หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“สมาธิสั้น” โรคยอดฮิตของเด็กติดจอ

โพสท์โดย ไอทีพลาซ่า

“สมาธิสั้น” โรคยอดฮิตของเด็กติดจอ

ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อของคนในสังคมยุคดิจิทัล สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมีบทบาทสำคัญกับผู้คนทุกเพศทุกวัย เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนโซเชียลไปอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่มักจะปล่อยลูกๆ ไว้กับหน้าจอเพียงลำพังวันละหลายชั่วโมง ซึ่งการเคลื่อนไหวหรือเปลี่ยนแปลงของภาพต่างๆ บนหน้าจอ ทำให้เด็กคุ้นเคยและชินกับความรวดเร็วของเนื้อหา ส่งผลให้เด็กรอคอยไม่ค่อยได้ จดจ่อกับสิ่งรอบตัวน้อยลง รวมไปถึงลดการใช้สมองในส่วนของความจำ สะสมจนเกิดอาการสมาธิสั้นในเด็ก

สัญญาณที่บ่งบอกว่า “เด็กติดจอ”

  • เด็กมักตื่นสายและมีอาการอ่อนเพลียในตอนเช้า

  • เด็กหมดความสนใจในกิจกรรมรอบตัว สนใจแต่จะเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

  • เด็กตั้งตารอเวลาที่จะได้เล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และมักพูดถึงเวลาที่จะได้เล่นเสมอ

  • เด็กเลิกสนใจสิ่งที่กำลังทำ เมื่อมีข้อความแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

  • เด็กใช้เวลาเล่นนานขึ้น และอารมณ์เสียง่ายเมื่อพ่อแม่แสดงความกังวลเรื่องการใช้งานของพวกเขา

  • เด็กหงุดหงิดหรือหดหู่เวลาที่ไม่ได้เล่น และอาการเหล่านี้มักหายไปเมื่อเด็กได้เล่น

  • เด็กพยายามปกปิดการเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจากพ่อแม่ เช่น แอบเล่นในห้องนอน

  • เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าวเวลาพ่อแม่สอดส่องพฤติกรรมการเล่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต

  • เด็กขาดสมาธิระหว่างทำการบ้านหรือชอบเปิดดูจอระหว่างทำการบ้านไปด้วย

อาการของ “เด็กสมาธิสั้น”

  1. อาการขาดสมาธิ ()

  • วอกแวกง่าย ขาดความตั้งใจ เหม่อลอยบ่อยๆ ฝันกลางวัน

  • ขี้ลืม ทำของใช้ส่วนตัวหายเป็นประจำ

  • ไม่ฟังเวลาพูดด้วย มักจะลืมทำสิ่งที่ให้ทำหรือทำครึ่งๆ กลางๆ

  1. อาการซน (hyperactivity)

  • อยู่ไม่สุข ยุกยิกตลอดเวลา ชอบปีนป่าย เล่นเสียงดัง เล่นผาดโผน

  • มักประสบอุบัติเหตุบ่อยๆ จากความซน และความไม่ระมัดระวัง

  • มักจะพูดมาก พูดไม่หยุด ชอบแกล้งหรือแหย่เด็กอื่น

  1. อาการหุนหันพลันแล่น (impulsivity)

  • วู่วาม ใจร้อน เวลาต้องการอะไรก็จะต้องให้ได้ทันที รอคอยอะไรไม่ได้

  • ขาดความระมัดระวัง ทำอะไรไปโดยไม่คิดก่อน เช่น วิ่งข้ามถนนโดยไม่มองรถดีๆ

  • ซุ่มซ่าม และมักจะทำอะไรโดยที่ไม่ขออนุญาต

แนวทางลดความเสี่ยงไม่ให้เด็กติดจอจนสมาธิสั้น

  1. กำหนดเวลาในการเล่นให้เด็กไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวัน

  2. ปฏิสัมพันธ์ พูดคุย และทำกิจกรรมร่วมกับเด็กให้มากขึ้น

  3. ใส่ใจดูแลและสอดส่องพฤติกรรมที่ผิดปกติของเด็กเสมอ

อาการสมาธิสั้นจากการติดหน้าจอ นอกจากจะพบในเด็กแล้ว ในผู้ใหญ่หรือคนทั่วไปก็พบได้เช่นกัน โดยผลวิจัยของ Technology Giant Microsoft พบว่า คนเรามีสมาธิสนใจจดจ่อกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่ได้เพียง 8 วินาที เท่านั้น ซึ่งสั้นกว่าสมาธิของปลาทองที่นานถึง 9 วินาที ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจผู้ใช้งานทั่วไปโดย Kapook Poll พบว่า 70.19% คิดว่าสมาร์ทโฟนมีผลทำให้สมาธิสั้นลงจริง

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แม้การใช้งานหน้าจอเป็นผลให้คนเรามีสมาธิที่สั้นลง แต่คนเราก็ได้ทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมกันได้ด้วย ทั้งนี้ หากใช้แต่พอดีหรือใช้แต่พอเหมาะพอควร ก็จะเกิดประโยชน์ แต่หากใช้งานในลักษณะที่ไม่ดีหรือเสพติดเทคโนโลยีมากเกินไป หรือใช้งานไม่ถูกกาลเทศะ ก็จะส่งผลเสียได้เช่นกัน

ขอบคุณเนื้อหา focusshield.com

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ไอทีพลาซ่า's profile


โพสท์โดย: ไอทีพลาซ่า
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
28 VOTES (4/5 จาก 7 คน)
VOTED: Noina stupid, แม่หมูอุ๊, ginger bread, หล่อลงเบื้อย, Tikker, AdamS JaideE, PJHERO i am kira
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สำนักงานพุทธฯ สั่งตรวจสอบ พ่อแม่ "น้องไนซ์" เชื่อมจิตเอาอีกแล้ว! เขมรก็อปปี้หนังไทย เรื่องเด็กหญิงวัลลี ยอดกตัญญู?
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ยังจำ " คลิปแรก " ของโลกบน YouTube กันได้ไหม”ดอนเมือง“ ถูกยก สนามบินดีที่สุดในโลกอันดับ 10 ของสายการบินต้นทุนต่ำวิธีกินคอลลาเจนให้ได้ผลดีที่สุดเรื่องใกล้ตัวที่สาวๆไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด!!
ตั้งกระทู้ใหม่