ฆาตกรดองศพ ‘เบล่า คิส’ คดีดังในตำนานจากประเทศฮังการี
โพสท์โดย ผีเจ้า
ฆาตกรดองศพ ‘เบล่า คิส’ คดีดังในตำนานจากประเทศฮังการี
ที่ประเทศฮังการี ในช่วงปี 1900 มีชายหนุ่มหน้าตาดีนามว่า เบล่า คิส ย้ายเข้ามาอยู่ที่ซินโกต้า ชุมชนเล็ก ๆ
ใกล้กับเมืองหลวงบูดาเปสต์ เบล่า คิส คือชายหนุ่มหน้าตาดี มีความรู้ เป็นหมอดู และชำนาญในด้านวรรณคดี
ประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะทำอาชีพเป็นช่างสังกะสี แต่เพื่อนบ้านต่างรักใคร่เขาเพราะเป็นคนที่น่าคบหา
ชีวิตของ เบล่า คิส จัดได้ว่าเพรียบพร้อมทุกอย่าง เขามีมาเรียเป็นภรรยา เธอเป็นคนสวย ทั้งคู่มีฐานะและ
ได้รับการยอมรับจากสังคม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านของเขามีขนาดใหญ่ เขาจึงเปิดรับสมัครสาวใช้
ด้วยเงินตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เบล่า คิส ถูกเกณฑ์ไปรบ เขาได้จ้างวานให้นางทราเบอร์สาวใช้คนปัจจุบันช่วยดูแลบ้านขณะที่เขาทำหน้าที่ในแนวหน้า จนกระทั่งมีทหารกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองซินโกต้าเพื่อหาเชื้อเพลิง
สาวใช้ของคิสจึงคิดแบ่งน้ำมันที่ถูกเก็บไว้ในถังโลหะ ซึ่งคิสเคยกล่าวว่านั่นคือถังเก็บน้ำมันไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เมื่อทหารเปิดถังโลหะก็ต้องพบกับศพของหญิงสาวอยู่ภายในถัง รวมทั้งหมดมี 24 ร่าง โดยมีร่างของมาเรีย
ภรรยา และ พอล ไบอารี่ ชู้รัก รวมอยู่ด้วย
ตำรวจได้ทำการสอบถามนางทราเบอร์สาวใช้ เธอตอบเพียงว่าตนเองก็ไม่รู้เช่นกัน ที่รู้คือคิสมักจะขับรถไปทำงาน
ที่เมืองหลวงและนำถังโลหะกลับมาด้วย เขากล่าวว่าตั้งใจจะใช้ถังน้ำมันเหล่านี้เก็บน้ำมันไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าถังเหล่านี้จะกลายเป็นถังดองศพเหยื่อที่คิสเคยสังหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาวใช้ ตำรวจเชื่อว่าคิส
อาจลงมือฆ่าสาวใช้ที่เข้ามาเกาะแกะกับถังโลหะที่เก็บศพเอาไว้เพื่อปิดปาก
จากการสืบสวนพบว่ามาเรียภรรยาสาวเป็นชู้กับพอล ไบอารี่ ศิลปินหนุ่ม ชาวบ้านจึงส่งจดหมายมาบอกคิส
ด้วยความหวังดี และนับจากตอนนั้นก็ไม่เคยมีใครเห็นสองชู้รักอีกเลย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิสกลายเป็นฆาตกร
อย่างไรก็ตาม ตำรวจฮังการีสามารถระบุศพผู้เสียชีวิตได้บางส่วน โดยคนแรกคือ นางแคทเธอลีน วาร์ก้า แม่หม่าย
จากเมืองหลวงที่เคยเป็นสาวใช้ในบ้านของคิส และ มาร์กาเร็ต ท็อธ เหยื่อผู้โชคร้ายอีกรายที่ถูกคิสบังคับให้เขียนจดหมายหลอกญาติว่าเธอกำลังเดินทางไปอเมริกาก่อนถูกฆ่าหมกถัง
เมื่อได้เบาะแสและพยานแล้ว ตำรวจฮังการีได้แจ้งไปยังต้นสังกัดของคิสในแนวหน้า แต่สายเกินไป เนื่องจากคิส
ได้หายสาบสูญในสนามรบ ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน
ต่อมาในปี 1916 มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบคิสที่โรงพยาบาลในเซอร์เบีย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็พบว่าเขาหนีไปแล้ว
ต่อมาในปี 1920 มีคนพบเห็นคิสในกองทัพฝรั่งเศส แต่ยังไม่ทันยืนยันตัวตนที่แน่ชัด คิสก็หายไปอีกครั้ง
และในปี 1932 นักสืบนิวยอร์ค เฮนรี่ ออสวาร์ล ค้นพบบุคคลต้องสงสัยที่อาจเป็น เบล่า คิส ในวัย 60 ปีเศษ
เป็นภารโรงในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ตำรวจนิวยอร์คจะได้ตัว บุคคลต้องสงสัยรายนี้ก็หายตัวไปอีก
กล่าวได้ว่า เบล่า คิส เป็นฆาตกรที่ลึกลับที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เขาก่อคดีฆาตกรรมผู้คนไป 24 ราย
จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถไขปริศนาเรื่องนี้ได้
.................
