Mr.Nikolai Patrushev) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ได้เดินทางมาเยือนไทยและเข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ นายนิโคไล ปาตรูเชฟ พร้อมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของรัสเซีย มาประชุมกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งแสดงถึงความต้องการของรัสเซียในการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยให้แน่นแฟ้นเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวกับนายนิโคไล ปาตรูเชฟ ว่า ความสัมพันธ์ไทย-รัสเซียมีพลวัตมากขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายหลังการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรี เมดเวเดฟ เมื่อเดือนเมษายน 2558 ได้มีการผลักดันให้เกิดการดำเนินการจนเกิดผลเป็นรูปธรรมหลายด้านทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม และในช่วงที่รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซียครบรอบ 20 ปี (ASEAN-Russia Commemorative Summit) ในเดือนพฤษภาคม 2559 นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้เยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เดินทางไปเยือนรัสเซียเพื่อปูทางและผลักดันให้ความร่วมมือทวิภาคีในทุกๆมิติให้มีผลเป็นรูปธรรม ทั้งความร่วมมือที่มีอยู่เดิมและการแสวงหาความร่วมมือรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ในด้านการเกษตร การประมงและสินค้าทะเล พลังงาน ฯลฯ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวยอมรับว่า รัสเซียต้องการที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีด้านความมั่นคงกับไทยให้ใกล้ชิดกว่าเดิม และรัสเซียให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยอย่างสูง สำหรับการจัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการทหาร นายกรัฐมนตรียินดีที่กระทรวงกลาโหมไทย-กระทรวงกลาโหมรัสเซียมีแผนการที่จะลงนามระหว่างกันในอนาคตอันใกล้นี้
จากคำกล่าวของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อนายนิโคไล ปาตรูเชฟ และการที่ไทยจะส่ง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปเยือนรัสเซียในเดือนนี้ แสดงให้เห็นว่า ไทยนั้นเริ่มตอบรับและเอาจริงที่จะกระชับความร่วมมือทางทหาร ความมั่นคง และการเมืองระหว่างประเทศกับรัสเซียแล้ว ซึ่งเป็นการตอบสนองสิ่งที่รัสเซียต้องการ ขณะเดียวกับไทยก็ส่ง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไปเจรจาด้านเศรษฐกิจพร้อมกันด้วย เพื่อให้รัสเซียตอบสนองความต้องการของไทย
คอยดูว่าผลการไปรัสเซียของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร และรัสเซียจะเป็นมหามิตรตัวจริงเสียงจริงของไทยได้หรือไม่?
ไทยกับเทศ // อเมริกาหนาว ไทยยอมจูบปากรัสเซีย
พีเพิล ยูนิตี้
โดย – พูลเดช กรรณิการ์
15 กุมภาพันธ์ 2559















