ไอ้เด็กหัวแดง กับอคูสติก กีต้าร์คนนี้ ไม่เคยหมดไฟฝันจะเป็นนักดนตรี
ทิมมี่เคยอ่านบทความหนึ่งของเขา เมื่อปีก่อนเป็นภาษอังกฤษจำไม่ได้แล้วว่าจากที่ไหน แต่รู้สึกว่าเรื่องราวของเขายังอยู่ในความจำและประทับใจมาก
เอ็ดเวิร์ด คริสโตเฟอร์ "เอ็ด" ชีแรน (อังกฤษ: Edward Christopher "Ed" Sheeran) เกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1991 เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลง ชาวอังกฤษ ปัจจุบันเซ็นสัญญากับค่ายแอสไซลัม/แอตแลนติกเรเคิดส์ ชีแรนแจ้งเกิดในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 เมื่อซิงเกิ้ลเปิดตัว "The A Team" เปิดตัวติดอันดับ 3 ในยูเคชาร์ต
เอ็ด ชีแรน เริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เขาร้องเพลงในโบสถ์แถวบ้าน และเริ่มหัดเล่นกีตาร์ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก เมื่อเขาเริ่มร้องเพลง และหัดเล่นกีตาร์ เขาจึงเริ่มลองแต่งเพลง ตอนเด็ก ๆ เขาฟังเพลงที่พ่อแม่ฟัง และได้รับอิทธิพลจากมันมา ชูวี่เพื่อนซี้
เมื่อเอ็ดอายุได้ 14 เอ็ดเริ่มทำอัลบั้ม EP ของตัวเอง และพออายุ 16 เขาก็ดรอปเรียน และหันมาเอาดีอย่างจริงจังกับอาชีพนักดนตรี อายุ 17 เอ็ดย้ายไปอยู่ลอนดอน เพื่อไล่ตามความฝันในการเป็นนักดนตรี
เขาเริ่มต้นด้วยการแสดงริมถนน สู่เวทีการแสดงเล็ก ๆ ไปจนถึงเวทีการแสดงดนตรีท้องถิ่น จนกระทั่งเขาเริ่มได้แสดงในเทศกาลดนตรี เมื่อเอ็ดอายุ 18 เขาก็ร่วมแสดงในเทศกาลดนตรีไปแล้วกว่า 312 เวทีภายในปีเดียว
ตอนอายุ 19 เอ็ดออกเดินทางตามหา แรงบรรดาลใจใหม่ ๆ เขาซื้อตั๋วไป ลอสแอนเจลิส และเริ่มเดินสายแสดงไปทั่วเมือง หลังจากนั้น เอ็ดก็ตระเวณออดิชั่นตามรายการเพลงต่าง ๆ และได้รับความสนใจในระดับนึง ศิลปินชื่อดังหลายคนเชิญเอ็ดไปเล่นเปิดในคอนเสิร์ตของตัวเอง รวมถึงการเชิญไปออกรายการเพลง เอ็ดเริ่มอัปโหลดเพลงลงใน Youtube และมีช่องทางการนำเสนอของตัวเอง แล้วฐานแฟนคลับก็เริ่มก่อตัวขึ้น
เอ็ดมีเชื่อเสียงอยู่พอตัวในบรรดาสายคนฟังเพลง เขาเป็นขวัญใจสาว ๆ ตาม GIG ไม่ว่าจะไปงานไหน ๆ แฟน ๆ มักได้เห็นไอ้หนุ่มหัวแดง กับอคูสติก กีต้าร์ ที่มีรูปรอยเท้าน้องหมา กับเพลงแต่งเอง โนแบนด์ โนบีท มีเพียงแค่เสียงร้องสุดนุ่มนวล และ เสียงกีต้าร์ใสกิ๊งของเขาเท่านั้น
หลังจากนั้น เอ็ดเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เขาให้เครดิตกับหนังสือพิมพ์ The Independent, ริโอเฟอร์ดินาน และเอลตัน จอห์น ที่ดูเหมือนช่วยโปรโมตเพลงของเอ็ด แก่แฟน ๆ ของตัวเอง ทำให้เอ็ดเป็นที่รู้จักมากขึ้น และเมื่ออายุได้ 20 เอ็ดก็ได้เซนต์สัญญากับค่าย Asylum / Atlantic Records
ในปี 2011 ตอนที่เขาออก EP ส่วนตัวแบบที่วางจำหน่ายใน Itunes ตอนเดือนมกราคม เอ็ดเองก็เริ่มมีชื่อเสียงพอสมควรแล้ว สัปดาห์แรกเขาทำยอดจำหน่ายที่ 7,000 ก๊อปปี้ แต่เมื่อเขาเริ่มสังกัดค่ายในเดือนเมษาและเริ่มปล่อย "The A Team" เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว เมื่อมันเข้าสู่ Uk Chart แบบไม่ยากเย็น ยอดจำหน่ายของมันก็พุ่งสูงทันทีถึง 58,000 ก๊อปปี้ในสัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย และพอถึงสิ้นปี 2011 The A Team ก็ทำยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 811,000 ก๊อปปี้ รั้งอันดับ 8 บนชาร์ตยอดจำหน่ายสูงสุดของปี 2011 "The A Team" ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็ว จากอีกชาร์ต สู่อีกชาร์ต และในที่สุดก็ติดชาร์ตไปทั่วยุโรป รวมทั้งหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย
เดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน เอ็ดมีรายชื่อในศิลปินหลักของเวที BBC ในเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่อย่าง กลาสตันบิวรี่ ตอนนั้นเขาเริ่มโปรโมต ซิงเกิ้ลที่ 2 ของตัวเองอย่าง You Need Me, I Don't Need You และมันก็เหมือนเดิม You need me ถล่มชาร์ตต่างๆอย่างรวดเร็ว และราว ๆ เดือนพฤศจิกายน เอ็ดจึงได้ปล่อย ซิงเกิ้ลที่ 3 อย่าง Lego House มา และซิงเกิ้ลนี้เองทำให้เอ็ดเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แม้จะไม่ใช่คอเพลงก็ตาม
เดือนตุลาคม มีมิวสิควิดิโอเพลงเพลงหนึ่ง นำนักแสดงอย่าง รูเพิร์ต กรินต์หรือ "รอน" จากหนังแฟรนไชน์ยอดฮิตตลอดกาลแฮรี่ พอตเตอร์ มารับบทนำ ด้วยการเป็นหนุ่มที่เหมือนจะมีอาการหมกหมุ่นกับนักร้องคนดัง โดยนักร้องหนุ่มคนที่เขาเลียนแบบและหมกหมุ่นด้วยอย่างมากนั้นมีผมสีแดงเพลิงเหมือนกัน
นั่นคือมิวสิกวิดีโอ "Lego House" ของเอ็ด ชีแรน ที่เป็นที่กล่าวถึงอย่างมาก แต่มีบางคนดันคิดว่า นั่นเป็นเพลงที่ รูเพิร์ต กรินท์ ร้องจริง ๆ ไปเสียอย่างนั้น
หลังคำตอบรับที่ดีเยี่ยมจาก Lego House ในที่สุดเอ็ดก็วางจำหน่าย Studio Album แรกในชีวิตของตัวเองด้วยชื่ออัลบั้มว่า + และนั่นทำให้โลกได้ค้นพบหนุ่มน้อยมหัศจรรย์ เพราะทุกแทร็คจากอัลบั้ม + นั้นล้วนทรงคุณค่าและเหลือเชื่อในเนื้อหา ว่ามันจะมาจากเด็กหนุ่มอายุ 20 ปี ในปี 2012 เอ็ด คว้ารางวัลใหญ่จากเวที BRIT Awards อย่าง "ศิลปินชายเดียวยอดเยี่ยม" และ "ศิลปินที่สร้างปรากฏการณ์แห่งปี" และกลายเป็นศิลปินอังกฤษอายุน้อยชื่อดัง ที่ศิลปินรุ่นใหญ่หลายคนให้การยอมรับจนปัจจุบัน
เมื่อเดือน พ.ค. 2558 พิพิธภัณฑ์มาดามทุซโซ่ สาขานิวยอร์กเปิดตัวหุ่นขี้ผึ้งจำลองของตัวเอง พร้อมเล่าว่าเขาต้องยืนนิ่งๆ ให้ช่างปั้น วัดขนาดและสำรวจรายละเอียดในร่างกายเขาอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งทันทีที่ได้เห็นผลลัพธ์ หนุ่มเอ็ดก็แอบตะลึงในความเหมือน จนต้องสำรวจทุกซอกทุกมุมเลยทีเดียว แถมยังเอ่ยปากว่า อยากให้พ่อแม่ได้มาเห็นจริงๆ
ขณะที่ผู้จัดการของพิพิธภัณฑ์เผยว่า วันที่วัดตัว เอ็ด ยังเล่นกีต้าร์ให้ทีมงานฟัง ซึ่งมันเจ๋งสุดๆ เลยทีเดียว ที่สำคัญเขายังยอมยกกีตาร์ตัวโปรดและเสื้อผ้าชุดเก่งให้นำมาใส่ให้หุ่นขี้ผึ้งของเขาด้วย.
แต่ชีวิตบางส่วนของเอ็ด ชีแรน ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นเอ็มวีเพลง Photograph บอกถึงความมานะพยายาม การไม่ท้อไม่อายไม่กลัวกับคำว่า นักดนตรีไส้แห้ง และครอบครัวคือแรงสนันสนุน ให้กำลังใจเขาทุกๆ ทาง ให้ลูกชายได้กลายเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จในวันนี้