ใกล้กับเมืองหลวงบูดาเปสต์ เบล่า คิส คือชายหนุ่มหน้าตาดี มีความรู้ เป็นหมอดู และชำนาญในด้านวรรณคดี
ประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะทำอาชีพเป็นช่างสังกะสี แต่เพื่อนบ้านต่างรักใคร่เขาเพราะเป็นคนที่น่าคบหา
ชีวิตของ เบล่า คิส จัดได้ว่าเพรียบพร้อมทุกอย่าง เขามีมาเรียเป็นภรรยา เธอเป็นคนสวย ทั้งคู่มีฐานะและ
ได้รับการยอมรับจากสังคม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบ้านของเขามีขนาดใหญ่ เขาจึงเปิดรับสมัครสาวใช้
ด้วยเงินตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เบล่า คิส ถูกเกณฑ์ไปรบ เขาได้จ้างวานให้นางทราเบอร์สาวใช้คนปัจจุบันช่วยดูแลบ้านขณะที่เขาทำหน้าที่ในแนวหน้า จนกระทั่งมีทหารกลุ่มหนึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองซินโกต้าเพื่อหาเชื้อเพลิง
สาวใช้ของคิสจึงคิดแบ่งน้ำมันที่ถูกเก็บไว้ในถังโลหะ ซึ่งคิสเคยกล่าวว่านั่นคือถังเก็บน้ำมันไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน
เมื่อทหารเปิดถังโลหะก็ต้องพบกับศพของหญิงสาวอยู่ภายในถัง รวมทั้งหมดมี 24 ร่าง โดยมีร่างของมาเรีย
ภรรยา และ พอล ไบอารี่ ชู้รัก รวมอยู่ด้วย
ตำรวจได้ทำการสอบถามนางทราเบอร์สาวใช้ เธอตอบเพียงว่าตนเองก็ไม่รู้เช่นกัน ที่รู้คือคิสมักจะขับรถไปทำงาน
ที่เมืองหลวงและนำถังโลหะกลับมาด้วย เขากล่าวว่าตั้งใจจะใช้ถังน้ำมันเหล่านี้เก็บน้ำมันไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าถังเหล่านี้จะกลายเป็นถังดองศพเหยื่อที่คิสเคยสังหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาวใช้ ตำรวจเชื่อว่าคิส
อาจลงมือฆ่าสาวใช้ที่เข้ามาเกาะแกะกับถังโลหะที่เก็บศพเอาไว้เพื่อปิดปาก
จากการสืบสวนพบว่ามาเรียภรรยาสาวเป็นชู้กับพอล ไบอารี่ ศิลปินหนุ่ม ชาวบ้านจึงส่งจดหมายมาบอกคิส
ด้วยความหวังดี และนับจากตอนนั้นก็ไม่เคยมีใครเห็นสองชู้รักอีกเลย นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คิสกลายเป็นฆาตกร
อย่างไรก็ตาม ตำรวจฮังการีสามารถระบุศพผู้เสียชีวิตได้บางส่วน โดยคนแรกคือ นางแคทเธอลีน วาร์ก้า แม่หม่าย
จากเมืองหลวงที่เคยเป็นสาวใช้ในบ้านของคิส และ มาร์กาเร็ต ท็อธ เหยื่อผู้โชคร้ายอีกรายที่ถูกคิสบังคับให้เขียนจดหมายหลอกญาติว่าเธอกำลังเดินทางไปอเมริกาก่อนถูกฆ่าหมกถัง
เมื่อได้เบาะแสและพยานแล้ว ตำรวจฮังการีได้แจ้งไปยังต้นสังกัดของคิสในแนวหน้า แต่สายเกินไป เนื่องจากคิส
ได้หายสาบสูญในสนามรบ ไม่มีใครรู้ว่าเขาหายไปไหน
ต่อมาในปี 1916 มีพลเมืองดีแจ้งว่าพบคิสที่โรงพยาบาลในเซอร์เบีย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงก็พบว่าเขาหนีไปแล้ว
ต่อมาในปี 1920 มีคนพบเห็นคิสในกองทัพฝรั่งเศส แต่ยังไม่ทันยืนยันตัวตนที่แน่ชัด คิสก็หายไปอีกครั้ง
และในปี 1932 นักสืบนิวยอร์ค เฮนรี่ ออสวาร์ล ค้นพบบุคคลต้องสงสัยที่อาจเป็น เบล่า คิส ในวัย 60 ปีเศษ
เป็นภารโรงในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ตำรวจนิวยอร์คจะได้ตัว บุคคลต้องสงสัยรายนี้ก็หายตัวไปอีก
กล่าวได้ว่า เบล่า คิส เป็นฆาตกรที่ลึกลับที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ เขาก่อคดีฆาตกรรมผู้คนไป 24 ราย
จวบจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถไขปริศนาเรื่องนี้ได้
.................
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
24 VOTES (4/5 จาก 6 คน)
VOTED: jujuuuu, Thorsten, makhamdong, ginger bread
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เปิดแชทสุดท้าย “วิว ชัชวาลย์” ถึงลูกทุ่งดังให้ดูแลตัวเองให้มากๆโลกออนไลน์แฉ ร้านอาหารของคนจีน แถวคลองเตยไม่ตรงปกสภาพสุดยี้ ไรเดอร์ไปทีไรแทบอ้วกสกินชิพ Skinship ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ 5 ประโยชน์ของการสกินชิพปูตินประกาศ ลบประเทศยูเครนแล้ว!!เจ้าของร้านขายเนื้อหมา ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าตๅยใน 3 วันด่วน !!! เกิดเหตุสลด!! เครื่องบินเล็กตก เสียชีวิตกว่า 10 ราย เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เวียดนามมีรถไฟฟ้าใต้ดินใช้แล้ว!!ไรเดอร์เจอหลวงพี่วัดดังจ.อยุธยา สั่งถุงยๅงกับเจล ฝากมาถามทุกคนว่าคิดว่าหลวงพี่เอาไปทำอะไร คิดไม่ออกจริงๆช่วยทีอาหาร 7 ชนิดที่คนท้องเสียไม่ควรกินเสียชีวิตทันที หนุ่มอินเดียซ้อมท่าพลิกตัวกลางอากาศ พลาดหัวปักลงพื้นหนุ่ม Grabcar สุดงงไปส่งลูกค้าผู้หญิง แต่เจอแม่ของลูกค้าดักขวางหน้ารถก่อนถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู”...Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
หนุ่มคลั่งการ์ตูนชินจัง ลงทุนสร้างบ้านเหมือนเป๊ะ!!ทาร์ตมะพร้าวอ่อน หาซื้อยากทำเองเลยดีกว่าบ้านหลังเก่ามะเขือเทศแบล็ค กาแล็กซี่ : มะเขือเทศสายพันธุ์ใหม่ที่มีสีดำ ไม่เคยมีมาก่อน มันเป็นสายพันธุ์ที่มนุษย์เราพัฒนาขึ้นเด้อครับเด้อ